นรข. ยึดยาบ้า 4.5 แสนเม็ดริมโขง เร่งแกะรอยรองเท้าแตะ ล่ากองทัพมด
นรข. ยึดยาเสพติดบิ๊กล็อตริมแม่น้ำโขง พบคนร้ายทิ้งรองเท้าแตะเอาไว้ 2 คู่ ก่อนวิ่งหลบหนีไปเจ้าหน้าที่เร่งเช็กดีเอ็นเอ ไล่ล่า
31 ต.ค. 2567 ที่ ห้องประชุมศรีประดู่ อาคารอเนกประสงค์ กองบัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (บช.นรข.) นางรณิดา เหลืองฐิติสกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม รักษาราชการแทน ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี ณรงค์ เอมดี ผบ.นรข. นาวาเอก แมนรัตน์ บุญสวัสดิ์ ผบ.นรข.เขตนครพนม นาวาโท จักรกฤษ วังกรานต์ หัวหน้าสถานีเรือบ้านแพง นรข.เขตนครพนม ร่วมกับ เจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคง แถลงการณ์ตรวจยึดยาบ้า จำนวน 452,000 เม็ด พร้อมของกลางถือเป็นหลักฐานสำคัญคือรองเท้าแตะ จำนวน 2 คู่ ที่ผู้ต้องสงสัยถอดทิ้งในที่เกิดเหตุ บริเวณริมแม่น้ำโขง บ้านนาขาท่า ต.พะทาย อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
ส่วนผู้กระทำผิด อาศัยความชำนาญวิ่งหลบหนีไป สืบเนื่องจากปัจจุบัน พบว่า พื้นที่ชายแดนบริเวณ จ.นครพนม มีกองทัพมดลักลอบขนส่งยาเสพติดมาจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยการใช้เรือประมงหาปลา รับจ้างลำเลียงเข้ามาพักริมแม่น้ำโขง ฝั่งประเทศไทยมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อรอจังหวะเหมาะ ขนส่งต่อไปยังพื้นที่ชั้นใน จึงบูรณาการหน่วยงานความมั่นคง ระดมกำลังออกลาดตระเวนไม่ขาดระยะ ทั้งประชุมวางแผนร่วมกันอยู่เนืองๆ รวมทั้งได้มวลชนเป็นประชาชนในพื้นที่ หันมาให้ความร่วมมือเพิ่มมากขึ้น
กระทั่งได้รับแจ้งว่า ขบวนการกองทัพมด เตรียมใช้เรือหางยาวหาปลาขนยาบ้าข้ามลำโขงมาฝั่งไทย จึงจัดชุดลาดตระเวนจนพลบค่ำ มีเรือหาปลาแล่นเข้ามาเทียบท่า ไม่นานมีชาย 2 คนเดินมายังเรือช่วยกันแบกกระสอบปุ๋ยขึ้นจากเรือ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตนขอตรวจค้น ผู้ต้องสงสัยทิ้งกระสอบวิ่งหลบหนี ตรวจสอบเป็นยาบ้าจำนวน 226 มัดๆละ 2,000 เม็ด รวมจำนวนเป็นยาบ้า 452,000 เม็ด จึงได้บันทึกไว้เป็นหลักฐาน พร้อมนำของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย
นอกจากนี้ในที่เกิดเหตุ มีหลักฐานคือรองเท้าแตะหูคีบ 2 คู่ ที่คนร้ายถอดทิ้งไว้เพื่อให้วิ่งหลบหนีได้คล่อง จึงนำส่งกองพิสูจน์หลักฐานนครพนมตรวจดีเอ็นเอ ขยายผลติดตามจับกุมคนกระทำผิดมาดำเนินคดี ทั้งนี้พื้นที่ชายแดนนครพนม พบว่ายาบ้ามีราคาต่ำ ขายประมาณ 3 เม็ด 100 บาท ทำให้มีออเดอร์จากไทย สั่งให้ลักลอบนำเข้ามากขึ้น
นอกจากนี้ มีข้อมูลจากหน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติด สารตั้งตัน และเคมีภัณฑ์ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (นบ.ยส.24) ว่า ในรอบ 1 เดือนของไตรมาสแรก เจ้าหน้าที่สามารถตรวจยึดและจับกุม ยาบ้า 7.7 ล้านเม็ด ยาไอซ์ 644 กิโลกรัม เฮโรอีน 6.9 กิโลกรัม ยาอี 6 กิโลกรัม และยาเคตามีน 2 กิโลกรัม ถือเป็นการร่วมมือจากทุกฝ่าย จึงตรวจสกัดยาเสพติดได้มากขึ้น เมื่อเปรียบเทียบในปีที่ผ่านมา เนื่องจากมีประชาชนเป็นผู้ชี้เบาะแสมากขึ้นนั่นเอง