ข่าว

หนุ่มเศร้า แม่ลงทุน "ดิไอคอน กรุ๊ป" หาเงินรักษามะเร็ง สูญเงิน500,000

หนุ่มเศร้า แม่ลงทุน "ดิไอคอน กรุ๊ป" หาเงินรักษามะเร็ง สูญเงิน500,000

17 ต.ค. 2567

หนุ่มเศร้า แม่ลงทุน "ดิไอคอน กรุ๊ป" 500,000 หวังหาเงิน "รักษามะเร็ง" สุดท้ายขายไม่ได้ สูญเงินฟรี เครียดทรุดหนักเสียชีวิต

17 ต.ค. 2557 กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Pattarachat Netsomboon” โพสต์ภาพขณะที่ตัวเองรถน้ำศพและแตะแก้มคุณแม่เพื่อแสดงความอาลัย พร้อมข้อความระบุว่า

 

“เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2566 วันสุดท้ายของแม่กู ข้อความแสดงความเสียใจ แม้แต่ประโยคเดียวยังไม่มี อย่าถามพวงหรีด เค้าลงทุนกับมึงขนาดนี้ น้ำใจของทีมมึงไม่มีสักนิดเลยหรอ เป็นคนให้ได้ก่อนเนอะ ก่อนเป็นบอส *วัดที่ออกข่าววันนี้ คือวัดบ้านกูเอง งื้อออ บอสเคยมานิ ไม่มาเผาแม่กูหน่อยละ”

หนุ่มเศร้า แม่ลงทุน \"ดิไอคอน กรุ๊ป\" หาเงินรักษามะเร็ง สูญเงิน500,000

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพูดคุยกับเจ้าของเฟซบุ๊กคนดังกล่าว คือ นายชนัสก์นันท์ อายุ 36 ปี หรือคุณแบงค์ ชาว อ.เมือง จ.ขอนแก่น ลูกชายนางสุดใจ อายุ 62 ปี ที่จากไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566

 

ซึ่งลูกชายเชื่อว่าหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้แม่อาการทรุดจนเสียชีวิต เพราะเครียดจากการไปลงทุนสินค้ากับ ดิไอคอน กรุ๊ป สุดท้ายสินค้าขายไม่ออก คืนสินค้าก็ไม่ได้ ทำให้แม่เกิดความเครียดบวกกับโรคประจำตัวที่เป็นจนสุดท้ายเสียชีวิต

 

 โดยนาย ชนัสถ์นันท์ ได้เปิดเผยว่าเคยเตือนแม่ว่าอย่าไปลงทุนสินค้าออนไลน์แล้ว เนื่องจากแม่มาถามว่าไปมัลดีฟส์ต้องใช้เงินเท่าไหร่

 

ซึ่งแม่ได้สมัครเป็นแม่ค้าออนไลน์ โดยมีโปรโมชั่นไปเที่ยวมัลดีฟ เดือน พ.ค.65 คุณแบงค์ก็พยายามสอบถามข้อมูลว่าคืออะไร ทำไมไปได้ง่ายดายขนาดนั้น และยังแนะนำให้ดูข้อตกลงดีดี ต้องเปิดบิลกับเขาเท่าไหร่ และคุณแบงค์เสนอจะช่วยดูอีกที

 

 

แม่ได้ส่งภาพบิลดิลเลอร์ที่จะได้ตั๋วเที่ยวมัลดีฟ 1 ใบ ระบุราคาจ่ายปกติ 261,940 บาท และจะได้สินค้าเป็น กาแฟ 500 แพ็ค และ คอลลาเจน 275 กล่อง แต่จะได้รับเงินคืน 26,250 บาท ซึ่งระบุเงินที่จะจ่ายจริงเป็นเงิน 235,690 บาท และยังมีเงื่อนไขพิเศษหากไม่ไปมัลดีฟจะได้เงินคืนอีก 40,000 บาท

 

ทำให้ยอดเงินที่จ่ายบิลดิลเลอร์ตัวนี้แบบไม่เอาตั๋วเที่ยวมัลดีฟอยู่ที่ราคาทั้งสิ้น 195,690 บาท พร้อมทั้งบอกลูกชายให้เข้าไปดูในเฟซบุ๊กของ บอสปัน 

 

โดยคุณแบงค์ ได้บอกแม่ว่า จ่าย 2 แสน สามารถไปได้ทั้งครอบครัว แต่คุณแม่ได้ทำการลงทุนเปิดบิลดิลเลอร์ตัวนี้ไปแล้ว และยังบอกอีกว่าเป็นของบอสพอล เป็นการขายออนไลน์ ซึ่งจะให้ของมาให้เราขายและไม่ต้องสต็อกของ ไม่ต้องเดินขาย ยิงการตลาดขายทางออนไลน์เอา 

 

อีกทั้งยังได้ชักชวนลูกให้มาร่วมทำออนไลน์กับแม่โดยแม่จะลงทุนให้อีกด้วย และให้แบงค์ไปศึกษาเกี่ยวกับ ดิไอคอนดูเพราะน่าสนใจ ซึ่งคุณแบงค์ก็พยายามดึงสติคุณแม่กลับมาอย่าใจร้อนให้มองหลายๆมุม แต่สุดท้ายแม่ก็ยังคงร่วมลงทุนเช่นเดิมและเข้าคอร์สเรียนคอร์สอบรมตามจังหวัดต่างๆอีกทุกๆสัปดาห์

 

 

กระทั่งคุณแบงค์มาทราบภายหลังถึงเหตุผลที่แม่อยากเรียนการตลาดออนไลน์ลงทุนซื้อสินค้ากับดิไอคอนมาขาย เพราะแม่ต้องการหาเงินมารักษาตัวเองที่ป่วยเป็นมะเร็งและมีโรคประจำตัว โดยแม่ส่งข้อความบอกแบงค์ว่า “แม่ก็คิดแล้วว่าเงินมันคงไม่พอจะใช้ในการรักษา แม่ก็เลยคิดว่าจะหาเงินจากทางไหนเพิ่มดี เพราะไม่มีใครช่วยแม่ถ้าแม่ไม่ช่วยตัวเอง”

 

โดยคุณแบงค์ก็พยามพูดให้แม่คิดและออกมาจากดิไอคอน แต่สุดท้ายแม่ก็เสียชีวิตไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.2566 ที่ผ่านมา พร้อมทั้งยังได้เปิดเผยภาพขณะที่แม่ไปร่วมอบรมกับเครือข่ายขายสินค้าดิไอคอนกรุ๊ปทั้งที่ กทม. อุดรธานี

 ซึ่งแม่ได้เก็บภาพต่างๆที่ถ่ายร่วมกันเอาไว้ ทั้งการอบรม การเต้นตามจังหวะเพลง นอกจากนี้ยังมีกระดาษ 1 แผ่นที่แม่ไปประชุมกับเครือข่ายดิไอคอนกรุ๊ป เป็นกระดาษที่วาดเขียนกระดานความฝันของแม่เอาไว้ 

 

โดยเป็นความฝันที่แม่อยากจะให้เกิดขึ้นจริงภายใน 4 ปีเมื่อเข้าสู่เครือข่ายของดิไอคอนกรุ๊ปแล้ว แม่ได้เข้ามาร่วมลงทุนในเดือน พ.ค.2565 ความฝันแรกของแม่ที่เขียนในกระดานความฝันคือ เป็นระดับ โกลด์ ดิลเลอร์ มีชุดสูตรสวยๆใส่ในราคาหมื่นอัพ ตั้งใจให้สำเร็จในเดือน ส.ค.65 

 

 

ความฝันที่ 2 อยากให้เกิดขึ้นในเดือน พ.ค.66 โดยไปถึงระดับ แกรนด์ ดิลเลอร์ ซื้อกระเป๋าใบละ 2-3 หมื่นมาใช้ 

 

ความฝันที่ 3 ในเดือน พ.ค.67 ไปถึงระดับ แพลทตินั่ม ดิลเลอร์ ดาวส์รถ BMW สีขาวมาขับ 

 

ความฝันที่ 4 ไปให้ถึงระดับ เพลซิเดนเชี่ยล ดิลเลอร์ โดยมีความฝันที่จะหยุดการทำงานทุกอย่าง พาครอบครัวไปเยี่ยมเพื่อนที่อเมริกา 

 

แต่ตนเองไม่ทราบในรายละเอียดลึกๆว่าใครเป็นบอส หรือแม่เป็นลูกทีมของใคร แต่แม่ไม่ได้มีใครแนะนำให้รู้จักดิไอคอน แม่มารู้จักจากโปรโมชั่นทำการตลาดออนไลน์ 98 บาท

 

