ข่าว

17 บอส "ดิไอคอน" นอนคุกคืนแรก เครียดหนัก 5 รายมีโรคประจำตัว

17 บอส "ดิไอคอน" นอนคุกคืนแรก เครียดหนัก 5 รายมีโรคประจำตัว

18 ต.ค. 2567

รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เผย คืนแรก 17 บอส นอนคุกแยกเรือนจำ ชาย-หญิง มีอาการเครียดหนัก คอยให้กำลังใจกัน ไม่โยนความผิดให้ใคร

หลังจากเมื่อวานนี้ (17 ต.ค.) ตำรวจคุมตัว 17 บอส "ดิ ไอคอนกรุ๊ป" ขออำนาจศาลอาญารัชดาฝากขัง ต่อมาศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว 3 บอสดารา เนื่องจากมีผู้เสียหายจำนวนมาก กลัวจะไปยุ่งเกี่ยวกับพยานหลักฐาน ส่วนที่เหลือไม่ได้ยื่นประกันตัว ทำให้ทั้งหมดถูกนำตัวส่งเข้าเรือนจำ โดยผู้ชายเข้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ส่วนผู้หญิงเข้าทัณฑสถานหญิงกลาง

 

ล่าสุดวันนี้ 18 ต.ค. นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์ ผอ.กองทัณฑวิทยา รักษาราชการแทน ผอ.ทัณฑสถานหญิงกลาง และในฐานะรองโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงคืนแรกของการเป็นอยู่ในเรือนจำของทั้ง 17 บอสว่า กรมราชทัณฑ์รับตัวผู้ต้องหาทั้งหมดในช่วงเวลาประมาณ 21.00 น. มีการดำเนินการในส่วนของกระบวนการแรกรับ คือ ผู้ต้องขังเข้าใหม่ทุกรายจะต้องทำทะเบียนประวัติ ตรวจสุขภาพร่างกาย พิมพ์ลายนิ้วมือตามระเบียบกรมราชทัณฑ์ และมีการเปลี่ยนเครื่องแต่งกายเป็นชุดสีลูกวัวสำหรับผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ก่อนนำตัวเข้าไปยังห้องกักโรคโควิด-19 เพื่อกักคัดกรองโรคในระยะเวลา 5 วัน 

อีกทั้งได้รับรายงานว่าในบรรดาผู้ต้องขัง 17 รายนี้มีคนที่มีโรคประจำตัว 5 ราย แต่เป็นอาการเพียงเล็กน้อย เช่น ความดันโลหิตสูง 1 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างรอพบแพทย์ในช่วงเช้าวันนี้เพื่อรับยาไปรับประทานรักษาอาการ นอกจากนี้ ยังมีผู้ต้องขังหญิง 1 ราย ที่ได้ขออนุญาตแจ้งเรือนจำขอนำยารักษาโรคประจำตัวเข้ามา 

 

ส่วน 3 บอสดารา คือ นายยุรนันท์ ภมรมนตรี หรือ บอสแซม , นายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์ และ น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน ล้วนสุขภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัวหรืออาการเจ็บป่วยใด ๆ 

 

นางกนกวรรณ จิ๋วเชื้อพันธุ์


รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า คืนวานนี้ทางเรือนจำทั้ง 2 แห่ง ได้เตรียมอาหารไว้ให้เป็นเมนูข้าวสวยและต้มซุปไก่ เผื่อบุคคลใดยังไม่ทานข้าว แต่ก็ไม่มีใครรับประทาน อาจด้วยเวลาที่มาถึงก็ค่ำมากแล้ว และกว่าจะนอนหลับก็ล่วงเลยไปถึงเวลา 23.00 น. พร้อมยืนยันว่าในห้องกักโรคโควิด-19 ของทั้ง 2 เรือนจำ เจ้าหน้าที่ผู้คุมได้อนุญาตให้นอนอยู่ด้วยกันได้ เพราะเห็นว่าไม่มีพฤติกรรมทะเลาะเบาะแว้งหรือโทษกันไปมา มีการซัพพอร์ตความรู้สึกกันได้ดี แต่ถ้ามีการทะเลาะกัน มีปากเสียง โยนความผิดโทษกันไปมา เจ้าหน้าที่จึงจะแยกไม่ให้อยู่ด้วยกัน 

