"บิ๊กเต่า" เร่งตรวจสอบทุกรายชื่อ ปม "บอสพอล" พาดพิง สาวไส้รับเงิน
"บิ๊กเต่า" เร่งตรวจสอบทุกรายชื่อ ปม "บอสพอล" พาดพิง สาวไส้รับเงิน อัปเดตคดี "นักร้องเรียนหญิง" - พยานเท็จ รอทนายเข้าแจ้งความ
28 ต.ค.2567 ที่ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยถึงความคืบหน้าคดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" กรณีการดำเนินคดี กับนักร้องเรียนสาว ก.ไก่ รวมถึงกรณีที่เพจดังมีการนำพยานเท็จเข้าให้ปากคำ ว่า
ตอนแรกประสานทนายวิฑูรย์ เก่งงาน เข้ามาแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกรณีดังกล่าว แต่ทนายแจ้งว่า ยังไม่สามารถเข้าแจ้งความได้ เนื่องจากติดภารกิจว่าความ และสามารถเข้ามาได้อีกครั้งในวันพฤหัสบดีนี้ ซึ่งตนมองว่าช้าไป จึงได้ให้ทนายวิฑูรย์ ประสานกับทนายคนอื่นเข้ามาแจ้งความร้องทุกข์แทน
ส่วนเรื่องการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ตนมองว่าช้าไปนั้นจะมีผลต่อรูปคดีหรือไม่ ตนมองว่าไม่เกี่ยวแต่เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นที่ได้รับความสนใจของประชาชน จึงอยากทำคดีให้เป็นต้นแบบ และเป็นบรรทัดฐาน เพื่อเอาผิดกับกลุ่มที่อ้างตนว่าทำ จิตอาสาเพื่อประชาชน แต่กลับดำเนินการในทางที่ชอบ ส่วนแนวทางการดำเนินการตนต้องการให้มีความชัดเจนรวมถึงจะให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายอยู่แล้ว ยืนยันว่าสามารถดำเนินการเอาผิดได้แน่นอนเพราะมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์
ส่วนของการร้องทุกข์คดีรีดรับทรัพย์ ตอนนี้ได้รับเครื่องร้องเรียนประมาณ 4-5 รายแล้ว แต่จะสามารถดำเนินคดีได้ก็ต่อเมื่อทางบอสพอล ให้ทนายติดต่อแจ้งความดำเนินคดี ตอนนี้ทางทนายความจะทยอยเปิดหลักฐานแต่ละเคส ซึ่งก็ต้องติดตามความคืบหน้าต่อไป
สำหรับการทำงานของตำรวจ ตอนนี้แบ่งให้กองบังคับการปราบปราม สืบสวนคดีที่เกี่ยวของกับคลิปเสียง ส่วนคดีที่เกี่ยวกับการนำพยานเท็จเข้าให้ปากคำ เป็นของกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโลยี ซึ่งทุกคดียังไม่มีการแจ้งความร้องทุกข์ จึงยังไม่สามารถเดินหน้าทำคดีต่อได้
ส่วนความคืบหน้าของคดี ดิไอคอน กรุ๊ป เหลือเพียงการเข้าสอบปากคำ บอสอีก 3 ปาก ไว้เป็นพยานเท่านั้น เพราะพวกหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ และรายละเอียดต่างๆ มีความชัดเจนแล้ว
กรณีบอสพอลกล่าวอ้างว่า ได้จ่ายเงินให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้ง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI), สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.), กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ,กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) นั้น เบื้องต้นได้มีการทำหนังสือ ไปถึงหน่วยงานที่ถูกอ้างอิงถึงเพื่อทำการตรวจสอบแล้ว