ข่าว

เรียกสอบตร. อดีตสามีนักร้องหญิง “บิ๊กเต่า” ลั่น สัปดาห์หน้าเอาผิด นักร้อง ก.

เรียกสอบตร. อดีตสามีนักร้องหญิง “บิ๊กเต่า” ลั่น สัปดาห์หน้าเอาผิด นักร้อง ก.

25 ต.ค. 2567

เรียกสอบตำรวจ ปคบ. อดีตสามีนักร้องเรียนหญิง “บิ๊กเต่า” ลั่นสัปดาห์หน้ามีความชัดเจน เรื่องเอาผิดนักร้องเรียน ก.

25 ต.ค.2567 เวลา 16.30 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง หรือ บิ๊กเต่า เปิดเผยถึงการดำเนินคดี ดิไอคอน กรุ๊ป ว่า วันนี้เป็นการประชุมความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่อง คลิปเสียงบุคคลรับผลประโยชน์กับผู้ต้องหาในคดี ดิไอคอน กรุ๊ป โดยคณะทำงานได้มีการตรวจสอบคลิปเสียง มีหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และพยานบุคคล ขณะนี้เหลือสอบปากคำอีกไม่กี่ปาก คาดว่าเพียงพอที่จะสรุปสำนวนเพื่อดำเนินคดีกับนักร้องเรียนบางคนได้ในสัปดาห์หน้า

 

ส่วนจะเป็นหมายเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาหรือหมายจับต้องพิจารณากันอีกครั้ง โดยตอนนี้มีการแบ่งหน้าที่กันทำ คลิปเสียงรีดทรัพย์เป็นในส่วนของ ตำรวจกองปราบ (บก.ป.) ส่วนพยานเท็จจะเป็นหน้าที่ของ บก.ปอท.

โดยในวันพรุ่งนี้ (26 ต.ค.) ช่วงบ่าย ตนจะเรียกเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด บก.ปคบ. ซึ่งเป็นอดีตสามีนักร้องเรียนหญิง มาสอบปากคำเพิ่มเติม

 

ส่วนกรณีของนายตำรวจยศพันตำรวจเอก ที่ขึ้นไปพูดบนเวที ดิไอคอน กรุ๊ป ตั้งแต่ปี 61 นั้น ทางสำนักงานจเรตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบ เนื่องจากตนมีความสนิทส่วนตัว โดยตั้งแต่เกิดเรื่องตนยังไม่ได้มีการพูดคุยกับนายตำรวจคนดังกล่าว

 

สำหรับเรื่องเส้นเงินของบอสดาราทั้ง 3 ราย ที่มีการเปิดเผยในสื่อนั้น ตนไม่ทราบ เป็นในส่วนของบก.ปคบ. ที่เป็นผู้ดำเนินการตรวจสอบ

บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว

 

ส่วนเมื่อช่วงบ่ายที่ นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม ได้ไปที่เรือนจำพร้อมตำรวจนั้น คาดว่า นายอัจฉริยะ มีการประสานมาทางตำรวจ ว่าได้รับการติดต่อจากทางญาติของ นายจิระวัฒน์ แสงภักดี หรือโค้ชแล็ป หนึ่งในผู้ต้องหาว่าตัวโค้ชแล็ปต้องการที่จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี แต่จากการที่เจ้าหน้าที่ตำรวจไปก็ไม่ได้รับข้อมูลอะไร

 

โดยในวันนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล นำข้อมูลหลักฐานมาให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการเอาผิดกับนักร้องเรียนเพิ่มเติม ส่วนกรณีที่จะเอาผิดกับทางนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด รวมไปถึงพยานที่ให้ข้อมูลเท็จนั้น เบื้องต้นยังไม่มีมีการเข้าแจ้งความ แต่มีการประสานว่าจะเข้าดำเนินการหลังจากคดีรีดทรัพย์เสร็จสิ้น

 

เมื่อถามถึงกรณีที่ตำรวจในพื้นที่จะโอนคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาท ที่ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เป็นผู้ถูกกล่าวหามาให้ บก.ป. นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ในกรณีดังกล่าวตนได้มีการพูดคุยกับทาง พล.ต.ต. มนตรี เทศขัน ผู้บังคับการปราบปราม แล้วว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้มีความเกี่ยวข้องแต่อย่างใด เป็นเรื่องที่ผู้เสียหายต้องการให้คดีมาที่นี่ ไม่ใช่ทางเราไปลากคดีมา เป็นความประสงค์ของผู้เสียหาย ยืนยันไม่มีความขัดแย้งส่วนตัวกับทนายตั้ม และไม่ขอให้ความเห็นในกรณีดังกล่าว

 

“ในยุทธจักรยุทธภพ ทนายตั้มผ่านมาแล้วหลายเวที ก็ให้ข้อเท็จจริงกันไป ส่วนตนก็ทำหน้าที่ของตน ไม่มีเรื่องที่จะต้องเอาคืน มีแต่ผู้เสียหายที่จะขอเอาคืนจากทนายตั้มไม่ใช่ตน” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว