โจรเหิมต่อสู้ตำรวจขณะเข้าจับกุม เจ้าหน้าที่ต้องตัดสินใจยิงสวน
โจรเหิมปีนเข้าโรงงานลักตัดสายไฟ ตำรวจสายตรวจรับแจ้งเหตุเข้าจับกุม แต่กลับจ้วงใส่ ต่อสู้ขัดขืนการจับกุม ส.ต.ท. จึงตัดสินใจซัลโวสวนกลับไป 1 นัด ได้รับบาดเจ็บ แจ้ง 4 ข้อหาหนัก
2 พ.ย. 2567 เวลา 11.30 น. ร.ต.อ.เดชชาติ สารุณา พนักงานสอบสวน สภ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ เปิดเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 01.30 น. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ โดย ส.ต.อ.อภิวัฒน์ ประทุมตรี และ ส.ต.ท.พัชรพงศ์ บุญต่อ ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบ สภ.พระสมุทรเจดีย์ ได้รับแจ้งจาก นายชุมพล เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย (รปภ.) ของ บริษัท แอลฟ่า โปรเซสซิ่งโรงนอก เลขที่ 329/1 ม.1 ซอยบัญชา ต.ปากคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ว่า มีคนร้ายเข้ามาลักตัดสายไฟภายในโรงงาน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ จึงเข้าตรวจสอบและแยกย้ายกันตรวจหา
โดยเข้าไปตรวจสอบบริเวณหน้าห้องเครื่องจักร และ ได้ยินเสียงมีคนอยู่ด้านใน จึงแสดงเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดย คนร้ายทราบชื่อภายหลัง นายคมศักดิ์ อายุ 48 ปี พักอยู่ หมู่ที่ 1 ต.ในคลองบางปลากด อ.พระสมุทรเจดีย์ จ.สมุทรปราการ ได้ขัดขืนการจับกุม เปิดประตูและใช้อาวุธมีดปลายแหลม ยาวประมาณ 1 ฟุต พุ่งแทง ส.ต.ท.พัชรพงศ์ แต่ ส.ต.ท.พัชรพงศ์ ได้เสียหลักล้มติดผนังกำแพง ห่างจากคนร้าย ประมาณ 1.5 เมตร และไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ จึงชักอาวุธปืนประจำกาย ยิงไปที่แขนข้างขวาคนร้าย ที่ถืออาวุธมีดในมือ ได้รับบาดเจ็บ พร้อมทั้งควบคุมตัวคนร้ายไว้ และแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัย นำตัวคนร้ายส่งรักษาตัวโรงพยาบาลใกล้เคียง
จากการตรวจสอบ ภายในห้องพบสายไฟ ที่คนร้ายตัดไว้ และอุปกรณ์ที่ใช้ในการลักตัดสายไฟฟ้าหลายรายการ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ก่อนนำส่งพนักงานสอบสวน จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า นายคมศักดิ์ ผู้ต้องหา เคยมีคดีในข้อหาลักทรัพย์และเพิ่งพ้นโทษออกมาไม่นาน และมาก่อเหตุซ้ำ จนกระทั่งมาต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนได้รับบาดเจ็บ
เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตั้ง 4 ข้อหาหนักคือ ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พกพาอาวุธมีดไปในเมืองหรือหมู่บ้านโดยไม่มีเหตุอันควร ต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานฯ และพยายามฆ่าเจ้าพนักงานฯ ก่อนส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
พ.ต.อ.ทศพล ทองใบ ผกก.สภ.พระสมุทรเจดีย์ กล่าวว่า ในฐานะผู้บังคับบัญชาได้รับรายงานจากสายตรวจว่า มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการยิงเพื่อป้องกันตัว ในกรณีที่เข้าไปตรวจสอบคนร้าย เข้าไปลักทรัพย์ ในเบื้องต้นทราบว่า มีการแจ้งข้อกล่าวหากับคนร้ายที่เข้าไปลักทรัพย์ และเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบพบ คือลักทรัพย์ในเวลากลางคืน พกพาอาวุธมีดและต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงาน พยายามฆ่าเจ้าพนักงาน เนื่องจากคนร้ายใช้อาวุธระยะกระชั้นชิด เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องใช้อาวุธปืนยิงเพื่อป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติตามยุทธวิธีอย่างครบถ้วน และ 100% เนื่องจากว่าการเข้าไป โดยเข้าไปเป็นคู่บัดดี้มีการคุ้มกัน ในขณะที่คนร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แสดงตัว และมีการแต่งกายชุดตำรวจ พร้อมกับแสดงตัวแล้ว แต่คนร้ายแทนที่จะหยุด แต่คนร้ายกลับใช้อาวุธมีดไล่แทงเจ้าหน้าที่ตำรวจระยะประชิดในรัศมี 1 เมตร ถือว่าเป็นอันตรายแก่ชีวิต เจ้าหน้าที่จำเป็นต้องมีการใช้อาวุธ ในการจับคนร้าย และป้องกันชีวิตของเจ้าหน้าที่เอง
คนร้ายถูกยิงเข้าที่แขนขวา 1 นัด เนื่องจากในระยะใกล้เจ้าหน้าที่ก็มีความแม่นยำในการใช้อาวุธ ที่ระบุเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยไม่ได้หวังที่จะเอาชีวิตคนร้ายถึงแก่ชีวิต เพียงแค่ หยุดพฤติการณ์ของคนร้าย ซึ่งผู้บังคับการภูธรจังหวัดสมุทรปราการ ได้เน้นย้ำและกำชับ ยุทธวิธีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจทั้ง 2 นายนี้ ได้ปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด มีความพร้อมในการปฏิบัติมีการระมัดระวังป้องกัน คุ้มกันเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ รองผู้บัญชาการภูธรภาค 1 ยังได้เน้นย้ำกำชับยุทธวิธี ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจมีความพร้อมในการปฏิบัติหน้าที่ ทั้งนี้ต้องขอขอบพระคุณท่านที่เป็นห่วง กรณีนี้ถือว่าเป็นตัวอย่างที่ทำให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเอง มีความพร้อมในการปฏิบัติเพื่อดูแลคุ้มครองทรัพย์สินชีวิตของประชาชน