บิ๊กบอส ตอบยัง งง หน้าที่ ดารา ในสัญญา ดิไอคอน สรุป พรีเซ็นเตอร์ หรือร่วมลงทุน?
บอสพอล ตอบแล้ว หน้าที่ของ "บอส" ใน "ดิไอคอน" ทำอะไรบ้าง สรุปแล้วสัญญาจ้าง "ดารา-คนดัง" เป็น พรีเซ็นเตอร์ หรือ ผู้ร่วมลงทุน
เรื่องของ “ดารา-คนดัง” ที่หลายคนต่างประกาศตัวว่าเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว “ดิไอคอน กรุ๊ป” เรียกแทนตัวเองว่า “บอส” สร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์จนทำให้มีคนหลงกลเข้ามาเป็น “ตัวแทนขาย” หรือ “ดีลเลอร์” ของบริษัทขายตรง ก่อนกลายเป็นผู้เสียหาย บางรายชีวิตถึงทางตันจนถึงขั้นจบชีวิตตัวเอง
ซึ่งภายหลังจากเกิดเรื่องราวจนเป็นคดีความ เหล่า ดารา คนดัง ต่างออกมาปฎิเสธเป็นเสียงเดียวกันว่า ไม่ได้เป็น “บอส” ของ “ดิไอคอน” แต่ความสงสัยและเคลือบแคลงของสังคมยังไม่ถูกถอดออกจนหมด
14 ต.ค. 2567 นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอ ดิไอคอน กรุ๊ป หรือ บอสพอล ได้ตอบคำถามดังกล่าว ผ่านรายการ “โหนกระแส” โดยมี หนุ่ม กรรชัย เป็นผู้ดำเนินรายการ ระหว่างชี้แจงนั้น บอสพอล ได้ร้องไห้และขอโทษผู้เสียหาย พร้อมยืนยันว่าไม่รู้ว่ามีคนเสียชีวิต ทั้งนี้บางช่วงได้ยกมือไหว้บอกว่ายอมแพ้มาตั้งนานแล้ว ไม่รู้ว่าตอนนี้สู้กับอะไร
สำหรับคำว่าบอสนั้นตอนแรกมีเยอะ ประมาณ 20 คน จากนั้นก็มาดูว่าที่เป็นบอสแต่ละคนนั้นเหมาะมั้ย และตอนนี้เหลือบอส 10 คน บอสมีหน้าที่คือตัวแทนจำหน่าย ส่วนแม่ข่ายคือตัวแทนจำหน่ายของบอสนั้น ๆ จะกระจายออกไป บอส 1 คน จะมีทีมเป็นของตัวเอง จะมีเครือข่ายของแต่ละคน
ต่อให้มีแม่ทีมหรือบอสกี่คนนั้น แต่เวลาเปิดบิลจะเปิดที่บริษัทดิไอคอนโดยตรง พอสั่งซื้อก็จะเตรียมสินค้า และระบบมี 2 อย่างคือ ฝากหรือกด ปีแรกขายได้น้อย จากนั้นเริ่มขายได้มากขึ้น ปีแรกมีสินค้าตัวเดียวคือคอลลาเจน ก่อนจะพัฒนากาแฟ และพัฒนา จนปัจจุบันมีสินค้า 14 ตัว ยูสเซอร์มีประมาณ 3-4 แสนคน ไม่ถึง 6 แสนตามที่บางคนบอก
บอสได้ค่าตอบแทนจากการขาย ถ้าขายเยอะได้เยอะ ขายได้น้อยได้น้อย โดยบอส 10 ท่าน รายได้ต่างกันสิ้นเชิง ใครจะขายได้เยอะ ก็เป็นความสามารถเฉพาะตัว บางคนขับรถหรู มันได้แบบนั้นจริง เพราะเขาไม่ได้เพิ่งทำ เขาทำมานาน จากวันนั้นถึงวันที่ บริษัทเปิดมา 6 ปีกว่า
ส่วนเหล่านักแสดงนั้นเป็นพรีเซ็นเตอร์ เราจะดูว่าสินค้าตัวไหนที่เหมาะสมกับดาราท่านไหน ก็จะมีการติดต่อไปขอว่าสนใจเป็นพรีเซ็นเตอร์หรือไม่
หนุ่ม กรรชัย ถามว่า ในสัญญาพรีเซ็นเตอร์มีการบอกหรือไม่ว่าให้มาร่วมลงทุนกับดิไอคอนกรุ๊ป จากนั้นทางรายการได้เปิดคลิปที่ กันต์ กันตถาวร พูดบนเวทีงานของ ดิไอคอนกรุ๊ป หลังคลิปจบ หนุ่ม กรรชัย ถามว่า คลิปที่กันต์พูดคิดว่าเป็นการชวนมาลงทุนมั้ย
บอสพอล ตอบว่า จริง ๆ เป็นการชวนให้มาทำธุรกิจกับดิไอคอนกรุ๊ป
หนุ่ม กรรชัย แย้งว่า ตอนต้นรายการคุณบอกว่าชวนมาลงทุน ตอนนี้บอกไม่ใช่ พูดแบบนี้มันจะเป็นการสับไปสับมาหรือไม่
