ทนายตั้ม สับขาหลอก ชิ่งหนีสื่อปฏิเสธให้สัมภาษณ์ หลังโผล่ขึ้นศาลนครพนม
ทนายตั้ม สับขาหลอก ชิ่งหนีสื่อปฏิเสธให้สัมภาษณ์ หลังโผล่ขึ้นศาลนครพนม คดีครูแก้วฟ้องหมิ่นประมาท พร้อมเรียกค่าเสียหาย 30 ล้านบาท
สำหรับ ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความคนดัง ที่กำลังตกเป็นกระแสข่าวดรามา กรณีถูกกล่าวหาเรียกรับเงินลูกความ ล่าสุดเช้าวันนี้ 31 ต.ค. 2567 พบว่าทนายตั้มได้เดินทางมาขึ้นศาลจังหวัดนครพนม ในฐานะเป็นจำเลยที่ 2 และจำเลยที่ 1 คือ น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ หรือ เจ้ช่อ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทรับผลิต-จำหน่ายน้ำยางพารารายใหญ่ เนื่องจากทั้งคู่ตกเป็นจำเลยในคดี นายศุภชัย โพธิ์สุ หรือครูแก้ว อดีต ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และอดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องฐานความผิดหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา กรณีมีการออกมาร่วมกับเจ๊ช่อ แถลงข่าว เมื่อปลายปี 2565 ที่ผ่านมา
โดยกล่าวหาว่าคนสนิทครูแก้ว เรียกรับเงินวิ่งเต้นรับงานโครงการรัฐบาล เป็นเงินกว่า 25 ล้านบาท ทำให้นายศุภชัยหรือครูแก้วเสื่อมเสียชื่อเสียง จึงฟ้องเอาผิดทางอาญา รวมถึงฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหายประมาณ 30 ล้านบาท โดยศาลฯนัดสืบพยานฝ่ายจำเลย
มีรายงานว่าเจ้ช่อจำเลยที่ 1 โยนหินถามทางขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางโจทย์ แต่ยังไม่มีการนัดเจรจากัน ทั้งนี้ฝ่ายโจทก์และจำเลย หลังมีคดีฟ้องร้องในศาล ยังไม่เคยประจันหน้ากันเลย
โดยในช่วงเวลาประมาณ 09.00 น. ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมทีมงานติดตาม 2-3 คน เดินทางด้วยเครื่องบินโดยสาร เพื่อมาศาลจังหวัดนครพนม มีรถยนต์เก๋งสีบรอนซ์จอดรอรับ แต่ไม่มีใครยืนยันว่ามีเจ้ช่อเดินทางมาด้วย มีทัพนักข่าวจำนวนมากไปดักรอ แต่ก็ไม่สามารถเข้าใกล้ทนายคนดังได้ และเดินขึ้นไปบนชั้นสองของศาลจังหวัดนครพนม ทั้งนี้ไม่อนุญาตให้บันทึกภาพและเสียง
ในขณะที่ทนายตั้มได้ออกมาบอกกับสื่อว่า ให้ไปรอที่สนามหญ้าด้านหน้าศาล หลังเสร็จการไต่สวนจะมาให้สัมภาษณ์ จนกระทั่งเวลาผ่านไปกว่า 3 ชั่วโมง ถึงเวลาประมาณ 13.30 น. ทัพสื่อเห็นว่าเงียบผิดปกติ และสอบถามเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ทราบว่าทนายตั้มได้ชิ่งหลบลงจากศาล โดยไม่ทราบว่าออกทางประตูด้านไหน เชื่อว่าสับขาหลอกเปลี่ยนรถนั่ง เพื่อแอบขึ้นรถยนต์เก๋งอีกคัน โดยออกไปทางด้านหลังศาลจังหวัดนครพนม เพื่อเลี่ยงการให้สัมภาษณ์สื่อ ทั้งที่มีการนัดหมายไว้แล้ว
นอกจากนี้ทางทีมผู้สื่อข่าว พยายามติดต่อสอบถามทางโทรศัพท์ แต่ถูกตัดสาย ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า เมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2566 ทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด อายุ 43 ปี พร้อมด้วย น.ส.ช่อฉัตร โตชูวงศ์ อายุ 56 ปี เจ้าของบริษัทรับผลิต-จำหน่ายน้ำยางพารารายใหญ่ เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครพนม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหาในคดีอาญาที่ 1425/2565 ฐานความผิดร่วมกันหมิ่นประมาท โดยการโฆษณา โดยมีผู้กล่าวหา จำนวน 3 คน คือ 1.นายศุภชัย โพธิ์สุ อดีต ส.ส.นครพนม เขต 1 และ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร 2.ดร.ศุภพานี โพธิ์สุ นายก อบจ.นครพนม และ 3.นายธนบวร สิริคุณากรกุล อดีตเลขานุการครูแก้ว เป็นผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลทั้งสอง
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 ทนายตั้มและ น.ส.ช่อฉัตร ได้จัดให้มีการแถลงข่าว โดยการให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว กล่าวหาว่าครูแก้วและนายก อบจ.นครพนม รวมถึงอดีตเลขาฯ ร่วมกันรับเงิน ซึ่งเนื้อความที่ทนายตั้มและ น.ส.ช่อฉัตร ได้ให้สัมภาษณ์ เป็นการใส่ความให้สังคม ดูหมิ่นเกลียดชังบุคคลทั้ง 3 คน จึงแจ้งความดำเนินคดี ซึ่งทนายตั้มและ น.ส.ช่อฉัตรได้ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา หลังจากนั้นทนายตั้มพยายามขอโอนคดีจาก สภ.เมืองนครพนม ไปยังส่วนกลาง อ้างว่าเป็นการยากลำบากในการเดินทาง แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับให้โอนคดีไป ทั้งสองจึงต้องมาขึ้นศาลจังหวัดนครพนมดังกล่าว