"เจ๊อ้อย" เตรียมเข้าพบกองปราบเร็วๆนี้ ทนายยืนยันมีสัญญาโอนเงินชัดเจน | คมชัดลึก

26 ต.ค. 2567 จากกรณีที่ น.ส.จตุพร หรือ  เจ๊อ้อย แจ้งความเอาผิด ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด อ้างว่าถูกหลอกลงทุนแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ ที่ สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เมื่อวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา

 

พ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เผยว่า หลังจากที่พนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โอนสำนวนคดีมาให้ กองกำกับการ 3 กองบังคับการปราบปราบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เป็นผู้ดำเนินการ พนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างเชิญผู้เสียหายเข้ามาให้ปากคำ ตอนนี้อยู่ระหว่างประสานว่าจะสะดวกวันไหน
 

ส่วนผู้เสียหายจะแจ้งความในข้อหาฉ้อโกงประชาชน เพื่อเอาผิดกับผู้ถูกกล่าวหา ทางพนักงานสอบสวนกองปราบปราม จะต้องขอดูสำนวนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งจะต้องทำตามเป็นขั้นตอนระเบียบ

 

ด้านนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความของเจ๊อ้อย ระบุว่า วันนี้เจ๊อ้อยไม่ได้เดินทางมากองบังคับการกองปราบปราม ส่วนจะเป็นพรุ่งนี้หรือไม่นั้น ต้องรอประสานรายละเอียดอีกที ในส่วนของการโอนสำนวนคดีมาที่ทางกองปราบปราม เป็นวัตถุประสงค์ของทาง น.ส.จตุพร เนื่องจากว่า ในพื้นที่เครื่องมือต่างๆ จำนวนของพนักงาน สภ.ปากช่อง อาจไม่เพียงพอ กลัวว่าจะทำคดีล่าช้า เพราะคู่กรณีเป็นถึงทนายความชื่อดัง กระบวนการต่างๆ น่าจะใช้เวลานาน จึงตัดสินใจโอนมาให้กองปราบปรามเป็นคนทำคดีนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า ทางทนายชื่อดังหรือคู่กรณีติดต่อเจรจาหรือไม่ ทนายสมชาติ ยืนยันว่า ยังไม่มีใครติดต่อผ่านตนมา ขอยืนยันว่า ถ้าเป็นในส่วนของรูปคดีจะต้องติดต่อผ่านทางตนเท่านั้น 

 

ส่วนประเด็นเงินจำนวน 71 ล้านบาท ที่ทางทนายความชื่อดังอ้างว่า ให้ด้วยความเสน่หา ตนตอบได้เเค่ว่า เป็นไปตามหลักฐานที่ตนได้แจ้งความไว้แค่นั้น ส่วนจะเป็นอย่างไรก็เป็นการต่อสู้ของเขา ทางตนและลูกความได้ยึดตามหลักฐานเอกสารที่มี

 

ทนายสมชาติ ยืนยัน มีการทำสัญญา จริงเเน่นอน ลงนามโดยชื่อของผู้เสียหายคือ น.ส.จตุพรและคู่สัญญา โดยไม่มีชื่อของผู้ถูกกล่าวหาอยู่ในสัญญา แต่มีชื่อของบุคคลใกล้เคียงที่มาเซ็นชื่อเป็นพยาน ยืนยันว่าเอกสารฉบับนี้จะมีผลทางกฎหมายและเป็นหลักฐานในคดีนี้ได้อย่างแน่นอน และยังมีใบเปย์อินหรือกระดาษกรอกเลขที่บัญชีและยอดเงิน ก่อนโอนไปให้บุคคลอื่น ซึ่งเป็นหลักฐานทางธนาคารหรือหลักฐานการโอนเงินที่ปรากฏอยู่ตามสื่อในตอนนี้