แทบจะเฉลย! "เอกภพ" แฉ เทวดา "บอสพอล" มีหลายสี กิน เงินดิจิทัล เป็นของเซ่นไหว้
"เอกภพ" ปูด มี เทวดาคุ้มครองบอสใหญ่ “ดิไอคอน” แลกเซ่นไหว้เป็น เงินดิจิตอล หลักหมื่นล้าน แฉเทวดามีหลายสีหลายคน ส่งรัฐมนตรีเป็นหน้าเสื่อเจรจา
15 ต.ค. 2567 นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด และผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า ได้รับข้อมูลจากบุคคลหนึ่งที่อ้างว่า เคยอยู่ในเครือข่าย "ดิไอคอน กรุ๊ป" ตั้งแต่สมัยก่อตั้งบริษัท ซึ่งมีการไปดูระบบหลังบ้านต่างๆ ให้ข้อมูลว่า บริษัทนี้ รวมถึงบอส... ซึ่งตนเองไม่ขอเอ่ยชื่อว่าใคร มีความใกล้ชิดกับผู้ใหญ่ระดับสูงในรัฐบาล ซึ่งจะขอใช้คำว่า “เทวดา” มีการเซ่นไหว้เทวดา โดยมีการใช้เงินสดแปลงเป็น สกุลเงินดิจิตอล ที่เรียกว่า USTD ซึ่งผู้ที่ให้ข้อมูลกระทั่งว่า มีหลักฐานว่า บอส… ไปเบิกเงินสดที่ไหน และไปแลกเป็นเงินคริปโต สกุล USTD ที่ไหน ซึ่งทราบว่า ไปแลกเงินกับกลุ่มจีนเทา จึงเอาข้อมูลมาให้ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพราะมีความเชื่อมั่นว่า จะทำความจริงให้ปรากฏ
นายเอกภพ ยังบอกอีกว่าหากวันนี้ยังมีใครโทรศัพท์มาหาตนเองเพื่อให้ไม่พูดอะไร ตนเองจะเอ่ยชื่อ พร้อม ฝากไปถึงแม่ข่ายและบอสบางคนที่อยู่ในกลุ่มบอส 3 คนที่เป็นตัวจักรสำคัญของเรื่อง ว่าวันนี้บอสใหญ่เอาคุณเป็นเหยื่อ ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ตนเองเชื่อว่าเหยื่อมักจะไม่รอด ดังนั้นควรรีบออกมาให้ข้อมูลกับตำรวจ
รวมถึงตัวบอสพอลด้วยเช่นกัน เพราะการที่มีคลิปสนทนารับสินบนหลุดออกมา ตนเองเชื่อว่าไม่ได้หลุดออกมาจากฝั่งที่มีการเรียกรับผลประโยชน์หรอก ส่วนจะหลุดจากฝั่งไหนเชื่อว่าบอสพอลเองก็ทราบดี วันนี้เชื่อว่าเทวดาคงจะไม่พอใจ เพราะกังวลว่าการเจรจาของเขากับบอสพอลน่าจะถูกบันทึกเสียงไว้ ดังนั้นหากบอสพอลหายไป คนที่เรียกรับผลประโยชน์ก็จะปลอดภัย วันนี้ตนเองเชื่อว่าบอสพอตกอยู่ในอันตราย จึงขอให้มาร่วมมือกับพวกเราและมาเปิดข้อมูลเถอะว่าใครเป็นคนเรียกรับ แล้วจะปลอดภัย
ส่วนวานนี้ (14 ต.ค.) ที่ บอสพอล ไปออกรายการโหนกระแส ไม่พูดถึงเรื่องนี้ ตนเองก็เข้าใจได้ ว่า ถูก เทวดา บอกว่าไม่ต้องพูด เดี๋ยวจะจัดการทุกอย่างให้ วันนี้ บอสพอล จึงเลือกจะอยู่นิ่ง แต่เชื่อเถอะว่า ตอนนี้ เทวดา ไม่ปลื้มแล้ว วันนี้ขอให้เอาทรัพย์สินเงินดิจิทัล ที่มีไปขาย แล้วมาชดใช้ประชาชนที่ยากลำบาก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เทวดา ที่พูดถึงอยู่พรรคไหน สีไหนขอให้ใบ้หน่อย นายเอกภพ ไม่ตอบ บอกว่า ถ้าพูดแล้วจะรู้เลย แต่ยืนยันว่า เทวดา มีหลายสี พร้อมฝากบอกผู้ใหญ่ในรัฐบาล ทั้งรัฐบาลก่อน และรัฐบาลปัจจุบัน ขอให้หยุดการกระทำ แล้วไม่ต้องให้หน้าเสื่อติดต่อแทน รวมถึงผู้ใหญ่ใน สคบ. ว่า ทำอะไรอยู่ ระวังหากเขาเปิดโปงขึ้นมาจะหน้าหงายทั้งหมด และฝากบอกตำรวจบางหน่วยงานที่รับเครื่องเซ่น อยู่ ขอให้หยุดการกระทำ พร้อมบอกว่า ตนเอง ทราบมาว่า มีตำรวจในกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางที่ทราบเรื่องนี้ด้วย แต่ยังเชื่อมั่นในตัวผู้บัญชาการ
ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามต่อว่าขณะนี้เทวดาอยู่ต่างประเทศหรือไม่ นายเอกภพ ยืนยันว่า เทวดาอยู่ที่ประเทศไทย เมื่อถามว่าตอนนี้เทวดาไปเที่ยวจีนอยู่หรือไม่ นายเอกภพ ตอบว่า “ตอบไม่ได้ครับ เดี๋ยวตอบแล้วจะรู้ครับ”
เมื่อถามว่าตอนนี้เทวดายังอยู่ในรัฐบาลหรือไม่ นายเอกภพ บอกว่า “ตอบไม่ได้ หากตอบจะรู้” ส่วนเมื่อถามว่า เทวดา เคยมีข่าวกับจีนเทาหรือไม่ นายเอกภพบอกว่า “มีหลายคน”
เมื่อถามต่อว่า เทวดา “เคย” อยู่ในรัฐบาลหรือไม่ นายเอกภพ ตอบเพียงว่า “เทวดา มีอำนาจมาก” ก่อนที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด จะแทรกว่า น่าจะเป็น เทวดา ระดับใหญ่กว่าที่มีคลิปเสียง
เมื่อสื่อถามว่า เทวดา ดูแลนานแค่ไหนแล้ว นายเอกภพ ระบุว่า ก่อนหน้านี้มีการให้ รัฐมนตรี คนหนึ่งเป็นหน้าเสื่อคอยคุย ส่วนปัจจุบันจะมีตำแหน่งอะไรในรัฐบาลหรือไม่ ตอบไม่ได้ พร้อมยืนยันว่า เป็นผู้ชาย แต่อายุเท่าไหร่ ตอบไม่ได้ เพราะจะชี้ชัดเกินไป รวมถึงไม่ตอบว่าเป็นคนที่ออกสื่อบ่อยๆ หรือไม่
เมื่อถาม เทวดา ท่านนี้อยู่ในเมือง หรือไม่ นายเอกภพ ยังไม่ทันตอบ แต่นายษิทราแทรกขึ้นมาก่อนว่า “อยู่ในป่า…หรือเปล่า“ ก่อนที่นายเอกภพจะบอกว่า “ไม่เข้าใจคำถาม” ก่อนบอกต่อว่า “เทวดา อยู่บนฟ้า” พร้อมย้ำว่า เทวดา ชอบกินเงินดิจิทัล
พร้อมบอกว่า ตนเองมีข้อมูลว่า สมาชิกในเครือข่าย “ดิไอคอน กรุ๊ป” จากที่ บอสพอล เปิดเผยว่า ปี 2565 มีสมาชิกเกือบ 500,000 คน ตนเองมีข้อมูลว่า ในปี 2556-2567 หลังมี ดารา เข้ามาร่วมโปรโมท มีจำนวนสมาชิกมากกว่านั้น รวมถึงกรณีที่บอสพอล พูดในรายการว่า ทุกคนต้องเปิดบิล กับบริษัท เท่านั้น ตัวเองมีหลักฐานว่า การเปิดบิลนั้น มีการจ่าย กับแม่ทีม ไม่ได้เปิดที่บริษัท ซึ่งตัวเลขต่างๆ คงต้องให้ตำรวจขยายผล
ด้านพยาน ที่จะเข้าให้ข้อมูล กับผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งเคยเป็นบุคคลที่ทำงาน กับ บริษัท ดิไอคอน และดูแลระบบหลังบ้าน ให้สัมภาษณ์ เบื้องต้นว่า ตนเองมีข้อมูล และเดี๋ยวจะเอาข้อมูลให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบเส้นทางการเงินกับบุคคลบางคน ที่เรียกว่า เทวดา
ส่วนจ่ายเงินแบบไหนนั้น พยานระบุว่า จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา จ่ายไปหลักหมื่นล้านบาท ตั้งแต่ปี 2563 ซึ่งเทวดา มีหลายคน ที่จ่ายให้ และเทวดาจะคุ้มครอง 4 หน่วยงานหลัก หน่วยงานที่ดูแลคุ้มครองผู้บริโภค /ปคบ./ดีเอสไอ /สอท. โดยเทวดาเป็นคนเอาเงินไปจัดสรรให้แต่ละหน่วยงานเอง แต่เทวดาไม่ได้รับโดยตรง ซึ่งจะมีหน้าเสื่ออีกที
พอนักข่าวถามว่า เปลี่ยนรัฐบาลแล้ว เปลี่ยนเทวดาด้วยหรือไม่ พยานไม่ขอตอบขอให้ข้อมูลกับตำรวจ ทั้งนี้เหตุผลที่ตัดสินใจออกมาให้ข้อมูล เพราะไม่อยากให้ประชาชนโดยเอารัดเอาเปรียบไปมากกว่านี้