ข่าว

แก๊งค้ามนุษย์ ขนชาวโรฮิงญา กว่า 70 คน อัดแน่นรถกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ

แก๊งค้ามนุษย์ ขนชาวโรฮิงญา กว่า 70 คน อัดแน่นรถกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ

17 ต.ค. 2567

แก๊งค้ามนุษย์! ขนชาวโรฮิงญา กว่า 70 คน อัดแน่นในรถกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ พาทิ้งป่าละเมาะดับสลด 2 ศพ สาหัส 10 ราย ที่เหลือพาส่งชายแดนใต้

17 ต.ค 2567 เวลา 11.30 น. พ.ต.ท.ภักดี ตันอนุกูล สว.(สอบสวน) สภ.หลังสวน ได้รับแจ้งจากพระสงฆ์วัดเสกธาราม หมู่ 4 ตำบลวังตะกอ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ว่าพบชาวต่างด้าวถูกนำมาทิ้งนอนเสียชีวิต และหายใจโรยรินอยู่จำนวนนับ 10 ราย จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

แก๊งค้ามนุษย์ ขนชาวโรฮิงญา กว่า 70 คน อัดแน่นรถกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ

พร้อมด้วย พ.ต.อ.นิรันทร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร หน่วยกู้ภัย กู้ชีพ สมาคมพุทธประทีปหลังสวน ที่เกิดเหตุห่างจากถนนเพชรเกษมประมาณ 2 กม. เป็นป่าละเมาะริมถนนแหลมทรายติดกับเชิงเขาเสก หมู่ 4 ต.วังตะกอ อ.หลังสวน และห่างจากปากทางขึ้นวัดเสกขาราม ประมาณ 20 เมตร

 

พบมีต่างด้าวชาวโรฮิงญา จำนวน 12 คน นอนกองรวมกันอยู่ สภาพเนื้อตัวมอมแมม เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบมีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ศพ เป็นเพศชายอายุประมาณ 25-30 ปี ส่วนอีก 10 ราย แยกเป็นเพศหญิง 2 คน ชาย 8 คน อายุประมาณ 15-50 ปี มีสภาพเหนื่อยอ่อนเพลีย นอนหายใจโรยริน

บางคนมีอาการน้ำลายฟูมปาก ดิ้นชักทุรนทุราย เหมือนจะขาดใจตาย หน่วยกู้ชีพ กู้ภัย ได้ช่วยกันลำเลียงแยกส่งไปที่โรงพยาบาลหลังสวน โรงพยาบาลปากน้ำหลังสวน และโรงพยาบาลทุ่งตะโก ที่อยู่ใกล้เคียง โดยทั้งหมดมีอาการโคม่า

แก๊งค้ามนุษย์ ขนชาวโรฮิงญา กว่า 70 คน อัดแน่นรถกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ

 

พระปลัดศีลวุฒิ ปสันโน รักษาการวัดนาบุญ ที่มาประสบเหตุกล่าวว่า ขณะที่คนขับรถยนต์กระบะพาอาตมาขึ้นเนินเขาเพื่อไปรับ พระอธิการธาดา กิตติธโร เจ้าอาวาสวัดเสกขาราม ได้มีเด็กชายต่างด้าวอายุประมาณ 15 ปี วิ่งออกมาจากในป่าละเมาะข้างทาง ด้วยอาการอ่อนเพลีย พร้อมกับโบกมือตะโกนส่งเสียงเอะอะโวยวายเป็นภาษาต่างด้าว ตอนแรกก็คิดว่าพวกแรงงานต่างด้าวที่มารับจ้างกรีดยางพาราทะเลาะกัน มาจึงไม่ได้สนใจอะไรมาก จากนั้นก็นั่งรถขึ้นไปรับเจ้าอาวาสบนวัดเสกขาราม เพื่อไปปาติโมกข์ ปฏิบัติธรรมนอกพื้นที่

 

