ข่าว

เงินหาย เกือบ 6 ล้าน อาจารย์พิเศษ โรงเรียน นรต. ให้การแจ้งความ ภรรยาบิ๊กตำรวจ

เงินหาย เกือบ 6 ล้าน อาจารย์พิเศษ โรงเรียน นรต. ให้การแจ้งความ ภรรยาบิ๊กตำรวจ

23 ต.ค. 2567

อาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ให้การตำรวจ กรณีแจ้งความภรรยาบิ๊กตำรวจ ลักทรัพย์ในคอนโดฯ พบทรัพย์สินทองคำ - เงินสด หายไปเกือบ 6 ล้าน

23 ต.ค. 2567 เวลา 16.00 น. สน.พระโขนง พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. พร้อมเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เข้าพบ พ.ต.อ.ชัยวัฒน์ ประดับไทย ผกก.สน.พระขโนง และได้เชิญตัว น.ส.ธณัฏฐา อาจารย์พิเศษ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ผู้เสียหาย เข้ามาสอบปากคำเพิ่มเติม กรณีทรัพย์สินที่สูญหาย รวมมูลค่าเกือบ 6 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ยังนำของกลาง ที่ผู้ถูกกล่าวหา ทิ้งไว้ในห้องที่เกิดเหตุ ภายในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งใน ซอยสุขุมวิท 101  แขวงบางจาก เขตพระโขนง เมื่อวันที่ 18 ส.ค. 2567 ที่ผ่านมา ประกอบด้วย นาฬิกาปาเต๊ะ ฟิลลิปส์ 2 เรือน กระเป๋าสะพาย และเอกสารต่างๆ ของผู้ถูกกล่าวหาอีกหลายรายการ

 

โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2567 น.ส.ธณัฏฐา ได้เดินทางมายัง สน.พระโขนง เข้าพบพ.ต.ท. สิทธิเดช หาญจริง สว.(สอบสวน) สน.พระโขนง เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ภรรยาบิ๊กตำรวจ  ฐานลักทรัพย์ สถานที่เกิดเหตุ ภายในห้องพัก ในคอนโดมิเนียม ซอยสุขุมวิท 101  แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพมหานคร

น.ส.ธณัฏฐา แจ้งว่า ก่อนเกิดเหตุตน และ นายภีมพจน์ สามี พักอาศัยอยู่ที่บริเวณห้อง ชั้น 7 ต่อมา ตน และ นายภีมพจน์ ได้ย้ายไปพักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียมอีกแห่ง ใน ต.พุทธมณฑล อ.ศาลายา จ.นครปฐม เนื่องจาก ตน ประกอบอาชีพรับจ้าง เป็นอาจารย์พิเศษ อยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ อ.สามพราน จ.นครปฐม และ นายภีมพจน์ ก็ทำงานรับราชการอยู่ที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ โดย ตน และ สามี มาพักผ่อนที่ห้องเกิดเหตุอยู่เป็นประจำ

 

ผู้เสียหาย

 

ต่อมาวันที่ 18 ส.ค. 2567 เวลา 14.00 น. ตน ได้ใช้ให้ นายพงษ์พัฒน์ มีศักดิ์เป็นหลาน เข้ามาเอาของที่ห้องพัก ชั้น 7 คอนโดมิเนียมใน ซอยสุขุมวิท 101 เมื่อนายพงษ์พัฒน์ เดินทางมาถึง คอนโดมิเนียม และขึ้นลิฟท์ไปชั้น 7 แต่เมื่อออกจาก
ลิฟท์ นายพงษ์พัฒน์ ได้สังเกตเห็น ภรรยาบิ๊กตำรวจ ผู้ถูกกล่าวหาในคดีนี้ ใช้กุญแจ และคีย์การ์ดเปิดเข้าไปในห้อง ซึ่งเป็นห้องพักของตน และนายภีมพจน์ 

นายพงษ์พัฒน์ จึงได้โทรศัพท์แจ้งเรื่องให้กับ ตน ทราบ ซึ่งขณะนั้น ตน พักอยู่ที่จังหวัดนครปฐม จึงได้รีบเดินทางมาที่ห้องเกิดเหตุในเวลาประมาณ 16.00 น. เมื่อเข้าไปตรวจสอบทรัพย์สิน ที่ได้เก็บไว้ในลิ้นชักในตู้เสื้อผ้า พบว่า ทรัพย์สินที่หายไป ประกอบด้วย ทองคำ ประเภทต่างๆ น้ำหนักรวม 120 บาท  เงินสดอีก 6 แสนบาท รวมมูลค่าประมาณ 5.7 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าว เป็นทรัพย์สินที่ ตน และ นายภีมพจน์ ซื้อร่วมกัน เพื่อจะเอาไว้ใช้ในงานแต่งงาน ของตน และนายภีมพจน์ ในเดือน ก.พ. 68 แต่ ตน ได้จดทะเบียนสมรส กันในเดือนพ.ค.67 แล้ว 

 

น.ส.ธณัฏฐา กล่าวต่อว่า ตน พยายามติดต่อกับ ภรรยาบิ๊กตำรวจ ทั้งทางโทรศัพท์ และทางไลน์ แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงได้เขียนจดหมายเพื่อทวงทรัพย์สินดังกล่าวคืน โดยนำไปให้ กับ ภรรยาบิ๊กตำรวจ ที่บ้านพักในวันที่ 17 ก.ย.67 เวลาประมาณ 18.40 น. แต่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำหมู่บ้าน ไม่ให้เข้าไปส่งด้วยตัวเอง โดยได้ประสานให้ นายตำรวจ ที่คอยดูแลบ้านพักของ บิ๊กตำรวจ ได้มารับเอกสารแทน 

 

ตน ได้พยายามติดต่อผู้ถูกกล่าวหาเรื่อยมา แต่ไม่สามารถติดต่อได้ จึงมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี จนถึงที่สุดตามกฎหมาย และติดตามทรัพย์สินดังกล่าวมาคืนให้กับตน

 

เจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้เสียหาย

 

พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สพฐ.ตร. กล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวน สน.พระโขนง ประสานมาให้ร่วมตรวจสอบเหตุลักทรัพย์ โดยผู้ถูกกล่าวหาได้ทิ้งหลักฐานไว้ในห้องที่เกิดเหตุหลายรายการ ซึ่งได้ตรวจลายนิ้วมือแฝงไว้หมดแล้ว และจะได้ไปตรวจสอบในห้องที่เกิดเหตุ ตรวจสอบภาพวงจรปิดในคอนโดฯ ที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป