ข่าว

ทนายบอสพอล เตรียมเช็กบิล 2 ออเดอร์ ยันคลิปเสียงรีด 7 ล้านจริง แต่ยังไม่จ่าย

ทนายบอสพอล เตรียมเช็กบิล 2 ออเดอร์ ยันคลิปเสียงรีด 7 ล้านจริง แต่ยังไม่จ่าย

25 ต.ค. 2567

นายวิฑูรย์ เข้าเจอ "บอสพอล" ขอลายเซ็นมอบอำนาจ เช็กบอล 2 ออเดอร์ ขณะที่ปมคลิปเสียงทนายดังเรียก 7 ล้าน เรื่องจริง แต่ยังไม่จ่าย

25 ต.ค. 2567 นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ผู้ต้องหาในคดีบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนจะเข้าพบบอสพอล เพื่อที่จะนำเอกสารให้ลูกความลงนามมอบอำนาจให้ตนไปดำเนินการตามออเดอร์ที่ 2 ซึ่งเป็นกรณีที่จะดำเนินคดีกับ ผู้ก่อตั้งเพจดัง และพยานเท็จ ที่อ้างว่าเป็นคนสนิทใกล้ชิดกับ บอสพอล นำข้อมูลว่า การเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลหรือคริปโตเคอเรนซี ซึ่งตำรวจได้ออกมายืนยันแล้วว่าข้อมูลดังกล่าวจากบุคคลนี้เชื่อถือไม่ได้

 

และออเดอร์ที่ 3 ดำเนินคดีกับทนายความชื่อดัง หนึ่งในทนายดรีมทีม ประเด็นเจรจาต่อรอง ให้บอสพอลจ่ายเงิน 7 ล้านบาท แลกกับการที่จะไม่นำผู้เสียหายกลุ่มนี้ไปแจ้งความ โดยจะเตรียมไปดำเนินคดีแจ้งความกลับในวันข้างหน้า แต่ยังไม่ใช่เร็ว ๆ นี้ เพราะตนจะต้องตรวจสอบพยานหลักฐานก่อน

 

ส่วนการยื่นขอประกันตัวชั่วคราว ทั้งบอสพอลและอีก 10 บอสที่ตนดูแลอยู่นั้น จะยังไม่เกิดขึ้นภายในสิ้นเดือน ต.ค. นี้อย่างแน่นอน ขอใช้เวลาดูเอกสารพยานหลักฐานสำหรับการต่อสู้คดี 

 

ส่วนที่เมื่อวานนี้ (24 ต.ค.) คุณแม่บอสพอลเดินทางมาขอเข้าเยี่ยมนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้คุยกัน ส่วนใหญ่คุณแม่จะโทรศัพท์สอบถามว่า ตนจะยื่นประกันตัวชั่วคราวบอสพอลช่วงเวลาใด และสอบถามไทม์ไลน์การทำงานของตน ตนก็อธิบายแนวทางการทำงานทั้งหมด แม้ท่านจะอยากให้ลูกชายได้ประกันตัวไว ๆ แต่ท่านก็เข้าใจการทำงานของตน

 

ทนายบอสพอล เตรียมเช็กบิล 2 ออเดอร์ ยันคลิปเสียงรีด 7 ล้านจริง แต่ยังไม่จ่าย

ส่วนการหารือปรึกษากับบรรดาทนายความท่านอื่น ๆ นั้น เนื่องด้วยตนคือทนายความที่ดูแลบอสกว่า 10 คน ทั้งฝั่งบอสหญิงและบอสชาย อาทิ บอสปัญ บอสพอล บอสหมอเอก บอสสวย เป็นต้น จึงต้องคุยกันอัปเดตกันว่า จะวางแผนแนวทางการต่อสู้คดีกันอย่างไร และ ทราบว่าทนายชูชาติ กันภัย ทนายความของคุณมิน พีชญา และคุณแซม ยุรนันท์ ยังไม่มีความประสงค์จะยื่นประกันตัวชั่วคราวเช่นกัน

 

ส่วนที่ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กท้าให้ฝั่งตน เปิดคลิปเสียงสนทนารีดเงิน 7 ล้านบาทนั้น เป็นการรีดเงินให้ทนายตั้มเอง หรือให้นำเงินมาคืนผู้เสียหายนั้น

