ข่าว

สาวใบ้สุดช้ำ ถูกสาวใบ้รวมหัวผัวหลอกให้รัก รูดเงินหมื่นหมดตัว อุ้มทิ้งทะเล

สาวใบ้สุดช้ำ ถูกสาวใบ้รวมหัวผัวหลอกให้รัก รูดเงินหมื่นหมดตัว อุ้มทิ้งทะเล

28 ต.ค. 2567

ตำรวจพัทยาถึงกับท้อ สาวใบ้ ขอความช่วยเหลือถูกแฟนทิ้ง กว่าจะเข้าใจกันร่วม 3 ชม. ที่แท้ถูกหลอกให้รัก เชิ่ดเงินหมื่นรอบคนพิการ ก่อนปล่อยทิ้งชายหาด

27 ต.ค. 2567 ร.ต.อ. ร.ต.ท.อนิรุจน์ เจ๊ะเหราะ รองสว.สอบสวน สภ.เมืองพัทยา ปฎิบัติหน้าที่เข้าเวรประจำสภ. เมืองพัทยา ได้มี น.ส.แอร์ อายุ 33 ปี เดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือ ว่าตนเองนั้น ถูกแฟนสาวหลอกพามา แล้วปล่อยทิ้งไว้ที่บริเวณชายหาดพัทยา ไม่สามารถกลับที่พักได้ อยากให้เจ้าหน้าที่ช่วยติดต่อญาติให้ที หรือหาวิธีส่งกลับบ้านด้วย 

 

ดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่าย แต่ในกรณีนี้ถึงกับสร้างความมึนงงและท้อใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่น้อย เนื่องจากน.ส.แอร์ อายุ 33 ปี ที่เดินทางเข้ามาขอความช่วยเหลือนั้น เป็นบุคคล ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินและสื่อสาร (หูหนวกและเป็นใบ้) ทำให้การสื่อสารระหว่างเจ้าตัวกับเจ้าหน้าที่นั้น เป็นไปด้วยความยากลำบาก เพราะนอกจาก จะมีความบกพร่องดังทางการสื่อสารแล้ว ยังมีปัญหาทางด้านสมองด้วย 

 

เจ้าหน้าที่พยายาม จะสื่อสารด้วยการเขียน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง จึงได้ขอติดต่อไปทางกลุ่มญาติและเพื่อนๆ ก็ดูเหมือนสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลาย แต่ก็ต้องพบกับเรื่องวุ่นเข้าไปอีก เนื่องจากกลุ่มเพื่อน และญาติก็มีความบกพร่องในการสื่อสาร และการได้ยินในลักษณะเดียวกันด้วย 

 

สาวใบ้สุดช้ำ ถูกสาวใบ้รวมหัวผัวหลอกให้รัก รูดเงินหมื่นหมดตัว อุ้มทิ้งทะเล

ต่อมาความวุ่นวายกลับเพิ่มขึ้นอีก เมื่อกลุ่มของแฟนสาว ของ น.ส.แอร์ ที่เจ้าตัวแจ้งว่าได้ หลอกมาปล่อยทิ้งไว้ที่ชายหาด มากับกลุ่มชายฉกรรจ์ รวม 3 คน ซึ่งมีอาการบกพร่องทางการสื่อสารเช่นกัน พยายามจะพาตัว น.ส.แอร์ ไป แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สังเกตุเห็นอาการ น.ส.แอร์เหมือนหวาดกลัวผิดปกติ ประกอบกับทางญาติ แจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าห้ามให้ไปกับกลุ่มนี้โดยเด็ดขาด เพราะเกรงว่าจะได้รับอันตราย 

 

สาวใบ้สุดช้ำ ถูกสาวใบ้รวมหัวผัวหลอกให้รัก รูดเงินหมื่นหมดตัว อุ้มทิ้งทะเล

 

เมื่อเจ้าหน้าที่สอบถามกลุ่มคนเหล่านี้ เพื่อเป็นการยื้อเวลา ก็รีบพากันเดินทางออกจากโรงพักไป ซึ่งสร้างความมึนงงให้กับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก เนื่องจากมีปัญหาทางด้านการสื่อสาร กว่าจะเข้าใจกันและประสานให้กลุ่มเพื่อนและญาติมารับตัวได้ ใช้เวลาเวลานานกว่า 3 ชั่วโมง เลยที่เดียว 

เบื้องต้น น.ส.แอร์ ซึ่งให้การโดยจับใจความไม่แน่ชัดอีกว่า ถูกกลุ่มบุคคลที่มากับแฟนสาว ยึดบัตรประชาชนและเอกสาร สำคัญไป แต่ยังไม่ทราบว่าเกิดจุดประสงค์ใด ประกอบกับเจ้าตัวมีอาการหวาดกลัว หาก เจ้าตัวประสงค์ที่เข้าแจ้งความ ในกรณีใดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ก็จะต้อง ขอประสานขอบุคคลที่มีความสามารถในการสื่อสาร หรือล่ามที่ใช้ภาษามือ และสามารถบอกเล่าให้กับเจ้าหน้าที่ฟังได้ เพื่อจะไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดในการสอบสวนและสรุปสำนวนคดีเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายด้วย

 

ต่อมาน.ส.แอร์ ได้ให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านเพื่อนซึ่งทำหน้าที่เป็นล่ามแปลภาษามือ  พอได้ใจความว่าเมื่อวันเสาร์ 26 ต.ค. ที่ผ่านมาเป็นวันที่เกิดเหตุตามที่ปรากฏในคลิป โดยสาเหตุที่ทำร้าย นั้นเพราะทั้งสองต้องการเงิน จึงได้บังคับให้ตนเองนำรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า เวฟ 110 สีเทาดำ ไปขายที่ร้านแถวพระราม 3 ในราคา 30,500 บาท รวมถึงโทรศัพท์มือถือ บัตรคนพิการรวมถึงเงินดิจิตอล 10,000 บาท ซึ่งตนเองอยู่ในกลุ่มเปราะบางจึงได้ก่อน แต่ก็ถูกสองผัวเมียยึดไปทั้งหมด ก่อนจะพาตนเองนั่งรถ มาปล่อยทิ้งในพื้นที่เมืองพัทยา ตนเองจึงมาขอความช่วยเหลือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อสองผัวเมีย คู่นี้รู้ว่าตัวเองเข้าแจ้งความ ก็พยายามจะมารับตัวไป โชคดีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจให้การช่วยเหลือไว้ก่อน

 

เบื้องต้นทราบชื่อและนามสกุลจริงของสองสามีผู้ก่อเหตุแล้ว โดยฝ่ายชายยังปรากฏว่าเป็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยของหน่วยงานหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ก่อนประสานให้ข้อมูลต่อไปยังเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เกิดเหตุ เพื่อขยายผลหาเบาะแส เพิ่มเติมทั้งพยานบุคคล รวมไปถึงกล้องวงจรปิด เพื่อติดตาม ตัวผู้ก่อเหตุทั้งสองราย มาสอบปากคำหากมีการกระทำผิด ก็จะแจ้งข้อกล่าวหาเพื่อดำเนินคดีตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป