ข่าว

ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความแบรนด์ดัง เปลี่ยนสัญญาไม่เป็นธรรม เสียหาย 50 ล้าน

ผู้เสียหาย เข้าแจ้งความแบรนด์ดัง เปลี่ยนสัญญาไม่เป็นธรรม เสียหาย 50 ล้าน

28 ต.ค. 2567

ซ้ำรอย? กลุ่มผู้เสียหาย เข้าแจ้งความแบรนด์ออนไลน์ชื่อดัง มีดาราดังเป็นพรีเซนเตอร์ เปลี่ยนสัญญาไม่เป็นธรรม ผู้เสียหายโผล่อื้อกว่า 70 ราย มูลค่ากว่า 50 ล้านบาท "อี้ แทนคุณ" ใบ้ชัดอักษรย่อ

28 ต.ค. 2567 เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ศูนย์รับแจ้งความกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง( บช.ก.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ หรือ อี้แทนคุณ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พาผู้เสียหายประมาณ 10 ราย เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน หลังถูกบริษัทชื่อดัง เปลี่ยนสัญญาระบบการสต็อคตัวแทนจำหน่าย โดยไม่สามารถเบิกของได้จำนวนมาก รวมผู้เสียหายเบื้องต้น 70 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

อี้ แทนคุณ เปิดเผยว่า บริษัทอักษรย่อ อาร์ เป็นบริษัทใหญ่มีมูลค่าการลงทุนสูง   มีดาราดังเป็นพรีเซนเตอร์ และมีพิธีกรแนวหน้าของเมืองไทยเป็นพรีเซนเตอร์ด้วย แต่ไม่ได้กล่าวหาว่าดาราเป็นผู้ร่วมกระทำความผิดแต่อย่างใด  ตอนนี้มีผู้เสียหายกำลังทยอยรวมตัวกันแล้วขณะนี้มี 70 ราย

 

รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 50 ล้านบาท โดยลักษณะการลงทุนจะเริ่มต้นจากการชักชวนให้ซื้อสินค้าโดยเริ่มจากการเปิดบิล 10 ชิ้น 6,900 บาท แต่กว่าจะได้สินค้านั้นยากและนานมากและได้ไม่ครบ เมื่อติดตามทวงถามไปก็ไม่ได้ ทั้งที่จ่ายเงินไปแล้ว

 

นอกจากนี้ยังมีการให้หาเครือข่ายหาแม่ทีมลูกทีมมาซ้อนกัน คล้ายกับแชร์ลูกโซ่ แต่จะเข้าข่ายหรือไม่? จะให้ตำรวจเป็นผู้ตรวจสอบพยานหลักฐาน บริษัทดังกล่าวยังมีการให้รางวัลการทำยอด อาทิ หากทำยอดถึง 2 ล้านบาท จะได้ทริปเที่ยวอเมริกา โดยทริปเที่ยวดังกล่าวมีมูลค่า 300,000 บาท แต่เมื่อทวงถามไปก็ไม่สามารถได้จริง แต่ให้เป็นเงิน 50,000 บาท แทน และหากทำยอดได้ 2.5 ล้านบาท จะได้กินข้าวร่วมกับศิลปินระดับโลกแต่ก็ไม่ได้จริง

นางเอ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า บริษัทเป็นรูปแบบรับตัวแทนจำหน่าย โดยภายหลังมีการเปลี่ยนระบบ ซึ่งไม่มีการแจ้งล่วงหน้ากับตัวแทนจำหน่ายสินค้า โดยให้สตอกสินค้ากับทางบริษัท และให้เบิกได้จำกัดจำนวน 10 ชิ้น/ครั้ง

 

หากจะเบิกจำนวนมากจะต้องทำเรื่อง นอกจากนี้ยังมีการขายตัดราคากับทางกลุ่มตัวแทนจำหน่าย ทำให้เหล่าตัวแทนจำหน่ายไม่สามารถขายสินค้าได้ ทางกลุ่มผู้เสียหายได้มีการร้องขอให้บริษัทแก้ไขระบบ แต่เวลาผ่านไปเกือบ 11 เดือน ก็ยังไม่มีการแก้ไข จึงอยากให้ทางบริษัทช่วยซื้อสินค้าคืน

 

 

นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายบางราย ที่นำสินค้าไปขายที่ประเทศกัมพูชา แต่พบว่าบริษัทดังกล่าวกลับไปเปิดขายที่กัมพูชาด้วย เมื่อผู้เสียหายทวงมากๆ ก็จะถูกตัดและล็อกรหัสเข้าเว็บไซต์ ทำให้ไม่สามารถติดตามการซื้อขายได้ ซึ่งในวันนี้กลุ่มผู้เสียหายมาแจ้งความเจ้าของบริษัท 2 คน เป็นสามีภรรยากัน ในข้อหาฉ้อโกงประชาชนกับ พ.ร.บ.คอมฯ และในส่วนการเปลี่ยนสัญญาไม่เป็นธรรม ว่าจะเข้าข่าย พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคด้วยหรือไม่