เปิดใจทั้งน้ำตา จำนองบ้าน เงินจมกับดิไอคอนกรุ๊ป ลูกดรอปเรียน | คมชัดลึก

17 ต.ค. 2567 เวลา 15.30 น. น.ส.เบญจพร สิริประภาชัย อายุ 51 ปี เจ้าของร้านอาหาร ชื่อ สวนอาหารเบญจพร อ.เมือง จ.ชลบุรี ผู้เสียหาย เดินเข้าแจ้งพบ ร.ต.ท.ศุภกิตต์ คนที รอง สว.(สอบสวน) สภ.เสม็ด จ.ชลบุรี เพื่อแจ้งความดำเนินคดีกับ บอสพอล นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน กรุ๊ป และ บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายร่วมงาน ดิไอคอน รับโล่ นิวดีลเลอร์ จาก บอสพอล มีภาพร่วมงานกับผู้บริหารระดับสูง ดิไอคอนกรุ๊ป มามอบให้  ส่วนหลักฐานสลิปการโอนเงินกว่าครึ่งล้านบาทนั้น จะต้องเอาใบแจ้งความไปขอใบสลิปจากธนาคารอีกครั้ง เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐาน

โดย น.ส.เบญจพร เปิดเผยทั้งน้ำตาว่า มีคนมาแนะนำตนในช่วงที่ร้านตนมีลูกค้าน้อยลงและลูกสาวกำลังเข้าสู่วัยรุ่น ต้องการหาช่องทางเพื่ออยากมีรายได้เสริม โดยคนแนะนำบอกว่ามีธุรกิจที่ระบบดี สินค้าดี โดยการนำเอาสินค้าที่เป็นกาแฟ คอฟฟี่ บลูม มาให้ตนลองโดยบอกว่าเป็นของคุณพอล ตีสิบ ตนเลยไม่ลังเล เพราะชอบและศรัทธา คุณพอลมาจากรายการตีสิบ ตนพยายามติดต่อคุณพอล แต่ติดต่อไม่ได้ พอดีมีคนมาแนะนำสินค้าของคุณพอลพอดี

วันนั้นตนมีเงินในตัวแค่ 1,000 บาท และยืมลูกน้องในร้านมาเปิดบิลแรกยอด 2,500 บาท ได้กาแฟมา 10 ห่อ ซี่งตนจะได้เป็นตัวแทนย่อย ในวันรุ่งขี้นจะมีการรวมกลุ่มกันที่บ้านบอสพอลตนเลยไปด้วย หลังจากกลับมาจะมีงาน หากตนหาคนเข้าร่วมได้ 10 คน จะได้เข็ม 10+ เลยพาลูกน้องไปเรียนรู้ด้วย ในวันนั้นปิดร้านเลย ตนพาลูกสาวและลูกน้องไปรวมกัน 16 คน ออกค่าสมัคร ให้ทุกคน คนละ 1,200 บาท และตนได้ขึ้นเวทีรับเหรียญ 10+ กับบอสพอลด้วย พอกลับมาแม่ทีม บอกว่าจะมีกิจกรรมดินเนอร์บนเรือที่แม่น้ำเจ้าพระยา โดยต้องเปิดบิลซุปเปอร์ วีไอพี ในยอด 25,000 บาท ตนได้กาแฟมา 1 ลัง

หลังจากนั้นแม่ทีมบอกจะมีงานที่บ้านบอสปัน โดยแม่ทีมบอกว่าตนมีศักยภาพ บอสอยากให้ตนเป็นพลังให้ทีม ตนได้เข้าเรียนรู้มา 3 รอบ ตนอยากได้เงินมาลงทุน ในตอนนั้นทะเลาะกับสามีเรื่องหาเงินไปลงทุน แต่สามีก็อยากให้ตนทำ เลยนำบ้านไปขายฝากกับนายทุน เพื่อนำเงินมาเปิดดีลเลอร์กาแฟ แต่แม่ทีมบอกว่าเปิดบิลชนกัน เลยแนะนำให้ตนมาเปิดบิล บลูม ไฟเบอรี่ ซึ่งราคากาแฟอยู่ที่ 250,000 บาท แต่บลูม ไฟเบอรี่ อยู่ที่ 330,000-350,000 บาท ที่ตนมั่นใจเพราะว่าเวลาที่ไปร่วมจะเห็นบรรดาบอสๆที่ประสบความสำเร็จ และคำว่าฉันทำได้ๆเต็มไปหมด ทำให้รู้สึกฮึกเหิม ว่าตนทำได้ อยากเป็นความภูมิใจให้ลูก ให้ครอบครัว ว่ามีแม่เก่ง และในช่วงนั้นมีแพคเกจเที่ยวด้วย อยากพาลูกไปเที่ยวด้วย เลยลงไปอีก 100,000 บาท และช่วยแม่ทีมซื้อกาแฟอีก 2 ลัง 50,000 บาท

ตนมารู้ตัวจากที่แม่ทีมและบอสเปลี่ยนไป ไม่ใส่ใจเหมือนเดิม ไม่มีการช่วยเหลือกันเหมือนเมื่อก่อน และต่อมา ติดต่อแม่ทีมไม่ได้ ตนพยายามเข้าเรียนในกลุ่มแต่เข้าระบบไม่ได้ ติดต่อใครไม่ได้เลย  เลยทำใจแล้วว่าคงไม่ได้อะไรแล้ว เพราะตนคิดน้อยไป ตัดสินใจเร็วไป ตรวจสอบน้อยไป เพราะเห็นแค่ว่าบอสพอล ตีสิบ และสโลแกนที่ว่า ขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย ที่จำขึ้นใจ

จากนั้นต้องส่งดอกเบี้ย เดือนละ 12,000 บาท มา 4 ปีแล้ว ลูกสาวต้องดรอปเรียนมา 2 ปีเพราะตนไม่มีเงินส่งเรียน มาช่วงโควิดค้าขายไม่ดี ทำให้เงินหมุนเวียนไม่มี รู้สึกเสียใจมากที่ทำให้ครอบครัวมาตกอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ตอนนี้ไม่ได้ส่งดอกเบี้ยมาหลายเดือนแล้วไม่รู้ว่าจะโดนยึดบ้านเมื่อไหร่ ถ้ามีหน่วยงานไหนพอช่วยได้

บอสพอล ตนขอความกรุณา อยากได้เงินคืนบ้าง ขอฝากบอสพอลว่า ไม่อยากโทษใคร หากตรงไปตรงมา ก็จะไม่เป็นแบบนี้ เคยคิดสั้นอยากจบชีวิตตัวเองเพราะสร้างความเดือดร้อนให้ครอบครัว ทำให้ครอบครัวลำบาก แต่พอมานึกถึงลูก กลัวลูกเสียใจ ลูกสาวจะคอยให้กำลังใจมาตลอด ว่าไม่เป็นไร ลูกทนได้ ตนเลยมีกำลังใจขึ้นมา