ทั้งนี้จากที่มอนิเตอร์ภาพกล้องวงจรปิด ในส่วนของบอสมิน ได้มีการพูดคุยกับเหล่าบอสผู้หญิงรายอื่นบ้าง ขณะที่บอสกันต์ และ บอสแซม ทั้งคู่มีการพูดคุยกัน แต่ไม่ได้คุยกับบอสชายรายอื่นมากเท่าไรนัก


เมื่อถามถึงหน้าตาและความเครียดผู้ต้องหา รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ยืนยันว่า มีความเครียดปรากฏบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัดเจน ไม่มีรอยยิ้ม และบ่อยครั้งมีการสนทนาระหว่างกันน้อยลง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติ เพราะทุกคนเข้ามาข้างในนี้เป็นการเปลี่ยนสถานที่ อาจปรับตัวยากต้องใช้เวลา ส่วนประสิทธิภาพการนอนหลับทราบว่าพอนอนหลับได้บ้าง 


ส่วนประเด็นการตัดผมของผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี ทั้งผู้ต้องขังชายในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ และผู้ต้องขังหญิงในทัณฑสถานหญิงกลาง รองโฆษกกรมราชทัณฑ์ ระบุว่า ในส่วนของผู้ต้องขังชายจะต้องตัดรองทรงสูงทุกราย แต่ไม่สั้นมาก จะต่างจากผู้ต้องขังเด็ดขาดชาย แต่ผู้ต้องขังหญิง ราชทัณฑ์อนุโลมว่า ต้องมัดรวบผมให้เรียบร้อย ส่วนถ้าความยาวของผมนั้น ยาวมามากเกินไปก็สามารถเล็มตัดความยาวออกได้ เพื่อสุขอนามัยที่ดีและป้องกันเรื่องผมร่วง 

 

ทั้งนี้ช่วงเช้าทั้งหมดได้อาบน้ำเรียบร้อยแล้ว โดยผู้ต้องขังหญิงได้รับประทานเมนูอาหารเช้าเป็นข้าวต้มเครื่อง และได้มีการสอบถามถึงหลักการขั้นตอนการเยี่ยมญาติ การซื้อของฝากของใช้ส่วนตัว การพบทนายความ ซึ่งราชทัณฑ์ก็ได้ชี้แจงข้อมูลให้ทั้งหมดรับทราบแล้ว โดยเฉพาะในส่วนของมิน พีชญา ที่ได้สอบถามผู้คุมถึงเรื่องการเยี่ยมญาติ การพบทนายความปรึกษาคดี และการสั่งซื้อของฝากจากภายนอกผ่านใบรายการสั่งซื้อของเรือนจำฯ แต่ตนยังไม่ได้รับรายงานเรื่องการเปิดสมุดบัญชีเงินฝากของเหล่าผู้ต้องขัง 17 ราย เพราะบุ๊คจะมีไว้เพื่อการฝากเงินของญาติให้แก่ผู้ต้องขังไว้ซื้อของกินของใช้ คาดว่าช่วงสายวันนี้อาจมีทนายเข้าเยี่ยมหรือมีญาติฝากซื้อของฝาก

 

ส่วนการเยี่ยมของทนายความต้องผ่านระบบออนไลน์ ผ่านการวิดีโอคอลไลน์ในห้องเยี่ยมทนาย ประมาณ 30 นาทีขึ้นไป เพราะทั้งหมดยังอยู่ในห้องกักโรคโควิด-19 จึงทำให้ผู้ต้องขังไม่ต้องเดินออกมาที่ห้องเยี่ยมดังกล่าว 

 

หลังจากครบระยะเวลาการกักโรคโควิด-19 ก็จะถูกจำแนกไปยังแดนแรกรับของแต่ละเรือนจำ คาดว่าในส่วนของเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ แดนแรกรับอาจจะเป็นแดน 1 หรือแดน 4 แต่ในส่วนของทัณฑสถานหญิงกลาง จะเป็นแดนควบคุมระหว่างพิจารณาคดี ซึ่งทั้งหมดจะใช้เวลาอยู่ในแดนแรกรับของเรือนจำ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษาตัดสินให้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด และจะยังจะไม่ต้องเข้าร่วมกองงาน เพื่อที่จะได้มีเวลาในการต่อสู้คดี เพราะพวกเขายังต้องเข้าสู่กระบวนการชั้นศาล ยังไม่ได้เป็นผู้ต้องขังเด็ดขาด เว้นแต่ว่าเป็นความประสงค์ของเจ้าตัวเอง ก็สามารถแจ้งต่อเจ้าหน้าที่ผู้คุมให้มีการพิจารณาอย่างเหมาะสมได้