บอสพอล ตอบว่า ผมไม่ได้สับไปสับมา การทำธุรกิจคือการซื้อสินค้ามาขายก็ถูกครับ ผมไม่เข้าใจความหมายของพี่หนุ่มที่พยายามจะย้ำเรื่องลงทุน ลงทุน ลงทุน อย่างนี้ ผมเลยกลัวว่าถ้าไปคอนเฟิร์มว่ามันคือการลงทุนหรือระดมทุนอะไรก็ตามในความหมายของพี่หนุ่ม ผมมีความหมายว่าไม่ใช่
ทาง หนุ่ม กรรชัย บอกต่อว่า ไม่ต้องเลี่ยงบาลี อยากให้พูดตามข้อเท็จจริง ไม่ต้องระวังทนายฟังอยู่ เพราะสุดท้ายพูดกับตำรวจจะยิ่งกว่านี้ แต่ประเด็นแบบนี้สิ่งที่เขาพูดโดยวิญญูชน มันไม่ใช่การชวนลงทุน เพราะที่ผมย้ำ เพราะสิ่งที่คุณกำลังทำอยู่มีคนกำลังมองว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ คุณรู้ใช่มั้ย
บอสพอล ตอบกลับว่า ผมไม่มีความรู้เรื่องแชร์ลูกโซ่ เพราะผมไม่ได้ทำแบบนั้น สิ่งที่ผมทำคือธุรกิจ ผมสั่งสินค้ามา ผมก็ขายสินค้า อันนี้ผมบอกน้องกันต์ให้พูดแนะนำให้มาขายสินค้าออนไลน์ที่พี่สร้างไว้ดีๆแบบนี้มันจะขายง่ายกว่าที่อื่น สาระสำคัญอยู่ตรงนี้
หนุ่ม กรรชัย ถามต่อว่า อันนี้เป็นหน้าที่ของพรีเซ็นเตอร์หรือป่าว
บอสพอล กล่าวว่า จริงๆขึ้นอยู่กับเขาว่าจะทำตามที่ผมไหว้วานหรือป่าว ถ้าผมไหว้วานแล้วเขาไม่ทำต่อได้ หรือเขาจะทำก็ได้ อันนี้ผมเป็นคนไหว้วานเขาว่าน้องกันต์ช่วยพูดตรงนี้หน่อยได้มั้ย ว่าบริษัทระบบซัพพอร์ตการขายของออนไลน์ที่ดีอย่างนี้
ส่วน มิน พีชญา ก็เป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้าทุกตัว ไม่ทราบว่ามีการชวนลงทุนมั้ย ในความหมายของพี่หนุ่ม ว่าเขาไปพูดยังไง ผมว่ามันอยู่ที่บริบทมากกว่า ผมมีขอบเขตในสัญญาแล้ว และตกลงเงิน ถ้าทำน้อยหรือมากกว่านั้นก็ผิดสัญญา
บอสพอล กล่าวว่า คิดว่าสิ่งที่เขาโดน ผมสงสารน้องๆมากเลย เมื่อวานก็เป็นวันเกิดคุณพ่อ น้องเขาก็เครียดมากจากเรื่องราวที่เกิดขึ้น (ร้องไห้)
หนุ่มกรรชัย บอกว่า ตอนนี้คุณไม่ได้เป็นผู้ต้องหาในมุมของกฎหมายอย่างเดียว แต่คุณเป็นผู้ต้องหาของสังคมด้วย
ส่วนที่พรีเซ็นเตอร์ออกมาแจงว่ามีสริปต์จากทางดิไอคอน บอสพอล กล่าวว่า ผมขอให้พวกเขาพูดบ้าง มีสคริปต์จริงอยู่แล้ว ที่ทางทีมงาน ลักษณะของน้องกันต์ ฝ่ายคอนเทนต์ก็เขียนโดยรวม และตรงนี้ผมก็ไปไหว้วานว่าสะดวกใจพูดตรงนี้ให้ได้มั้ย
แอคเคาท์ ดิไอคอน 3-4 แสนยูสเซอร์ ?
การที่บริษัทมีตัวแทนจำหน่ายประมาณ 3-4 แสนยูสเซอร์ หากสั่งสินค้าพร้อมกันทั้งหมด มีสินค้าจริงครบหรือไม่ “บอสพอล” บอกว่า มีอยู่จริง แต่ไม่ได้มีอยู่พร้อมกัน เพราะสถานการณ์จริงไม่ได้เกิดขึ้นพร้อมกัน ซึ่งจะไม่เกิดเหตุการณ์ซื้อพร้อมกัน 4 แสนยูสเซอร์อยู่แล้ว
เมื่อถามว่าตำรวจเข้ารวจสอบโกดังทำไมมีสินค้าไม่มาก “บอสพอล” บอกว่า พอมีการออกข่าวเรื่องบริษัทไป หลายคนก็มีความกังวล ก็เลยมีการกดเบิกสินค้า จากปกติเบิก 100% เพิ่มขึ้นเป็น 1000% ซึ่งก็เป็นการทำงานที่เราไม่เคยรับมือมากก่อนก็เลยต้องเอาทีมงานเข้าไปมากขึ้น ซึ่งภาพที่เห็นก็คือภาพที่คลังสินค้าถูกกดเบิกออกไปแล้ว แต่หากย้อนดูกล้องวงจรปิดก่อนหน้านั้นแค่วีนเดียว จะเห็นว่ามีสินค้าอยู่เต็มเลย ซึ่งยืนยันว่ามีการส่งสินค้าออกจากคลังเป็นล้านลังเลย
ขอบคุณข้อมูล : โหนกระแส