
ปัตตานี จัดกิจกรรมเคานท์ดาวน์คดีตากใบ อ่านแถลงการณ์เรียกร้อง 3 ข้อ
ภาคประชาสังคมปัตตานี ปักหลักเคาท์ดาวน์คดีตากใบหมดอายุความ พร้อมอ่านแถลงการณ์ เรียกร้องภาครัฐ 3 ข้อ ด้านศาลนราธิวาส สเเตนบาย 24 ชม. พร้อมรับตัวจำเลย
25 ต.ค. 2567 เกาะติดอย่างต่อเนื่องสำหรับคดีตากใบที่กำลังจะหมดอายุความในเที่ยงคืนวันนี้ ทำให้ตลอดทั้งวันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หลายพื้นที่จัดกิจกรรมต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ จ.ปัตตานี เครือข่ายภาคประชาสังคม , สมัชชาประชาสังคมเพื่อสันติภาพ ได้จัดกิจกรรมรำลึก 20 ปี เหตุการณ์ตากใบ : ความทรงจำและการต่อสู้เพื่อความยุติธรรม ”พร้อมเวทีเสวนาประเด็นหัวข้อสำคัญ เช่น “ตากใบชีพจรความยุติธรรม” และวงเสวนา “ตากใบลมหายใจที่ลอยนวล” พร้อมทั้งฉายหนังสั้น เรื่อง “ตากใบ” โดยกิจกรรมทั้งหมดจัดขึ้นที่ Patani Art Space อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ตลอดทั้งวันมีผู้เข้าร่วมมากกว่า300 คน
และตามกำหนดการค่ำคืนนี้ จะร่วมกันนับเคาท์ดาวน์ตากใบไปจนถึงเที่ยงคืน ซึ่งถือว่าเป็นการสิ้นสุดคดี โดยช่วงหนึ่งได้มีการร่วมกันอ่านแถลงการณ์ตากใบ ฉบับวันที่ 25 ตุลาคม 2567 ซึ่งเป็นวันที่คดีความหมดอายุ โดยมีเนื้อหาข้อเรียกร้องอย่างน้อย 3 ประเด็น ดังนี้
1.ให้รัฐบาลมีการสอบสวนเหตุการณ์ในระดับนานาชาติ โดยการร้องขอให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติเข้ามาตรวจสอบ หรือขอให้ศาลอาญาระหว่างประเทศ (International Criminal Court - ICC) เข้ามามีส่วนในการพิจารณาคดีที่เกี่ยวกับอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ หรือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ เพราะเข้าข่ายกฎหมายระหว่างประเทศ เรื่องการใช้ ความรุนแรงที่เกินกว่าเหตุโดยรัฐในเหตุการณ์ตากใบ เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐาน
2.ให้รัฐบาลไทยปฏิบัติตามข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยลงนาม โดยเฉพาะกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง และสนับสนุนการจัดตั้งกลไกเพื่อตรวจสอบการละเมิดสิทธิและความเป็นธรรมในกรณีอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และให้ผู้มีอำนาจรัฐตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงใหม่ โดยคณะกรรมการที่ตั้งขึ้นมานี้ต้องมีความเป็นกลางและ เป็นอิสระจากฝ่ายการเมือง
3.ให้รัฐบาลมีการประณามการลอยนวลของผู้กระทำความผิด (Impunity) รัฐบาลควรเน้นย้ำให้เห็นว่า ความล้มเหลวในการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายในระดับชาติ เป็นตัวอย่างของการลอยนวลของผู้กระทำผิด ซึ่งเป็นปัญหาที่กระทบต่อความเป็นธรรมในระดับสากล ต้องให้ตระหนักถึงความจำเป็นในการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมของ ไทย
อย่างไรก็ตามในค่ำคืนนี้ฝ่ายความมั่นคงเอง ได้เน้นย้ำให้มีการเฝ้าระวังป้องกันเหตุความรุนแรงที่อาจมีความสุ่มเสี่ยงที่ฝ่ายผู้ก่อเหตุความไม่สงบ อาจสวมรอยสถานการณ์สร้างความปั่นป่วนให้เกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้ทุกเส้นทางสายหลักและสายรองมีด่านความมั่นคง ที่คอยตรวจสอบยานพานะที่สัญจรอย่างเข้มงวด
ด้านความคืบหน้าในการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีสลายการชุมนุม ซึ่งศาลจังหวัดนราธิวาส และศาลจังหวัดปัตตานี มีการออกหมายจับเอาไว้แล้ว มีรายงานว่า ในวันนี้ทางศาลจังหวัดนราธิวาส จะมีการจัดเวรยามผู้พิพากษาในการสเเตนบาย หากมีการนำตัวผู้ต้องหามายื่นฟ้องต่อศาล จนถึงเวลา 00.00 น. ของวันนี้ พร้อมมีหนังสือแจ้งไปยังผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ และผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาสแล้วว่า สามารถส่งตัวจำเลยได้ตลอดเวลา ภายในอายุความตามหมายจับ ให้ประสานมาแม้อยู่ที่จังหวัดอื่น ให้พาตัวไปที่ศาลในจังหวัดนั้นๆเพื่อใช้เป็นที่ทำการรับตัว โดยมีสักขีพยาน สอบผ่านสื่ออิเล็คทรอนิกส์