ย้อนปฏิบัติการไล่ล่าระทึก นักค้ายาชนแหลก ยิงปะทะเจ้าหน้าที่ 5 ชม. (คลิป)
ย้อนปฏิบัติการไล่ล่าระทึก! คนร้ายค้ายาเสพติดซิ่งชนแหลก ถอยทับรถตำรวจ เปิดฉากสาดกระสุนใส่ไม่ยั้ง ปะทะกันนานกว่า 5 ชม. (คลิป)
23 ต.ค. 2567 จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดล้อมไล่ล่าจับกุม คนร้ายลักลอบขนยาเสพติด ที่ยิงต่อสู้ตำรวจและขับรถยนต์ยี่ห้อเชฟโรเลต ออฟต้า สีบรอนซ์เทา หลบหนี ชนรถบนท้องถนนนับ 10 คัน ก่อนจะเสียหลักชนข้างทางในซอยสายไหม 10 แยก 1/3 โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 5 ชั่วโมง ก่อนเข้าชาร์จจับกุม น.ส.นันทนา อายุ 31 ปี ที่หลบเข้าไปซ่อนในบ้านของชาวบ้าน และจับกุมนายวุฒิศักดิ์ อายุ 37 ปี คนขับเอาไว้ได้ พร้อมตรวจยึดยาบ้า 160,000 เม็ด และ ยาไอซ์ ประมาณ 1 กิโลกรัม ในรถยนต์ เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา
โดยปฏิบัติการดดังกล่าว มี จ.ส.ต.ชินวุฒิ คงแสง ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม และ ด.ต.มานพ ยิ่งสูง ผบ.หมู่ ป.สน.สายไหม เจ้าหน้าที่สายตรวจ รถจยย. พร้อมกำลังสายตรวจอีกส่วนหนึ่งที่ ขี่ รถจยย. สายตรวจ ไล่ติดตามจับกุมรถคนร้าย โดยมีคลิปไล่ล่าระทึกจากกล้องที่ติดอยู่ที่หมวกเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานได้เดินทางมาตรวจรถยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ และเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆ
สอบสวน น.ส.นันทนา ยอมรับว่า ก่อนเกิดเหตุมาด้วยกัน 3 คน พี่ชายแฟนเป็นคนขับ ส่วนแฟนนั่งเบาะหลัง ที่ผ่านมารู้ว่าแฟนเคยมารับยาเสพติด ที่นี่เป็นครั้งที่ 2 แต่จำนวนไม่มาก เอาไปเสพเอง
วันเกิดเหตุกำลังจะไปไถ่รถที่จำนำไว้ย่านมหาชัย และมีนายทัด ทักมาหาแฟนให้เข้าไปหาที่ซอยสายไหม 57 ซึ่งก็รู้ว่ามารับยาและเห็นแค่อยู่ในถุงที่นายชัดยื่นให้พี่ชายแฟนมาไว้ในรถ แต่ไม่รู้ว่ามียาในรถเยอะขนาดนี้ ยอมรับตนเองตกใจ เลยหนีเข้าไปในบ้านคนแถวนั้น ไม่มีเจตนาจะเข้าไปแต่ไม่รู้จะไปทางไหน
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าว พบกับ จ.ส.ต.ชินวุฒิ คงแสง ผบ.หมู่.(ป.)สน.สายไหม พร้อมเปิดใจ ที่รอดคมกระสุนของคนร้ายมาได้เชื่อว่าเป็นเพราะพุทธคุณของเหรียญพระอาจารย์อ๊อด โดยเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนเองและคู่บัดดี้กำลังออกตรวจในพื้นที่ และได้พบกับรถคนร้าย ขับออกมาจากบริเวณซอยสายไหม 57 เป็นพื้นที่สีแดงซึ่งเคยจับกุมกลุ่มผู้ค้ายาเสพติดอยู่บ่อยครั้ง ลักษณะต้องสงสัยจึงจะขอตรวจค้น แต่คนร้ายได้เร่งเครื่องขับหนี
จึงออกติดตามระยะทางหลายกิโลเมตร จึงวิทยุเรียกกำลังเสริมเพื่อสกัดรถคนร้าย บริเวณแยกลำลูกกา แต่คนร้ายกลับเร่งเครื่องชนรถจักรยานยนต์สายตรวจ และขับหนีต่อ
เมื่อมาถึงช่วงโรงพยาบาลบีแคร์ 1 ในคนร้ายได้โผล่ออกจากกระจกหลังด้านซ้าย เปิดฉากยิงใส่ในระยะไม่เกิน 20 เมตร ตอนนั้นตนเองเห็นคนร้ายเพียง 2 คน คือ คนขับและคนร้ายที่ยิงออกมา หลังจากเปิดฉากยิง คนร้ายได้ขับรถหลบหนีเข้าไปยังตลาดเซฟวันโก ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนมีคนและรถจำนวนมาก และชนกับรถชาวบ้านหลายคัน
ก่อนขับหลบหนีมาถึงสายไหม ซอย 5 ซึ่งซอยนี้เจ้าหน้าที่รู้ อยู่แล้วว่าเป็นซอยตันคนร้ายจะต้องถอยรถออกมาอย่างแน่นอน ตนจึงได้จอดรถลงไปเพื่อสกัดจับ แต่คนร้ายได้ถอยรถออกมาชนรถตนล้มลง และยังไปชนรถสายตรวจที่ตามมาอีกคันเสียหาย ก่อนจะขับหนีไป ซ.สายไหม10 แล้วเสียหลักชนกำแพง ตนเองจึงเข้าจับกุมคนขับไว้ได้ จากนั้นมี เจ้าของบ้านโทรแจ้งตำรวจว่ามีคนร้ายเข้าบ้าน จึงเป็นที่มาของการปิดล้อมจับกุม ช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา
หากถามว่าระยะที่คนร้ายยิงขณะหลบหนี เป็นระยะอันตรายแค่ไหน ในฐานะที่ตนเองเป็นนักกีฬายิงปืน ก็ถือว่าเป็นระยะหวังผล ในระยะไม่เกิน 25 เมตร เป็นระยะต่อสู้ของปืนพกสั้น คนร้ายยิงมาในลักษณะหวังผลอย่างแน่นอน และเชื่อว่าที่ตนเองรอดมาได้เพราะเหรียญพระอาจารย์อ๊อด “รุ่นพิทักษ์สันติราษฎร์ วาระครบรอบ 24 ปี สน.สายไหม” ที่สน.สายไหม จัดสร้างขึ้นมาให้เป็นเครื่องยืดเหนี่ยวจิตใจข้าราชการตำรวจ สน.สายไหม ซึ่งตนจะห้อยติดตัวไว้ตลอดเวลา เหตุครั้งนี้ถือว่าเสี่ยงที่สุดที่รับราชการมา
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบสวน นายวุฒิศักดิ์ และน.ส.นันทนา เพื่อดำเนินคดี และขยายผลจับกุมคนร้าย ที่ยังหลบหนีและขบวนการค้ายาเสพติดมาดำเนินคดีต่อไป