"บอสพอล" เผชิญหน้า ญาติเหยื่อ เสียพี่ชายเพราะ "ดิไอคอน"
"บอสพอล" โผล่"โหนกระแส" เผชิญหน้า ญาติเหยื่อ สูญเสียพี่ชายเพราะ "ดิไอคอน" เพื่อนสนิทเล่านาทีสลดซดยาพิษดับคาสาย
14 ต.ค. 2567 12.30 น. บอสพอล เข้าร่วมรายการโหนกระแส เผชิญหน้า ผู้เสียหาย
โดยคุณหนุ่ม กรรชัย ระบุว่า คุณนพอลมีความสนใจจะเข้ามาร่วมรายการโหนกระแสพร้อมถามคุณพอลว่าทำไมถึงกล้ามา
โดยคุณพอล ให้คำตอบว่า อยากมา เดิมตนกลัวที่จะมาแต่ตัดสินใจที่จะมาเพราะอยากมาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่
คุณหนุ่ม กรรชัย จึงเน้นย้ำให้บอสพอลมีสติ "สิ่งที่มันเกิดขึ้น ได้เกิดขึ้นแล้วคุณต้องยอมรับความจริง สิ่งที่คุณทำได้ตอนนี้คือต้องลุกขึ้นมายืนยันว่าจากนี้จะเอาอย่างไรต่อไป"
ซึ่งในวันนี้แขกรับเชิญคือผู้เสียหายจากกลุ่ม ดิไอคอน กรุ๊ป
นางสาวเอ (นามสมมุติ) เล่าว่า พี่ชายของเธอ ชื่อนายนิคม ร่วมลงทุนกับ the icon ซึ่งนำเงินเก็บของแม่อายุ 70 มาลงทุน แต่ไม่ทราบว่าใช้เงินไปเท่าไหร่ ตอนไปอบรมพี่เล่าว่าต้องเปิดบิล 250,000 บาท เชื่อว่าพี่ชายอยากจะสร้างชีวิตครอบครัวให้ดีขึ้น
โดยส่วนตัวเธอไม่รู้ว่าตอนไปอบรมพวกแม่ทีม แม่ข่ายเอาอะไรมาใส่หัวพี่เธอบ้าง กระทั่งเธอได้ติดตามข่าวจึงทราบว่าทำไมพี่ชายถึงได้กดดัน
ซึ่งสถานการณ์ของพี่ชายในตอนนั้นคงจะเหมือนกับเธอในตอนนี้ที่ไม่ไหวและไปต่อไม่ได้ ขายของไม่ได้ ต้องเป็นหนี้จากคนที่มีเงินเก็บต้องกลายมาเป็นคนที่มีหนี้
บอสพอล จึงถามนางสาวเอว่า ไม่ได้ติดต่อมาที่ตนใช่ไหม เพราะตนไม่เคยทราบเรื่องนี้เลย
ซึ่งวันที่เกิดเรื่องนางสาวเอ ได้ติดต่อ แม่ทีม ที่ชักชวนพี่ชายของตนลงทุนเพื่อขอเงินบางส่วนคืนเนื่องจากพี่ชายของเธอได้เสียชีวิตแล้วเธออยากจะนำเงินไปคืนให้แม่
แต่นายบุญมีทำเพียงแค่แสดงความเสียใจและบอกว่าจะช่วยก่อนที่จะบอกหายไปเป็นเวลานาน ก่อนจะโทรกลับมาแจ้งว่าไม่สามารถคืนเงินได้ และแนะนำว่าหากอยากได้เงินคืนให้กลับมาขายสินค้าแทนพี่ชายโดยวิธีการสวมสิทธิ์ชื่อพี่ชาย ซึ่งตัวเธอไม่ยินยอมจึงไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย
โดยตัวพี่ชายของเธอมีเพื่อนสนิทชื่อนายเบิ้ม ก่อนหน้านี้พี่ชายของตนและเพื่อนสนิทชื่อนายเบิ้มเคยเปิดร้านอาหารกันแต่เกิดวิกฤตโควิดจึงแยกย้ายกันไปและมีคนมาชวนลงทุนกับ the icon
ต่อมาหนุ่ม กรรชัย ได้ยื่นเอกสารบางอย่างของผู้เสียชีวิตให้บอสพอได้ดู โดยระบุว่าเป็นเอกสารใช้สำหรับสมัครตัวแทนจำหน่าย the icon group รวมถึงให้ดูใบมรณะบัตรของนายนิคมด้วย คาดว่าเพื่อเป็นการยืนยันว่านายนิคมเสียชีวิต
จริง
ก่อนที่จะต่อสายหานายเบิ้มเพื่อนสนิทของนายนิคม โดยนายเบิ้ม ได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระบุว่า มีตัวแทนมาชวนร่วมลงทุนโดยอ้างว่าจะได้รับผลตอบแทนมีรถหรูขับโดยแค่ลงทุนไม่จำเป็นต้องขาย นายนิคมหลงเชื่อลงทุนไป 250,000 บาท
แต่เมื่อลงทุนไปกลับขายไม่ได้ และสินค้ามากองอยู่ที่บ้านเต็มไปหมด เงินก็ไม่ได้คืนให้แม่นางสาวเอสักที โดยนายนิคมเกิดอาการเครียดหนัก และส่งของให้นายเบิ้มช่วยขายเพื่อระบายออกส่วนนายเบิ้มก็ไม่สามารถขายได้เช่นกัน นายนิคมจึงได้ video call หานายเบิ้ม
ว่าอยู่ที่พะเยาไม่ได้แล้วเพราะไม่มีเงินไปคืนแม่นางสาวเอเลยอยากขอกลับไปทำงานที่นครสวรรค์ นายเบิ้มก็มองว่าที่นครสวรรค์กลับมาก็ไม่สามารถทำธุรกิจได้แล้วเพราะลูกค้าก็น้อยลง
นายนิคมจึงเกิดความเครียดหนักจึงบอกว่าขอตาย โดยการดื่มยาฆ่าหญ้าก่อนจะเสียชีวิตคาสาย ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดเกิดขึ้นเมื่อปลายปี 2565
หลังจากในเบิ้มเล่าเรื่องราวทั้งหมด คุณหนุ่ม กรรชัย ได้ถามบอสพอลต่อว่า เคยรู้หรือทราบมาก่อนไหมว่ามีผู้เสียหาย
บอสพอลตอบทั้งน้ำตาว่า ไม่เคยได้รับทราบว่ามีผู้เสียชีวิต คุณพอล ร่ำไห้บางรายการโหนกระแสระบุว่า " ผมขอโทษและเสียใจแทน"
คุณหนุ่ม กรรชัย กล่าวเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทำให้ตนต้องออกมาเคลื่อนไหวเรื่องดังกล่าวว่า อยากให้คุณพอลได้รู้ว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นกับ the icon นี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมพูดถึงเรื่องนี้