 

ทนายวิฑูรย์ เผยว่า การโพสต์เฟซบุ๊กเช่นนั้นของทนายตั้มถือเป็นเรื่องดี เพราะคลิปเสียงใช้ในชั้นศาลไม่ได้ แต่การโพสต์จะช่วยทำให้ตนตรวจสอบได้ว่า ผู้เสียหายของทนายตั้มถึง 7 ล้านบาทจริงหรือไม่ และถ้าพูดให้แฟร์คือทนายตั้มก็ขอให้คืนผู้เสียหาย แต่ก็ต้องบอกว่ามันยังไม่ชัดเจนเลยว่ากลุ่มนี้คือผู้เสียหายจริงหรือไม่ 

 

ดังนั้น อันดับแรกตนจะได้ไปตรวจสอบกลุ่มผู้เสียหายที่ทนายตั้มกล่าวอ้างก่อนว่า เป็นกลุ่มเปราะบางประมาณ 30 รายจริงหรือไม่ และมีจำนวนมากพอสอดคล้องไปกับยอดเงิน 7 ล้านบาทจริงหรือไม่ ซึ่งถ้าหากไม่ถึงก็แปลได้ว่า ส่วนต่างในเงินก้อนนี้ ทนายตั้มเอาไป และมีผู้เสียหายถึง 100 รายจริงหรือไม่ ตนไม่ทราบ และจะมาจากใคร มาจากทนายตั้มจริงหรือไม่ ก็ต้องไปตรวจสอบและหารือกับเหล่าทนายความท่านอื่นอีกครั้ง

 

ทนายบอสพอล เตรียมเช็กบิล 2 ออเดอร์ ยันคลิปเสียงรีด 7 ล้านจริง แต่ยังไม่จ่าย

ส่วนที่ทนายตั้มอ้างว่าฝั่งบอสพอลเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหาทนายตั้มก่อนในวันที่ 15 ต.ค.67 เจรจาในเรื่องเงิน 7 ล้านบาทเพื่อให้ชดใช้จ่ายกลุ่มผู้เสียหายนั้น ทนายวิฑูรย์ ระบุว่า ทนายตั้มบันทึกภาพหน้าจอแค่กรณีของวันที่ 15 ต.ค. แต่ของวันที่ 16 ต.ค. และ 17 ต.ค. ทนายตั้มไม่ได้บันทึกภาพหน้าจอ 

 

โดยตนทราบว่า ทนายตั้มเป็นฝ่ายโทรศัพท์ไปหานายกลด เศรษฐนันท์ หรือบอสปีเตอร์ก่อน จากนั้นบอสพอลจึงโทรศัพท์ไปหาทนายตั้ม แต่เหมือนเป็นการโทรศัพท์ไปมาระหว่างกัน ตนจึงไม่สามารถสรุปได้ว่า ใครเป็นคนโทรศัพท์ไปก่อน จะขอคุยรายละเอียดกับบอสพอลอีกที 

 

ส่วนใครจะเป็นผู้กล่าวเสนอเรื่องเงิน 7 ล้านบาทก่อน ตนไม่ทราบเช่นเดียวกัน เพราะตนเข้ามารับหน้าที่เป็นทนายความให้บอสพอลก่อนวันที่ 15 ต.ค. เพียงไม่กี่วัน แต่ทราบเบื้องต้นว่ามีการเจรจาเรื่องนี้จริง 

 

และทางเลขาส่วนตัวของบอสพอลได้บันทึกเสียงสนทนาการเจรจาเรื่องเงิน 7 ล้านบาทนี้ไว้ โดยเป็นการสนทนาระหว่างทนายตั้มและบอสพอล แต่การจ่ายเงินยังไม่เกิดขึ้น เพราะบอสพอลถูกจับกุมก่อน ส่วนจะนำคลิปเสียงสนทนาเรื่องเจรจาเงิน 7 ล้านบาทไปมอบให้กับตำรวจ บช.ก. หรือไม่นั้น ขอดูหลักฐานแวดล้อมทั้งหมดก่อน เพราะศาลไม่ได้รับฟังเรื่องคลิปเสียง