ไรเดอร์ วอนช่วยตามหาลูกสาววัย 15 หนีไปพร้อมเงินแสนก้อนสุดท้าย หวั่นถูกหลอก
ไรเดอร์ วอนช่วยตามหาลูกสาววัย 15 หนีไปพร้อมเงินก้อนสุดท้ายจากการขายมรดก 2.6 แสนบาท เตรียมไว้ซื้อที่ดินสร้างบ้าน หวั่นถูกลวง
17 ต.ค. 2567 นายณรงค์ชัย อายุ 51 ปี ชาว จ.บุรีรัมย์ อาชีพขับไรเดอร์ เดินทางมาร้องสื่อว่า อยากให้ช่วยตามหาลูกสาวอายุ 15 ปี เรียนอยู่ระดับ ปวช.ปี 1 ที่หายตัวออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2567 แล้วไม่กลับบ้านมานานกว่าครึ่งเดือน
นายณรงค์ชัย เล่าว่า เมื่อเดือนเมษายน 2567 ที่ผ่านมา ได้เงินจากการขายที่ดินมรดกของแม่ เอามาแบ่งกับพี่น้อง ได้คนละ 262,000 บาท แต่ ตนกับภรรยา ไม่กล้าเอาเงินเข้าบัญชีของตัวเอง เพราะต้องการจะเก็บเอาไว้ซื้อที่ดินสร้างบ้าน ซึ่งได้ตกลงกับเจ้าของที่เอาไว้แล้ว ในราคา 320,000 บาท
เพราะหากมีเงินในบัญชีของตน อาจจะใช้จนไม่มีเงินซื้อที่ได้ จึงคุยกันกับภรรยาเอาเงินทั้งหมดใส่บัญชี น.ส.อ้น (นามสมมุติ) อายุ 15 ปี ลูกสาวคนเดียว เพราะเชื่อว่าลูกสาวไม่ใช้เงินของพ่อแม่ เนื่องจากลูกเป็นเด็กดี ไม่เคยออกจากบ้านไปไหน ไม่เคยเที่ยวกับเพื่อน
ส่วนค่าใช้จ่ายภายในครัวบ้าน ตน ก็หาใช้ตามมีตามเกิดเหมือนปกติทุกวัน มีบ้าง ขาดบ้าง แต่จะไม่ยอมแตะเงินก้อนใหญ่ ต่อมาได้มี น.ส.นา อายุประมาณ 35 ปี อาชีพขายของออนไลน์ มารู้จักกับลูกสาว พยายามพาลูกออกไปกินอาหารเย็น สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ตนไม่ว่าอะไร คิดว่าผู้ใหญ่เอ็นดูเด็ก แต่ช่วงหลังถี่ขึ้น จึงได้แค่เตือนลูก เพราะอยู่ในวัยเรียน
จนประมาณเดือนสิงหาคม 2567 ตน บอกลูกว่า พ่อเตรียมไว้จะเอาเงินไปซื้อที่แล้ว ลูกบอกว่าไม่ว่าง ต่อมาเดือนกันยายน 2567 ลูกสาวบอกว่า บัญชีถูกล็อก ทำอะไรไม่ได้ ตน ก็ไม่ว่าอะไรจึงไปปรึกษาผู้รู้ ทราบว่าจะต้องไปติดต่อที่ธนาคาร หลังจากนั้นลูกสาวเริ่มบ่ายเบี่ยงไปเรื่อยๆ กระทั่งวันที่ 4 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา ตนบอกกับลูกว่า ”พรุ่งนี้เราไปธนาคารด้วยกัน” พอลูกสาวได้ยินก็สตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ ขับออกจากบ้านทันที แล้วติดต่อไม่ได้อีกเลย
กระทั่งวันที่ 7 ต.ค. 2567 จึงไปแจ้งความที่ สภ.เมือง จ.บุรีรัมย์ ขอให้ช่วยติดตามลูกสาวที่หายตัวไป พร้อมกับเงินในบัญชี จนถึงตอนนี้ยังไม่สามารถติดต่อทางโทรศัพท์ กับลูกสาวได้ ได้แต่แชทไลน์คุย เพราะลูกกลัวรู้พิกัดโทรศัพท์ ลูกบอกว่ากำลังจะไปหางานทำ
นายณรงค์ชัย เล่าด้วยว่า ส่วนตัวเชื่อว่า น่าจะมีคนชักจูงไป หรือเอาเงินในบัญชีลูกสาวไป และแนะนำให้หนีออกจากบ้าน จึงอยากจะให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวลูกสาวกลับบ้าน และอยากให้ตรวจสอบเส้นทางเงินว่า โอนเอาไปให้ใครบ้าง โดยเฉพาะผู้ที่พาลูกสาวไปจะมีความผิดหรือไม่