ข่าว

กลโกลใหม่! สาวสุดช้ำเก็บเงินหมื่นต่อยอดไปทำงานต่างประเทศ โดนหลอกเกลี้ยง

กลโกลใหม่! สาวสุดช้ำเก็บเงินหมื่นต่อยอดไปทำงานต่างประเทศ โดนหลอกเกลี้ยง

26 ต.ค. 2567

กลโกลใหม่! สาวสุดช้ำเก็บเงินหมื่นต่อยอดไปทำงานต่างประเทศ โดนหลอกเกลี้ยงบัญชี เอะใจก่อนบิน 2 วันยังไม่ได้ตั๋วเครื่องบิน

26 ต.ค.2567 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ นางสาวลำไย (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี ที่อยู่  ม.10 ต.ปะเคียบ อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ และ น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 47 ปี ชาว อ.คูเมือง จ.บุรีรัมย์ ร้องสื่อเพื่ออยากให้ผู้ที่มีประสบการณ์มาชี้แนะ และอยากจะแจ้งเตือนคนทั่วไป ที่คิดจะไปทำงานต่างประเทศ รวมถึงเปิดกลโกงของมิจฉาชีพที่มาทุกรูปแบบ

กลโกลใหม่! สาวสุดช้ำเก็บเงินหมื่นต่อยอดไปทำงานต่างประเทศ โดนหลอกเกลี้ยง

นางสาวลำไย เล่าว่าก่อนหน้านี้ได้เงินกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมา 10,000 บาท ไม่กล้าจะใช้เพราะต้องการเอาไปต่อยอดให้เงินมันงอก ทำงานรับจ้างเหมือนเดิมเพื่อประทังชีวิตไปก่อน ต่อมาได้มีนางสาวณัฐริกา หรือภาพ (สงวนนามสกุล)  อายุ 42 ปี ชาว ต.สระบัว อ.แคนดง จ.บุรีรัมย์ เป็นนายหน้าหาคนไปทำงานที่ประเทศอินเดีย

 

คนบ้านใกล้กันทักมาทางเฟซบุ๊ก ตอนแรกไม่รู้จัก พอคุยกันจึงรู้ว่าเป็นคนแถวนี้ จึงคุยด้วยตามปกติ นางภาพ ได้ทักมาวันละ 3-4 ครั้ง ก่อนจะชวนให้ไปทำงานที่ประเทศอินเดีย โดยนางภาพบอกว่าจะให้ไปดูแลร้านนวดได้เงินเดือน 25,000-30,000 บาท แต่จะต้องเสียค่าวีซ่า และค่าตั๋วเครื่องบิน รวมแล้ว 25,000 บาท ตอนแรกชั่งใจเพราะตนต้องดูแลพี่ชายที่ป่วยติดเตียง

กลโกลใหม่! สาวสุดช้ำเก็บเงินหมื่นต่อยอดไปทำงานต่างประเทศ โดนหลอกเกลี้ยง

แต่มองแล้วมีความหวัง หกาได้เงินเดือนขนาดนั้น ก็จะสามารถจ้างคนมาดูแลพี่ชายได้ จึงเอาเงิน 10,000 บาทของรัฐบาลที่เก็บไว้ในบัญชี โอนให้ไปก่อน จากนั้นนางภาพ ได้ถามเอาเงินอีก ตนไม่มีจึงยืนเพื่อนบ้านโอนให้อีก 4,000 บาท รวมเป็น 14,000 บาท แต่พอใกล้ถึงวันนัดจะบิน นางภาพ ได้เลื่อนเวลาไปเรื่อยๆ จึงไม่กล้าจะโอนเงินอีก

 

สุดท้ายนางภาพ อ้างว่าโดนตำรวจจับ ที่อินเดียเกี่ยวกับค้าประเวณี จึงรู้ว่าน่าจะโดนหลอก จึงไปแจ้งความไว้ที่ สภ.คูเมือง ตอนนี้เสียใจมากเงินที่ได้มาจากรัฐบาล 10,000 บาท หายวับไปกับตา แถมยังมีหนี้เพิ่มอีก 4,000 บาท

 

เช่นเดียวกับ น.ส.เอ (นามสมมุติ) ซึ่งโดนนางภาพ หลอกเช่นเดียวกัน เล่าว่า ตนจ่ายเงินไปครบ 25,000 บาท พยายามถามว่าจะได้บินวันไหน ถูกบ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด บอกว่าถ้าถึงวันเดี๋ยวจะส่งตั๋วเครื่องบินให้ ตนแปลกใจตรงที่เหลืออีก 2 วัน จากที่นัดกันคือ วันที่ 22 ต.ค. 2567 เป็นวันบิน แต่ตั๋วยังไม่ได้ ไม่เชื่อว่าจะซื้อตั๋วเหมือนรถทัวร์ได้ จึงรู้ว่าโดนหลอกแน่นอนและมั่นใจว่านางภาพ ไม่โดนจับตามคำกล่าวอ้าง

 

ตอนนี้ตนต้องแบกรับภาระหนี้เพิ่มอีก เงินรัฐบาลที่ได้มา 10,000 บาท ก็หมดไป ผู้สื่อข่าวตรวจสอบพบว่ายังมีอีกหลายคนที่โดนหลอกในลักษณะเดียวกัน แต่ไม่กล้าออกมาให้ข่าว มีเพียงนางชิตากาญจน์ (สงวนนามสกุล)  อายุ 45 ปี เจ้าของร้านค้าขายของชำ ชาว อ.แคนดง ที่ออกมาเผยว่า โดนภาพเซ็นสินค้าไปร่วม 20,000 บาท  ก่อนที่จะนางสาวภาพ จะบินไปประเทศอินเดีย ผู้สื่อข่าวเดินทางไปบ้านของนางภาพ พบเพียงพี่สาวนางภาพ แต่ไม่ขอให้ข้อมูลใดๆ กับสื่อ