แห่แจ้งความหลักสูตรซ่อมเครื่องบิน ม.ดัง เรียนจบไม่ได้รับวุฒิเอียซ่า สูญ 10 ล้าน
20 นักศึกษา แห่แจ้งความหลักสูตรช่างซ่อมเครื่องบิน มหาวิทยาลัยดัง โฆษณาเกินจริง เรียนจบไม่ได้รับวุฒิเอียซ่า สมัครงานไม่ได้ บางรายพ่อถึงขั้นสละเงินผ่าตัดให้มาเรียน แต่กลับสูญเปล่า
29 ต.ค. 2567 เวลา 13.30 น. รศ.ดร.วีรชัย พุทธวงศ์ หรือ อาจารย์อ๊อด เลขาธิการศูนย์ประสานงานบุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาของรัฐ พาผู้เสียหายที่สมัครเรียนหลักสูตรนายช่างซ่อมเครื่องบิน ของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ มาแจ้งความดำเนินคดีฐานฉ้อโกง ที่ศูนย์รับแจ้งความ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
รศ.ดร.วีรชัย กล่าวว่า เนื่องจากหลักสูตรดังกล่าว มีการโฆษณาเกินจริงทางสื่อต่างๆ ให้ประชาชนหลงเชื่อมาลงทะเบียนเรียน ซึ่งมีนักศึกษารวมตัวกันได้ประมาณ 20 คน มาร้องเรียนและประสานมาที่ตน ซึ่งได้พาเดินทางไปยื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ให้ตรวจสอบกรณีที่ไปเรียนแล้วไม่ได้รับวุฒิเอียซ่า หรือใบรับรองมาตรฐานองค์การความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป ตามที่โฆษณาไว้ แต่ได้เพียงใบรับรองจากบริษัทที่มาจัดหลักสูตร ทำให้นำไปใช้สมัครเข้าทำงานยาก
โดยผู้เสียหายส่วนใหญ่ เมื่อทราบว่าหลักสูตรไม่เป็นไปตามที่โฆษณา จึงลาออกกลางคัน และพยายามขอเงินคืน แต่กลับถูกข่มขู่ ขณะที่บางส่วนก็เรียนจนจบ แต่วุฒิที่ได้ นำไปใช้สมัครเข้าทำงานไม่ได้ ต้องไปเรียนหลักสูตรที่อื่นเพิ่มเติมอีก โดยค่าเทอมของหลักสูตรนี้อยู่ที่ประมาณ 5 แสนบาท รวมมูลค่าความเสียหายจากกลุ่มนักศึกษาที่รวมตัวกันตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 10 ล้านบาทแล้ว
หนึ่งในผู้เสียหายได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่รู้สึกว่ามีความไม่ชอบมาพากล เพราะผู้บริหารของมหาวิทยาลัยสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ วันนี้จึงเดินทางมาที่ก็กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อจะขอให้โอนคดีมาที่นี่
รศ.ดร.วีรชัย ยังได้เปิดคลิปเสียง ที่เป็นการพูดคุยกันของผู้บริหารมหาวิทยาลัย หลังจากมีกลุ่มนักศึกษารวมตัวกันมาลาออก โดยในคลิปเสียงจะเห็นว่ามีการเรียกรับผลประโยชน์ อธิการบดี มีการบอกว่า “ฝรั่งจะแฉทั้งหมดว่าใครเรียกรับเงินไปบ้าง” หมายถึงว่า หลักสูตรนี้ถูกซื้อแฟรนไชส์ จากบริษัทของประเทศเยอรมนี ซึ่งเมื่อผู้เสียหายจ่ายเงินค่าเรียนให้กับมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยก็จะนำไปจ่ายให้บริษัทนี้ และมีเงินทอนกลับมาที่อาจารย์ประจำหลักสูตร
คุณเอ ผู้เสียหายที่ได้ไปแจ้งความไว้ที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ บอกว่า ตนได้ไปแจ้งความไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่คดีไม่มีความคืบหน้า จนกระทั่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาหลังเป็นข่าว ทางสารวัตรที่รับผิดชอบคดีได้โทรศัพท์มาและเร่งรัดให้ตนไปพบที่สถานีตำรวจ แต่ตนได้ยินเสียงปลายสายว่ามีคนที่สั่งสารวัตรอีกที โดยได้ยินว่า “ให้เรียกมันมาให้ได้” ทำให้ตนขาดความเชื่อมั่นกับตำรวจพื้นที่ และต้องการให้ย้ายคดีมาที่กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง
ส่วนผู้เสียหายอีกราย บอกว่า ที่มาร้องเรียนเพราะหวังจะได้รับเงินค่าหลักสูตรคืน เพราะไปเรียนแล้วไม่ได้เป็นไปตามที่โฆษณาไว้ตั้งแต่แรก ที่การันตีว่ามีงานทำในสายการบินยุโรปแน่นอน ซึ่งตอนนั้นครอบครัวก็ได้เสียสละเงินที่จะผ่าตัดรักษาพ่อ เพื่อมาจ่ายค่าเรียนให้ตน เพราะหวังว่าจบไปแล้วจะมีงานทำ มีเงินเดือนสูง มาดูแลครอบครัวได้ แต่ก็ต้องผิดหวัง