'ทนายวิฑูรย์' รับออเดอร์ จาก 'บอสพอล' หลังเข้าเยี่ยมวันแรก โต้กลับ 4 ราย | คมชัดลึก

24 ต.ค. 2567 เวลา 16.30 น.ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล เดินทางเข้าแจ้งความเอาผิด กับนักร้องเรียนสาว ก. กรณี บอสพอล ถูกรีดทรัพย์ 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

 

ทนายวิฑูรย์ เปิดเผยว่า วันนี้ ตนได้ส่งทีมทนายนำเอกสารไปให้ บอสพอล ลงนามมอบอำนาจให้มาดำเนินคดีโดยตนได้รับคำสั่งมา 4 ออเดอร์ คือ

 

1. ให้แจ้งความเอาผิดกับนักร้องสาว ก. ในข้อหากรรโชกทรัพย์ ส่วนรีดทรัพย์จะเข้าข่ายหรือไม่นั้น จะต้องคุยรายละเอียดกับทางพนักงานสอบสวนอีกครั้ง เนื่องจากเคยถูกเรียกเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อแลกกับการไม่ร้องเรียนบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป

 

2. เรื่องที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ และพิจารณาที่จะดำเนินคดี กับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือเอก สายไหมต้องรอด และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิด กับ บอสพอล

 

นำข้อมูลว่า บอสพอล มีการโยกย้ายทรัพย์สิน โดยเปลี่ยนเป็นสกุลเงินดิจิทัล หรือคริปโต ซึ่งทางตำรวจได้มีการออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้

 

ขณะนี้ทางทีมทนาย มีการรวบรวมพยานหลักฐาน และเตรียมทำเอกสารเพื่อจะแจ้งความดำเนินคดีต่อไป แต่ยังไม่มีกำหนดวันเวลาที่แน่ชัด

 

โดยสาเหตุที่ต้องดำเนินคดี เพราะทำให้บริษัทเสื่อมเสีย และหน่วยงานที่ถูกพาดพิงเสียหายไปด้วย ซึ่ง บอสพอล ยืนยันไม่รู้จักบุคคลดังกล่าว 

3. บอสพอล สั่งให้รวบรวมข้อมูลในการดำเนินคดี กับทนายความชื่อดังคนหนึ่ง ที่เคยพาผู้เสียหายแจ้งความ ซึ่งก่อนหน้าที่เหล่าบอส จะถูกจับกุมดำเนินคดี ทนายคนดังกล่าวมีการโทรศัพท์หา บอสพอล เพื่อเจรจาต่อรอง

 

โดยกล่าวว่า ให้ทาง บอสพอล จ่ายเงิน 7 ล้านบาท เพื่อแลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความดำเนินคดี กับ
ดิไอคอน โดย บอสพอล ยังไม่ได้จ่ายจำนวนดังกล่าวไปแต่อย่างใด

 

โดยทางทีมทนาย ก็จะต้องไปตรวจสอบดูว่า จำนวนเงินดังกล่าวตรงกับความเสียหายของผู้เสียหายกลุ่มนี้หรือไม่ เพราะหากไม่ตรงถือว่าส่วนต่างเป็นส่วนของทนายคนดังกล่าว

 

ทั้งนี้เลขา ของบอสพอล ได้มีการบันทึกเสียงขณะเจรจากันไว้ หากตนได้คลิปเสียงดังกล่าว จะดูความเหมาะสมแล้วจะเปิดเผยอีกครั้ง

 

4. ตนจะรวบรวมรายชื่อแม่ข่าย ที่มีพฤติกรรมไปเชิญชวนผู้เสียหายเป็นตัวแทนจำหน่าย และภายหลังมีการขัดผลประโยชน์กับบริษัทดิไอคอน กรุ๊ป แต่มาเนียนอ้างว่า เป็นผู้เสียหายด้วย โดยจะนำเอกสารรายชื่อมาให้กับทางพนักงานสอบสวนเพื่อตรวจสอบต่อไป

สำหรับกรณีที่ DSI ได้รับคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เป็นคดีพิเศษในส่วนคดีฟอกเงิน นั้น ตนมองว่าดี เพราะพนักงานสอบสวน บก.ปคบ. มีการทำงานหนักจนล้น DSI มาช่วยในคดีนี้ก็จะเป็นการแบ่งเบาพนักงานสอบสวนบก.ปคบ.ไปได้เยอะ

 

ส่วนโทรศัพท์มือถือของพนักงาน ดิไอคอน กรุ๊ป ที่ถูกเชิญตัวมาให้ปากคำในฐานะพยาน และถูกยึดไปเมื่อวันที่ 22 ต.ค. ล่าสุดได้รับคืนหมดแล้วเมื่อช่วง 14.00 น.ที่ผ่านมา จึงจะไม่ดำเนินการเอาผิด กับเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่อย่างใด เบื้องต้นขณะนี้ยืนยันยังไม่มีการยื่นประกันตัว 18 บอส ที่อยู่ในเรือนจำ