 ส่วนสินค้าที่ได้มานั้น บางส่วนก็ยังอยู่ บางส่วนก็ได้ไปแจก และนำไปทิ้ง เพราะไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรต่อได้ ซึ่งแม่เสียเงินเปิดบิลดิลเลอร์ไป 2 บิล ทั้งของแม่ และใช้ชื่อพ่อ รวม 500,000 บาท และสลิปโอนเงินยิบย่อยอีกหลายอย่าง 

 

ช่วงที่แม่ป่วยก็ไม่มีทีมงานหรือแม่ข่ายของดิไอคอนมาดูแลแต่อย่างใด พ่อได้ติดต่อไปทีมของแม่ตั้งแต่วันที่ป่วยจนทรุดเข้าโรงพยาบาล กระทั่งเสียชีวิต ก็มีแค่บอกว่าเดี๋ยวจะติดต่อไปอีกครั้งจนกระทั่งวันเผาศพแม่ ก็ไม่มีใครติดต่อมาแต่อย่างใด 

 

กระทั่งเห็นข่าวที่บอสพอลไปทำบุญที่วัด ซึ่งเป็นวัดเดียวกันที่เผาศพแม่ ตนเองจึงเอะใจขึ้นมาว่า ในเมื่อวัดที่บอสพอลมาทำบุญกันนั้นเป็นวัดที่เผาแม่เรา ทำไมเขาถึงจะไม่รู้ว่าแม่จะอยู่ที่นี่ เพราะวันไปทำบุญแม่ก็อยู่ที่นี่ด้วย จะบอกว่าอยู่ไกลก็ไม่ใช่เพราะคุณก็เคยมาทำบุญ 

 

 การเรียกร้องก็ไม่ทราบว่ามีสิทธิอะไรไหมว่าทำได้ จึงโพสต์ไปเผื่อจะมีคนให้คำแนะนำได้ และอยากจะเตือนสำหรับคนที่เป็นหลังวัยเกษียณ คนใกล้ชิดควรอยู่กับเค้ามากๆ อย่าปล่อยให้ไปเจออะไรไปแบบนี้ 

 

ซึ่งตนเองได้คำตอบจากแม่มา 1 ประโยคคือ แม่อยากประสบความสำเร็จในชีวิต ซึ่งคำพูดนี้ตนเองถึงกับอึ้งเพราะแม่เป็นข้าราชการเกษียณ มีครอบครัวอบอุ่น มีบ้าน มีรถ มีลูกที่ทำงานมั่นคง ซึ่งคำพูดนี้ไม่ใช่คำพูดของคนปกติที่จะพูดคำนี้ออกมาเหมือนแม่โดนล้างสมอง 

 

 

การแจ้งความนั้นตนเองก็ไม่ทราบว่าสามารถทำได้ไหม ก็อยากให้มีคนมาแนะนำ สิ่งที่แม่เสียไปนั้นก็อยากให้ได้กลับคืนมาอยู่ สิ่งที่แม่ลงทุนไปนั้นตนเองไม่เคยเห็นได้อะไรตอบแทนมา

 

 ที่บอกว่าได้ไปเที่ยวมัลดีฟ เที่วฝรั่งเศษก็ไม่ได้ไป ขายใครก็ไม่ได้ แจกให้คนข้างบ้านบ้าง ทำเป็นสังฆทานถวายวัดบ้าง ส่วนตัวเชื่อว่าสาเหตุที่แม่อาการทรุดลงและเสียชีวิตนั้น นอกจากโรคประจำตัวแล้ว เชื่อว่าเกิดจากงานที่แม่ทำ ไปอบรมประชุมสัมมนาหลายๆที่ไปบ่อยมากทุกสัปดาห์ ขายให้ใครก็ไม่มีใครซื้อส่วนใหญ่มีแค่คนรู้จักกันสงสารก็ซื้อบ้าง 

 

หนุ่มเศร้า แม่ลงทุน \"ดิไอคอน กรุ๊ป\" หาเงินรักษามะเร็ง สูญเงิน500,000

ทักไปหาทีมตัวเองจะคืนสินค้าก็ไม่รับคืน หรืออยากให้เอาไปขายให้ก็ไม่ได้รับการช่วยเหลืออะไร เชื่อว่าแม่จะเครียดจากส่วนนี้ด้วย ตนเองไม่มีอะไรจะพูดหรือจะฝากถึงกับบุคคลเหล่านั้น แม้แต่คำเสียใจก็ไม่เคยมีมาให้ ตอนนี้รู้สึกเสียดายความสัมพันธ์กับแม่ที่เสียไปมากกว่า ตนเองไม่มีอะไรจะพูดกับคนแบบนั้น