เปิดสังกัด 9 ตำรวจ แก๊งรีด 300 ล้าน ไม่ใช่แค่ ตำรวจไซเบอร์
เปิดต้นสังกัดของ 9 ตำรวจ แก๊งกรรโชกทรัพย์ 300 ล้าน ยัดข้อหาปลอมพาสปอร์ต ล่าสุดพบว่าไม่ใช่แค่ตำรวจไซเบอร์ แต่มีหน่วยอื่นด้วย
กลายเป็นคดีใหญ่ ที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำลังเร่งกวาดล้างตำรวจนอกรีต ให้สิ้นซาก เพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชนอีกคดี
กรณีการจับกุม ตำรวจ 9 นาย ยศ พ.ต.ท. ถึง จ.ส.ต. ดำเนินคดีกรรโชกทรัพย์ เรียกรับเงิน จาก นายไซ สัญชาติวานูอาตูและจีน โดยร่วมกับล่ามแปลภาษาจีน สามีล่าม และพลเรือน รวม 3 คน รวมมีผู้ร่วมขบวนการ 12 คน
ทั้งหมด นำหมายค้น เข้าตรวจค้นในบ้านพัก ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ โดยอ้างว่า มีผู้ต้องหาชาวฟิลิปปินส์ จำนวน 4 ราย โดย 1 ใน 4 ราย นั้น ให้การซัดทอดว่า นายไซ มีส่วนเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และ ปลอมหนังสือเดินทาง
แม้ว่านายไซ จะปฏิเสธ แต่แก๊งตำรวจ มีการกรรโชกทรัพย์ หรือ ตบทรัพย์เรียกรับเงิน 300 ล้านบาท ต่อมามีการเจรจาต่อรองจนเหลือ 5 ล้านบาท โดยนายไซ โอนไปให้เป็นเงินสกุลดิจิทัล USDT เหตุเกิดเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา
จากนั้น วันที่ 17 ต.ค. 2567 น.ส.ทราย ล่ามซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ต้องหา ได้กรรโชกทรัพย์ นายไซ อีกครั้ง โดยแลกกับการเปิดเผยชื่อตำรวจชุดจับกุม เป็นเงิน 700,000 บาท
ต่อมานายไซ เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับกลุ่มตำรวจที่ก่อเหตุกรรโชกทรัพย์ เรียกรับเงิน ที่ สน.ทุ่งสองห้อง เนื่องจากเป็นท้องที่รับผิดชอบ เขตที่ตั้งของตำรวจไซเบอร์ หรือ สอท. ศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบล่าสุด พบว่า 9 ตำรวจ มาจากหลายหน่วย ไม่ใช่แค่ ตำรวจไซเบอร์ หรือ สอท.เท่านั้น
เปิดต้นสังกัด 9 ตำรวจที่ถูกดำเนินคดี มาจากหน่วยไหนบ้าง ?
ถูกจับกุม 6 นาย
- พ.ต.ท.ชนะชัย สังกัด สภ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา
- ร.ต.อ.อำนวย สังกัด สน.สุทธิสาร
- ด.ต.ชยพล สังกัด กก.1 บก.ทท.1
- ด.ต.มนัสวี สังกัด กก.1 บก.ทท.1
- ด.ต.พรเทพ สังกัด กก.2 บก.ปคบ.
- ด.ต.สยาม สังกัด กก.สส.ภ.จว.สระบุรี
มอบตัว 3 นาย ทั้งหมด สังกัด กก.1บก.สอท.1
- ร.ต.อ.ธนกฤต
- ด.ต.สุพรรณ
- จ.ส.ต.กิตติภูมิ
ส่วนพลเรือน 3 คน ประกอบด้วย
- นายธวุท (จับกุมแล้ว)
- น.ส.อภัสรา หรือ ทราย ทำหน้าที่ล่าม (หลบหนี)
- นายหยุน ต้าเหลียง (หลบหนี)
ทั้งนี้ คดีดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้สั่งกำชับให้ พล.ต.ท. ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ดำเนินการเร่งรัดสืบสวนจับกุมตัวมาดำเนินคดี และให้ต้นสังกัดดำเนินการทั้งวินัย อาญา อย่างเด็ดขาด โดยให้สืบสวนขยายผลผู้มีส่วนในการกระทำผิด และต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด โดยให้รายงานผลให้ทราบโดยเร็ว เป็นตำรวจทำผิดต้องรับโทษ จะไม่มีละเว้น
ขณะที่ พล.ต.ต.จิระวัฒน์ พยุงธรรม รรท.ผบช.สอท. ลงนามในคำสั่ง 209/2567 เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2567 เรื่องให้ข้าราชการตำรวจไปช่วยราชการ ใจความว่ากองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 ได้มีคำสั่งที่ 96/2567 ลงวันที่ 18 ต.ค. 2567 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง นั้นฉะนั้น เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการตรวจสอบข้อเท็จจริงและมิให้เข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
จึงให้ ร.ต.อ.ธนกฤต รองสว.กก.1บก.สอท.1 , ด.ต.สุพรรณ , จ.ส.ต.กิตติภูมิ ผบ.หมู่ กก.1 บก.สอท.1 ไปช่วยราชการที่ ศปก.บช.สอท. โดยให้ขาดจากตำแหน่ง
นอกจากนี้ พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผบก.สอท.1 ออกคำสั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยมอบให พ.ต.อ.ทำนุรัฐ คงมั่น รองผบก.สอท.1 เป็นประธานกรรมการ โดยให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จใน 30 วัน