ข่าว

ด่วน! ดีเอสไอ แจ้ง 2 ข้อหา 18 บอส “ดิไอคอน กรุ๊ป” ไขปมทำไม 3 บอสดารา โดนด้วย ?

ด่วน! ดีเอสไอ แจ้ง 2 ข้อหา 18 บอส “ดิไอคอน กรุ๊ป” ไขปมทำไม 3 บอสดารา โดนด้วย ?

04 พ.ย. 2567

ด่วน! ดีเอสไอ แจ้ง 2 ข้อหา 18 บอส “ดิไอคอน กรุ๊ป” ไขปมทำไม 3 บอสดารา โดนด้วย? เร่งสรุปสำนวนส่งให้อัยการในระยะเวลาควบคุมตัว

4 พ.ย. 2567 จากกรณีเมื่อเวลา 14.00 น. ที่ผ่านมา ณ ห้องประชุม ชั้น 2 อาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ ได้มีการประชุมของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 115/2567 และคดีพิเศษที่ 119/2567 กรณี การดำเนินคดีอาญากับบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป จำกัด กับพวก นำโดย พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีดีเอสไอ และเจ้าหน้าที่คดีพิเศษหลายนาย หารือสาระสำคัญในคดี ก่อนมีมติร่วมกันในที่ประชุมแจ้งข้อหา พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 หรือกฎหมายแชร์ลูกโซ่ กับผู้ต้องหาเพิ่มเติม นั้น

 

ด่วน! ดีเอสไอ แจ้ง 2 ข้อหา 18 บอส “ดิไอคอน กรุ๊ป” ไขปมทำไม 3 บอสดารา โดนด้วย ?

 

ต่อมาเวลา 16.40 น. พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ รักษาราชการแทนอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ เปิดเผยว่า จากการประชุมร่วมกันของคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 119/2567 ได้มีมติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบ แจ้งข้อกล่าวหาต่อบุคคล 18 ราย และนิติบุคคล 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม) ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4,5 และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19,20

 

โดยจะมีการเเจ้งข้อกล่าวหาภายในสัปดาห์นี้ ต่อเนื่องสัปดาห์หน้า พรุ่งนี้อาจยังไม่ทัน อีกทั้งจะต้องรอความพร้อมของผู้ต้องหา และทนายความของแต่ละรายด้วย นอกจากนี้ ยังได้มีการพิจารณาจัดตั้งศูนย์ เพื่อประกอบกำลังในการที่จะปฏิบัติงานในคดีนี้ การแบ่งมอบหมายงานให้เกิดประสิทธิภาพ

 

พ.ต.ต.ยุทธนา เผยต่อว่า คดีนี้ก็อาจจะมีการตั้งเจ้าหน้าที่ จากหน่วยงานอื่นมาร่วมสอบสวนด้วย  ตามมาตรา 33 และจะมีการตั้งที่ปรึกษาคดีพิเศษ ตามมาตรา 30 ซึ่งจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ เพื่อมาดูเรื่องงบดุลบัญชีของบริษัทฯ รวมทั้งตั้งพนักงานอัยการ มาเป็นที่ปรึกษาในคดีนี้ด้วย

 

ด่วน! ดีเอสไอ แจ้ง 2 ข้อหา 18 บอส “ดิไอคอน กรุ๊ป” ไขปมทำไม 3 บอสดารา โดนด้วย ?

 

สำหรับพฤติการณ์ที่ทำให้คณะพนักงานสอบสวน มีมติแจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่แก่ผู้ต้องหาทั้ง 18 รายนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา เผยว่า ในขั้นนี้เราได้รวบรวมพยานหลักฐานต่อเนื่อง จากที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ได้ส่งเรื่องมา ดีเอสไอได้มีการสอบพยานเพิ่มเติม จนฟังได้ว่ามีหลักฐานตามสมควรแล้วว่าผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย พร้อม 1 นิติบุคคล เข้าข่ายกระทำความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 ส่วนรายละเอียดที่เป็นเรื่องแต่ละบุคคล ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน

 

เมื่อถามว่า 3 บอสดารา ไม่ได้มีส่วนในโครงสร้างของกรรมการบริษัทฯ เหตุใดจึงถูกแจ้งข้อหาด้วยนั้น พ.ต.ต.ยุทธนา แจงว่า ทุกคนอาจจะมีหน้าที่ไม่เหมือนกัน แต่ว่าในการพิจารณา จะดูว่าแต่ละคนนั้น ก็มีการแบ่งหน้าที่กันทำ คนนึงอาจมีหน้าที่หนึ่ง ขณะที่คนหนึ่งอาจมีอีกหน้าที่หนึ่ง แต่ทุกคนล้วนมีจุดประสงค์เดียวกัน จนมีความผิดเข้าองค์ประกอบ

 

 

ทั้งนี้ สำหรับองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้เข้าข่ายความผิดแชร์ลูกโซ่นั้น เนื่องจากว่าทาง สคบ. ได้มีการยืนยันแล้วว่าการกระทำนั้น เป็นความผิดในเรื่องขายตรง ดังนั้น เมื่อเป็นความผิดแล้ว การกระทำจึงเข้าองค์ประกอบตามมาตรา 4 ที่ว่า ไม่สามารถประกอบธุรกิจโดยชอบด้วยกฎหมาย ในการที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนได้ พร้อมยืนยันว่าในชั้นนี้ เราพบพยานหลักฐานตามสมควร ส่วนรายละเอียดจะขอให้มีการสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อน

 