พระปลัดศีลวุฒิ กล่าวต่อว่าหลังขึ้นไปรับเจ้าอาวาสแล้ว ได้นั่งรถกระบะลงมาจากวัด เห็นเด็กชาวต่างด้าวยังอยู่ อาตมาและเจ้าอาวาสวัดเสกขาราม จึงจอดรถลงไปดูในป่าละเมาะปรากฎว่าพบมีชาวต่างด้าวจำนวนกว่า 10 คน นอนชักดิ้นชักงอ บางคนหายใจโรยรินใกล้จะตาย จากนั้นได้โทรศัพท์ไปแจ้งตำรวจ ให้มาตรวจสอบและช่วยเหลือดังกล่าว

 

ด้านนายฮูเซ็น (สงวนนามสกุล) อายุ 28 ปี เป็นล่ามชาวต่างด้าวที่มาจุดเกิดเหตุกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล่าวว่า จากการสอบถามชาวต่างด้าวที่รอดชีวิตบอกว่า ได้เดินทางมาจากรัฐยะไข่ ประเทศเมียนมา โดยมีนายหน้าพาเดินเท้าและขึ้นรถยนต์ถึง 3 ช่วง เพื่อมาอยู่ที่จุดพักซึ่งเป็นโกดัง อยู่บริเวณ ชายแดนตรงข้ามกับ อ.แม่สอด จ.เชียงราย ซึ่งมีอยู่จำนวนมากนับร้อยคน จากนั้นก็จะทยอยลำเลียงต่างด้าวชาวโรฮิงญา ที่ได้จ่ายเงินค่าหัวแล้ว พาข้ามแดนมารอที่จุดพักฝั่ง อ.แม่สอด จ.เชียงราย โดยจะมีรถยนต์กระบะมารับเพื่อเดินทางต่อไปยังจุดหมาย

แก๊งค้ามนุษย์ ขนชาวโรฮิงญา กว่า 70 คน อัดแน่นรถกระบะตู้ทึบ ขาดอากาศหายใจ

นายฮูเซ็นกล่าวต่อว่า จากการสอบถามชาวโรฮิงญาบอกด้วยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้มีผู้ร่วมชะตากรรมที่มาด้วยกันประมาณกว่า 70 คน ถูกแก๊งค้าแรงงานข้ามชาติ พามากับรถยนต์กระบะตู้ทึบสูง โดยออกมาจากจุดพักที่ อ.แม่สอด จ.เชียงราย ตั้งแต่เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 16 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา เพื่อจะเดินทางไปส่งยังชายแดนภาคใต้ และจะเดินทางต่อไปทำงานยังประเทศมาเลเซีย

 

ระหว่างทางซึ่งทุกคนมีอาการอ่อนเพลียจากการเดินทาง อาหาร น้ำ ก็ไม่ค่อยได้รับประทาน เพราะต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ และขณะเดินทางมาถึงเขตพื้นที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร ปรากฎว่าชาวโรฮิงญาที่อัดแน่นกันมาในกระบะตูทึบมากถึง 70 คน เกิดขาดอากาศหายใจ มีอาการอ่อนเพลีย บางคนชักดิ้นชักงอ บางคนหมดสติ บางคนส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

 

ทำให้คนขับตกใจ จึงเลี้ยวรถเข้าไปยังถนนซอย แล้วให้ชาวต่างด้าวที่ยังแข็งแรงช่วยกันลากคนที่หมดสติ คนที่อ่อนแรง และคนที่มีลักษณะอิดโรย ลงไปโยนทิ้งกองรวมกันในป่าละเมาะใกล้ทางขึ้นวัดดังกล่าว จากนั้นพากันเดินทางต่อไป

 

พ.ต.อ.นิรันทร์ กันจู รอง ผบก.ภ.จว.ชุมพร ได้สั่งการให้ตำรวจชุดสืบสวน ภ.จว.ชุมพร ร่วมกับตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 และตำรวจท้องที่ ออกตรวจสอบเก็บภาพหลักฐานจากกล้องวงจรปิด ตามจุดต่าง ๆ เพื่อติดตามจับกุมแก๊งค้าแรงงานมนุษย์ ข้ามชาติมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป