หนุ่มเกาหลี ท้าทายกฎหมายแอบอัดคลิปในห้องขัง | คมชัดลึก

จากกรณีที่มีคลิปหนุ่มเกาหลีถ่ายคลิปในห้องขังในประเทศไทยแล้วนำไปเผยแพร่ที่ประเทศเกาหลี ทราบชื่อ นายซอ จองนัม ( MR.SEO JUNGNAM ) อายุ 44 ปี สัญชาติ เกาหลีใต้ ถูกตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดชลบุรี จับกุม ในความผิดฐาน “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (โอเวอร์สเตย์ จำนวน 373 วัน)” เมื่อวันที่ 3 ต.ค. โดยสามารถจับกุมได้ที่ห้องพัก ใน ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ก่อนจะถูกควบคุมตัว ส่งพนักงานสอบสวน สภ. หนองปรือ เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย

ต่อมา ตำรวจ สภ.หนองปรือ ได้นำตัว นายซอ จองนัม ส่งฟ้องศาลจังหวัดพัทยา ก่อนจะถูกศาลตัดสินเปรียบเทียบปรับและผลักดันออกนอกประเทศไทย ตม.ชลบุรี จึงเดินทางไปรับตัวก่อนส่งต่อให้ ตม.กทม. (สวนพูล) ผลักดันออกนอกประเทศ

ในระหว่างการรอส่งตัวไปยัง ตม.กทม. (สวนพลู) ตำรวจ ตม.ชลบุรี ได้นำตัว นายซอ จองนัม ไปฝากขังกับทางห้องควบคุมขัง สภ.บางละมุง เพราะที่ ตม.ชลบุรี ไม่มีห้องคุมขัง 

จนกระทั่งวันที่ 14 ต.ค. 2567 ตำรวจ ตม.ชลบุรี จะมาเบิกตัว ผู้ต้องหารายนี้ แล้วส่งตัวไปยัง ตม.กทม. (สวนพลู) เพื่อผลักดันออกนอกประเทศต่อไป 

สำหรับคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ทำให้สังคมเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม รวมถึงความบกพร่องของการทำงานของเจ้าหน้าที่ โดยตอนแรกที่คลิปดังกล่าวเผยแพร่ออกมา มีการเข้าใจว่า เป็นคลิปถ่ายจากเรือนจำ 

จากนั้น กรมราชทัณฑ์ ออกมาชี้แจงว่า คลิปดังกล่าวไม่ใช่ของการเรือนจำ แต่เป็นคลิปถ่ายจากห้องขัง ตม.ชลบุรี

เบื้องต้นทาง พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก. ตม.ชลบุรี และ ทาง พ.ต.อ.นาวิน สินธุรัตน์ ผกก.สภ.บางละมุง กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าวที่เกิดขึ้น 

สำหรับ นายซอ จองนัม ถูกทางการสาธารณรัฐเกาหลี ออกหมายจับฐานสมคบกับบุคคลอื่น ส่งยาเสพติดจากประเทศไทย ไปยังสาธารณรัฐเกาหลี โดยส่งยาเสพติดประเภทไอซ์ น้ำหนัก 38.46 กรัม ซุกซ่อนในถุงกาแฟและถั่ว ในรูปแบบของพัสดุ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค. 2566 โดยทางการเกาหลีได้ตรวจยึดพัสดุดังกล่าวได้ที่ประเทศเกาหลี 

ต่อมาทางการเกาหลีมีการสืบสวนสอบสวน จนทราบว่า ตัวการสำคัญ คือ นายซอ จองนัม และยังอาศัยอาศัยอยู่ในประเทศไทย จึงมีการประสานให้ทางการไทย ช่วยติดตามจับกุม ก่อนจะมาถูก ตม.ชลบุรี จับกุมได้ในเวลาต่อมา ซึ่งในระหว่างถูกควบคุมตัวในห้องขัง ก็ปรากฏว่า ผู้ต้องหามีการแอบถ่ายคลิป แล้วนำไปเผยแพร่ดังกล่าว