ข่าว

หารือ ดีเอสไอ ชง “ดิไอคอน กรุ๊ป” เป็นคดีพิเศษ ชี้ดาราก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ

หารือ ดีเอสไอ ชง “ดิไอคอน กรุ๊ป” เป็นคดีพิเศษ ชี้ดาราก็ต้องเข้าสู่กระบวนการ

13 ต.ค. 2567

“จิราพร” หารือ ดีเอสไอ ชง “ดิไอคอน กรุ๊ป” เป็นคดีพิเศษ ชี้ดารา แจงพูดตามสคริปต์เป็นสิทธิ์ แต่ต้องเข้าสู่กระบวนการ

นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี​ กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบบริษัท The icon group ธุรกิจออนไลน์และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมสุขภาพ​ ว่า​ ขณะนี้มียอดของผู้มาร้องทุกข์​ 504  ราย​ ความเสียหาย​ 118 ล้านบาท ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีร่วมสอบสวน และยังมีผู้เสียหายเข้ามาร้องทุกข์ต่อเนื่อง

 

 

เมื่อถามว่า จำนวนยอดผู้เสียหาย และ มูลค่าความเสียหายเข้าเกณฑ์เป็นคดีพิเศษได้จะดำเนินการให้เป็นคดีพิเศษหรือไม่  นางสาวจิราพรกล่าวว่า ขณะนี้ดีเอสไอ ได้เข้ามาร่วมทำคดีนี้อยู่แล้ว เพื่อร่วมกันตรวจสอบข้อมูล และเมื่อมีผู้เสียหาย 300 คนขึ้นไปและมูลค่าความเสียหายเกิน 100 ล้านบาทก็เข้าเกณฑ์ที่จะเป็นคดีพิเศษ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับ ดีเอสไอ จะพิจารณาว่าจะรับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

มื่อถามว่าผู้เสียหายในพื้นที่ต่างจังหวัดจะต้องเข้ามาร้องทุกข์ภายในกรุงเทพกรุงเทพมหานคร หรือไม่ นางสาวจิราพร กล่าวว่า ผู้เสียหายสามารถไปร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจในพื้นที่ได้เลยไม่ต้องเดินทางมาที่กรุงเทพฯหรือโทร 1599 ตลอดจนยื่นร้องทุกข์ผ่านเว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 

 

ส่วนที่ สคบ.ถูกพาดพิง เรื่อง เทวดา สคบ.รับสินบน เรื่องนี้มีกรอบเวลาในการตรวจสอบหรือไม่?

นางสาวจิราพร กล่าวว่า ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพราะอยากได้คนนอกเข้ามาร่วมสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อให้เกิดความโปร่งใส คาดว่าจะสามารถแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ได้ในวันอังคารที่ 14 ตุลาคมนี้  

 

ส่วนกรณีที่ดารานักแสดงออกมาปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนกับการบริหารธุรกิจ ดิไอคอน กรุ๊ป และการโฆษณาก็เป็นการพูดตามสคริปต์ที่ทางบริษัทจัดให้เท่านั้น ส่งผลให้พ้นผิดได้หรือไม่

 

 

นางสาวจิราพร กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่จะชี้แจงกับประชาชน แต่ทุกคนก็ต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ซึ่งตำรวจอยู่ระหว่างการสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบข้อหาที่ชัดเจนก็จะมีการขยายผล 

 

เมื่อถามว่า สคบ.มีมาตรการตั้งรับอย่างไร เนื่องจากธุรกิจประเภทนี้มีผู้เสียหายทยอยเข้ามาแจ้งความจำนวนมาก นางสาวจิราพร กล่าวว่า ธุรกิจประเภทนี้มีความเสียหายมาแล้วในอดีต ซึ่งจะมีการอัพเกรดตามความเปลี่ยนแปลง หน่วยงานราชการเอง ก็ต้องมีการอัพเดทข้อมูลตลอดเวลา สคบ. ก็จะดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องกับตัวเองเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับประชาชน และในระยะยาวก็จะต้องมาพูดคุยกันเพื่อทำงานอย่างบูรณาการ และต้องกลับไปดูกฎหมายต่างๆที่เกี่ยวข้องว่าล้าสมัยหรือไม่ 

 

เมื่อถามว่าหลังจากนี้ สคบ.จะต้องทำงาน เชิงรุกมากขึ้นหรือไม่เนื่องจากธุรกิจขายตรงมีมากขึ้นป้องกันไม่ให้มีผู้เสียหายเกิดขึ้นอีก นางสาวจิรพรกล่าวว่า ตนได้หารือกับ สคบ. ว่าเรามีทั้ง พ.ร.บ.ขายตรง ตลาดแบบตรง และ พ.ร.บ. คุ้มครองผู้บริโภค ถ้ามีการอนุญาตธุรกิจประเภทนี้ จะต้องมีการมอนิเตอร์ อยู่ตลอด  เนื่องจากที่ผ่านมาเป็นลักษณะให้บริษัทเป็นผู้แจ้งงบการเงินเข้ามาทุกปี ไม่มีระบบเข้าไปตรวจในเชิงรุกจึงอยากเป็นประเด็นสำคัญที่อยากให้เข้าไปแก้ไขเพื่อให้การตรวจสอบมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

เมื่อถามว่าการมอบโล่รางวัลของ สคบ. จะต้องเข้มมากขึ้นหรือไม่ เพราะอาจจะเป็นการการันตีให้กับบริษัทขายตรงได้ นางสาวจิราพร ชี้แจงว่า การมอบ
โล่รางวัล ให้กับ ดิไอคอน กรุ๊ป เมื่อปี 2563 เนื่องจากบริษัทดังกล่าวได้เข้ามามอบยา และหน้ากากอนามัยรวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ในช่วงโควิด-19 ซึ่งมีการสัมมนาของคณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎร

 

โดย สคบ.ได้ส่งคนเข้าไปเป็นวิทยากรร่วม จึงมีการส่งชื่อบริษัทดังกล่าวเข้ามารับรางวัลในฐานะผู้ทำสาธารณะประโยชน์ ไม่ใช่รางวัลเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจ จึงสั่งการให้


สคบ. กลับไปดูข้อเท็จจริง และตรวจสอบว่าทางบริษัทดังกล่าวได้นำรางวัลไปใช้ในทางผิดวัตถุประสงค์หรือไม่ เช่นไปทำให้ประชาชนเข้าใจผิดว่าทางบริษัทประกอบธุรกิจได้ดีจึงได้รับรางวัล หากเข้าข่ายความผิดก็จะเรียกรางวัลคืน

 

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวพยามที่จะสอบถามนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ถึงประเด็นดิไอคอน  แต่นายกรัฐมนตรีได้โยนให้นางสาวจิราพรเป็นผู้ชี้แจงแทน