"พิชัย" เมิน พปชร. อ้างสมาชิก พท. เอี่ยว "ดิไอคอน กรุ๊ป" ขอมุ่งแก้เศรษฐกิจ
"พิชัย" ไม่ทราบ พปชร. บอกสมาชิกเพื่อไทย เอี่ยว "ดิไอคอน กรุ๊ป" ขอมุ่งแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะประชาชนกำลังอดตาย
กรณีที่ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงมีอดีตผู้สมัคร สส. พรรคเพื่อไทย เป็นบอสเบื้องหลัง "ดิไอคอน กรุ๊ป" รวมทั้งเปิด 6 อักษรย่อที่มีความใกล้ชิดกับนักการเมืองที่ในพรรคเพื่อไทยเกือบทั้งหมด
30 ต.ค. 2567 นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่ทราบและไม่ได้ติดตาม ตนเองมุ่งเรื่องของเศรษฐกิจเป็นหลัก ซึ่งปัจจุบันในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ กำลังไปได้ดี มีชาวต่างประเทศ ทั้งทูต และนักลงทุนสนใจ ที่เดินทางมาประเทศไทยเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนตัวมองว่า เนื่องจากอยู่ในธุรกิจมานาน เมื่อมีคนแห่เข้ามาหาเราแสดงให้เห็นว่า เนื้อหอม และเป็นที่ต้องการของคนทั่วไป
อยากให้เรื่องของการเมืองน้อย ๆ หน่อย เพราะตนอยากเห็นเช่นนั้น ซึ่งเรื่องของการเมือง ทำให้ประเทศไทยชะงักมานับ 10 ปีแล้ว ฉะนั้นถึงเวลาที่จะต้องกลับมากระตุ้นเศรษฐกิจให้มาก ขอให้เล่นการเมืองน้อยๆ เพราะคนกำลังจะอดตายกันเยอะแล้ว ดังนั้นจึงต้องมาทบทวนว่า จะทำอย่างไรให้ GDP เติบโต และมีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่กระทรวงพาณิชย์อยากเห็น เช่นเดียวกับนายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้กระทรวงพาณิชย์กำลังประชุมแก้ไขเรื่องสินค้าที่ด้อยคุณภาพ ซึ่งจะมีมาตรการที่แก้ไขเรื่องนี้ออกมาอย่างชัดเจน
นายพิชัย กล่าวต่อว่า แม้ว่าอีกไม่กี่วันจะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา และจะเห็นได้ว่ามีแนวโน้มที่ “โดนัลด์ ทรัมป์” จะชนะเลือกตั้ง แต่ทั้งนี้ไม่ว่าใครจะชนะเลือกตั้ง สงครามการค้าระหว่างประเทศจีนกับสหรัฐฯ จะเพิ่มขึ้น แต่เราจะได้รับประโยชน์ เพราะขณะนี้สหรัฐอเมริกา วิ่งเข้ามาลงทุนในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก และขยายการลงทุนอีกมาก
นอกจากนี้รัฐมนตรีจากประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ก็จะเข้ามาพบ โดยจะมีการเจรจาขยายธุรกิจทางด้าน Data Center ธุรกิจอาหาร และการเจรจาเขตการค้าเสรี หรือ FTA ซึ่งขณะนี้มีแนวโน้มการลงทุนในประเทศไทยที่ดีมาก ย้ำว่า ที่ผ่านมาทำไมเศรษฐกิจไทยถึงโตช้า เพราะต้องปรับเปลี่ยนโครงสร้าง แต่ขณะนี้ได้นำเทคโนโลยี อุตสาหกรรมใหม่ และธุรกิจต่าง ๆ เข้ามามีทิศทางเป็นไปด้วยดี
นายพิชัย กล่าวอีกว่า ประเทศไทยลำบากมาหลายปี ดังนั้นมีความจำเป็นที่ต้องฟื้นเศรษฐกิจให้รวดเร็ว แต่ขณะนี้ทิศทางฟื้นมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งไม่ได้พูดเพื่อโปรโมทกัน แต่สามารถเช็กข้อมูลได้
จะเห็นได้จากตัวเลขการลงทุนตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา 7.2 แสนล้านบาท ซึ่งถือว่ามากสุดในรอบ 10 ปี ดังนั้นความมั่นใจจึงกลับมาและกำลังเข้ามาเรื่อยๆ ซึ่งเดือนหน้าตนก็จะเดินทางกับนายกรัฐมนตรี เพื่อเข้าร่วมประชุม APEC ที่ประเทศเปรู และเชื่อว่าจะมีหลายประเทศเข้ามาเจรจาการค้ามากขึ้น การลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น
ซึ่ง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ก็ได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นจำนวนมาก เพราะเมื่อตอนนายกรัฐมนตรีเข้าร่วมประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่ สปป.ลาว ต่างมี คนขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีเป็นจำนวนมาก กว่า 26 วงประชุม ซึ่งเรียกว่าเนื้อหอม มากกว่าประเทศสิงคโปร์ จึงเป็นทิศทางที่กำลังไปได้ด้วยดี