ข่าว

ไม่เชื่อพ่อผูกคอตาย สงสัยจัดฉากฆาตกรรมอำพราง ลูกสาวบุกร้องยุติธรรม

ไม่เชื่อพ่อผูกคอตาย สงสัยจัดฉากฆาตกรรมอำพราง ลูกสาวบุกร้องยุติธรรม

18 ต.ค. 2567

สงสัยแม่เลี้ยงจัดฉาก ฆาตกรรมอำพรางพ่อ พบพิรุธหลายอย่าง จุดเกิดเหตุ กล้องวงจรปิด เร่งเผา เงินประกัน ร้องยุติธรรมจังหวัดตรวจสอบ

18 ต.ค.2567 น.ส.ศยามล อายุ 34 ปี ลูกสาวคนโตของนายพยุง อายุ 59 ปี เจ้าของอู่ซ่อมรถยนต์แห่งหนึ่งในอำเภอนางรอง จ.บุรีรัมย์ ได้นำใบมรณบัตรของพ่อ พร้อมรายงานการชันสูตรพลิกศพ เอกสารที่เกี่ยวข้อง และรูปถ่ายสภาพศพของพ่อ เข้าร้องเรียนสำนักงานยุติธรรมจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะติดสาเหตุการเสียชีวิตของนายพยุง ผู้เป็นพ่อ หลังจากแม่เลี้ยง หรือภรรยาคนปัจจุบันที่อาศัยอยู่กับพ่อ เป็นผู้ไปพบศพและแจ้งเจ้าหน้าที่ว่าพ่อผูกคอตายกับคานเหล็กภายในอู่ซ่อมรถ เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา

โดยครั้งนั้น แม่เลี้ยงให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่าพ่อน่าจะคิดสั้น เนื่องจากผลพวงทางเศรษฐกิจ ไม่ค่อยมีลูกค้านำรถมาซ่อมในอู่ ทำให้ค้างค่างวดรถหลายงวด จนถูกไฟแนนซ์ติดตามทวงถาม ทำให้เกิดความเครียดจนคิดสั้นผูกคอตาย แต่ น.ส.ศยามล ลูกสาว ที่มาร้องเรียนเชื่อว่าพ่อไม่ได้ผูกคอเสียชีวิตเอง น่าจะถูกฆาตกรรมอำพรางมากกว่า

 

เพราะพบพิรุธหลายอย่าง อาทิ ถ้าผูกคอตายทำไมศพถึงอยู่ในท่าคุกเข่า หรือท่าหมอบกราบเหมือนร้องขอชีวิต ทำไมไม่ถูกแขวนหรืออยู่ในท่าอื่น ทั้งยังมีบาดแผลคล้ายถูกของแข็งที่หน้าผากจนเลือดไหลอาบ ตั้งสวดคืนเดียวแล้วเร่งรีบเผาศพ คือ เสียชีวิตวันที่ 8 ต.ค. 2567 ตั้งสวดศพคืนวันที่ 9 ต.ค. 2567 คืนเดียว แล้ววันที่ 10 ต.ค. 2567 ก็เผาเลย โดยแม่เลี้ยงอ้างว่าไม่มีเงินจัดงานศพ ทั้งที่ลูกๆ มีความพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพจัดงานศพให้พ่อ และลูกเกือบจะมางานศพพ่อไม่ทันด้วยซ้ำ

พิรุธสภาพศพ

 

ประเด็นกล้องวงจรปิด แม่เลี้ยงบอกกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนเกิดเหตุดูกล้องผ่านมือถือ แต่ไม่เห็นพ่อเดินออกมาจากอู่ แต่พอตนไปขอดู แม่เลี้ยงกลับบอกว่าวันเกิดเหตุไฟดับ กล้องดูไม่ได้ ซึ่งมันดูขัดแย้งกัน และยังสงสัยเรื่องการจ่ายเบี้ยประกันชีวิตของพ่อ ที่ทำไว้กับบริษัทประกันบริษัทหนึ่ง ซึ่งตามกำหนดจะต้องจ่ายทุกวันที่ 18 ของเดือน และจากข้อมูลย้อนหลังพบว่ามีการจ่ายใกล้วันหรือหลังวันครบกำหนด แต่เดือน ต.ค.มีการจ่ายเบี้ยวันที่ 1 ต.ค.2567 แล้ววันที่ 8 ต.ค.2567 พ่อก็เสียชีวิต จึงตั้งข้อสังเกตว่าต้องการจ่ายให้ครบตามเงื่อนไขของบริษัทหรือไม่ เพราะบริษัทประกันชีวิตที่พ่อทำ หากจ่ายเบี้ยครบ 1 ปี หากกรณีฆ่าตัวตายก็ยังจะได้เงินประกันชีวิตเหมือนกับ การเสียชีวิตทั่วไป

 

น.ส.ศยามล ยังระบุอีกว่า จากข้อพิรุธหลายอย่าง ทำให้สงสัยว่าพ่อไม่ได้ผูกคอเสียชีวิต น่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง จึงอยากให้ทางยุติธรรมจังหวัด หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ตรวจพิสูจน์สาเหตุการตายของพ่ออย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและให้ความเป็นธรรมกับคนตายด้วย

 

จากนั้นทีมข่าวพยายามติดต่อเพื่อจะสอบถามทางภรรยาคนปัจจุบันของนายพยุง แต่เจ้าตัวปฏิเสธที่จะให้ข้อมูลบอกว่าไม่สะดวก ซึ่งทีมข่าวได้เดินทางไปที่บ้านอีกครั้งแต่ไม่พบตัว พบเพียงญาติแต่ไม่ให้ข้อมูลและไม่อนุญาตให้บันทึกภาพใดๆ

 

ขณะที่เจ้าหน้าที่ยุติธรรมจังหวัด ก็ได้รับเรื่องร้องเรียนไว้และจะเสนอผู้บังคับบัญชา เพื่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีที่มีการร้องเรียนตามขั้นตอนต่อไป

น.ส.ศยามล