"เจ๊อ้อย" ใจสลาย ปมถูกโกง 71 ล้านบาท เผย เคยช่วยเหลือเหมือนครอบครัว
"เจ๊อ้อย" ใจสลาย ปมฉ้อโกง 71 ล้านบาท เผย เคยช่วยเหลือเหมือนครอบครัว ลั่น จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มียอมความ
1 พ.ย. 2567 น.ส.จตุพร อุบลเลิศหรือเจ๊อ้อย เข้าให้ปากคำเพิ่มเติม เป็นวันที่ 2 กรณีถูกทนายดังฉ้อโกงเงินจำนวน 71 ล้านบาท รวม 2 วัน เป็นการให้ข้อมูลนานกว่า 20 ชั่วโมง
ภายหลังการสอบปากคำ เจ๊อ้อย ได้ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนครั้งแรก ระบุว่า ขอบคุณสื่อที่ให้ความสนใจกับข่าว โดยรายละเอียดทุกอย่างได้ให้กับทางตำรวจไปหมดแล้ว ซึ่งตนไม่อยากให้สัมภาษณ์มาก เพราะจะเสียรูปคดี
โดยยืนยันว่า เงิน 71 ล้าน ที่ให้ไปไม่ได้ให้โดยเสน่หา หลังจากที่เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วทำให้สบายใจขึ้น และ รู้สึกดีมาก ไม่มีความกังวลใจใดๆ
และที่ผ่านมาทนายคนดังก็ไม่เคยติดต่อมาเลย ซึ่งตนเคยให้โอกาสติดต่อมาแล้วเป็นเวลาหลายเดือน แต่ทนายคนดังกล่าวไม่ติดต่อมาเอง
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า รู้สึกผิดหวังหรือไม่ เจ๊อ้อย กล่าวว่า ใจสลาย เมื่อก่อนเคยช่วยเหลืออะไรทุกอย่างไม่ว่าจะเรื่องเดินทางท่องเที่ยว เสมือนคนในครอบครัว
และหากว่าทนายดัง ติดต่อมาเจรจาจะทำอย่างไร เจ๊อ้อย ตอบทันทีว่าไม่เจรจา ขอให้ศาลตัดสิน
ส่วนกรณีที่ใช้เวลาในการสอบปากคำรวม 2 วัน นานกว่า 20 ชั่วโมงนั้น จำเป็นต้องให้ข้อมูล เพราะเป็นเรื่องละเอียดอ่อน และยืนยันอีกครั้งจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดไม่มียอมความ
ด้าน ทนายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความ เจ๊อ้อย เปิดเผยว่า สำหรับสอบปากคำวันนี้ ไม่ได้แตกต่างจากเมื่อวาน แต่มีข้อมูลและข้อเท็จจริงเพิ่มขึ้น จึงนำมามอบให้กับตำรวจ ซึ่งก็อยู่ในเนื้อหาเดิม ตอนนี้สอบปากคำไปได้ประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์แล้ว
ตนยังมีข้อมูลอีกหลายอย่าง แต่เกรงใจพนักงานสอบสวน จึงขอหยุดเอาไว้ตรงนี้ก่อน แล้วจะมาให้ข้อมูลอีกรอบ ส่วนรายละเอียดการสอบปากคำ ไม่สามารถให้ข้อมูลได้เนื่องจากอยู่ในสำนวน สำหรับประเด็นที่สอบในวันนี้ เป็นเรื่องเงินที่ให้เพิ่มเติมไปจากจำนวน 71 ล้าน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ ทนายดัง จะไม่คืนเงิน 71 ล้าน แน่นอนนั้น ทนายสมชาติ กล่าวว่า ก็มองว่าเป็นเรื่องที่อีกฝ่ายจะต่อสู้ แต่เรายังยืนยันข้อเท็จของเรา
โดย เจ๊อ้อย ได้กำชับให้ส่งข้อมูลให้กับตำรวจทุกเรื่อง และดำเนินคดีให้ถึงที่สุด จนมีคำพิพากษา นอกจากทนายดังแล้ว ก็มีบุคคลอื่นรับเงินไปเช่นเดัยวกัน จะมีการดำเนินคดีหรือไม่นั้น ขอไม่พูดพาดพิง แต่จะดำเนินคดีกับบุคคชที่รับเงินไปทั้งหมด
ส่วนกรณีรถเบนซ์หรูคันสีดำ เป็นของเจ๊อ้อย และเจ๊อ้อยเป็นคนใช้งาน เพียงแต่มีการหยิบยืมในบางครั้งเท่านั้น และที่มีคนเห็นว่าอีกฝ่ายนำรถคันดังกล่าว ไปให้ชาวต่างชาติใช้นั้น ตนก็ได้ยินมาเช่นเดียวกัน
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ากังวลหรือไม่ที่มีกระแสข่าวว่า ทนายดัง พาครอบครัวไปทำวีซ่า ทนายสมชาติ เปิดเผยว่า ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ไม่กังวัล
เนื่องจาก อยู่ที่ไหนก็ไม่กังวล เพราะมั่นใจในการทำงานของตำรวจ เชื่อว่าตำรวจจะให้ความยุติธรรมทั้งสองฝ่ายหลังจากนี้ยังไม่ทราบว่าจะต้องเข้ามาให้ข้อมูลกับตำรวจอีกวันไหน แต่จะต้องมาแน่นอน เนื่องจากว่าวันนี้ ยังสอบปากคำไม่ครบถ้วน