พ.ต.ต.ยุทธนา แจงอีกว่า เมื่อดีเอสไอจะดำเนินการแจ้งข้อหา ทางผู้ต้องหายังคงมีสิทธิ์ในการชี้แจงแก้ข้อกล่าวหา เป็นสิทธิตามกฎหมายที่ผู้ต้องหาจะให้การอย่างไรก็ได้ เพื่อให้ข้อเท็จจริงอันเป็นประโยชน์ โดยดีเอสไอจะต้องเข้าไปแจ้งข้อหาแก่ผู้ต้องหาทั้ง 18 ราย ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ  และทัณฑสถานหญิงกลาง

 

เมื่อถามว่าจะเเจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ และ พ.ร.บ.ขายตรงฯ นั้น จะมีการสรุปสำนวนส่งให้อัยการในช่วงกรอบเวลาใด ประมาณเดือน พ.ย. หรือต้นเดือน ธ.ค. พ.ต.ต.ยุทธนา แจงว่า เราจะพยายามดำเนินการให้ทันในระยะเวลาการควบคุม ส่วนกลุ่มผู้ต้องหาล็อตที่ 2 นั้น  เราอยากให้รวบรวมในชุดแรกให้เรียบร้อยเสร็จสิ้นไปก่อน ขอให้การสอบสวนในชุดแรกเสร็จสิ้นก่อน เพราะชุดแรกนี้มีระยะเวลาการควบคุม ส่วนคดีการฟอกเงิน ทางอาญา หรือคดีพิเศษที่ 115/2567 เจ้าหน้าที่ได้มีการรวบรวมพยานหลักฐานเส้นทางการเงิน ของบอส 18 ราย และในส่วนของบริษัทฯ ด้วย ว่ามีการจำหน่าย จ่าย โอน ไปที่ใดบ้าง เรายังดำเนินการต่อเนื่อง

 

ส่วนการแจ้งข้อหาฟอกเงิน จะต้องพิจารณาเป็นรายกรรม ดูรายละเอียดแต่ละเส้นทางเงิน อาจใช้เวลาเล็กน้อย ทั้งนี้ ข้อหาฉ้อโกงประชาชนที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งผู้ต้องหาไว้ มันเข้ามูลฐานของ พ.ร.บ.การป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินฯ อยู่แล้ว เราจึงตั้งพนักงานสืบสวนแสวงหาพยานหลักฐานเบื้องต้นก่อน ที่มีการไปอายัดที่ดินก่อนหน้านี้ ซึ่งตรงนี้ดีเอสไอได้ทยอยส่งให้กับสำนักงาน ปปง. เรียบร้อยแล้ว

 

เมื่อถามถึงกรณีเส้นทางการเงิน ระหว่างนายวรัตน์พล หรือ บอสพอล และมารดาของนักการเมืองท่านหนึ่ง จะต้องรอรายงานการทำธุรกรรมทางการเงิน จากธนาคารหรือไม่ พ.ต.ต.ยุทธนา ยืนยันว่าใช่ แต่ได้มีการรวบรวมมาส่วนหนึ่งแล้ว ส่วนจะมีการออกหมายเรียกพยานให้บุคคลใดเข้าให้ข้อมูลหรือไม่นั้น ยืนยันว่าต้องมีการเรียกเข้ามา แต่ให้รวบรวมพยานหลักฐานก่อน ทั้งนี้ หากแม่ของนักการเมืองเกี่ยวข้องจริง ก็ต้องเชิญมาให้ข้อมูลทั้งหมด

 

พ.ต.ต.ยุทธนา ยังกล่าวถึงกรณีพยานของทนายวิฑูรย์ จำนวน 20 ราย ที่เข้ามายื่นเรื่องพบดีเอสไอ ว่า ตรงนี้เราได้แจ้งให้ทางทนายได้ทำเป็นบัญชียื่นมา เพราะตรงนี้เป็นการแก้ข้อกล่าวหา เป็นพยานฝ่ายผู้ต้องหา ซึ่งเมื่อทำบัญชีมาจะได้นัดหมายสอบสวนกันที่ดีเอสไอ

 

ส่วนกรณีนี้ทางทนายยืนยันว่ามีพยานกว่า 2,400 ราย หรือ มากถึง 10,000 ราย ดีเอสไอย้ำว่าจะรับฟังและพิจารณาก่อนว่า เป็นพยานฝ่ายผู้ต้องหา และถ้าดูแล้วเป็นประเด็นที่เราได้ข้อเท็จจริงเรื่องนั้นมาแล้ว คงไม่จำเป็นต้องสอบหมด ถ้าสอบหมดก็เกินระยะเวลาควบคุม และเกิดความเสียหายต่อรูปคดี อำนาจการพิจารณาเป็นของพนักงานสอบสวน แต่ก็จะสอบและให้ความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม จะไม่มีการตัดพยาน แต่เราต้องพิจารณา และเราทำตามกฎหมาย ไม่มีความกังวลใจ

 

ขณะที่ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และในฐานะโฆษกดีเอสไอ ระบุว่า เมื่อมีการแจ้งข้อกล่าวหาแชร์ลูกโซ่ จะทำให้ขยายเวลาการฝากขังเป็น 84 วัน จาก 48 วัน ดังนั้น จะต้องดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาให้เรียบร้อย ก่อนครบกำหนดฝากขัง 4 ผัด และการที่ดีเอสไอจะเข้าไปแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ต้องหาภายในเรือนจำนั้น จะต้องมีการนัดหมายทนายความ เพื่อให้เป็นการพบพร้อมหน้ากันภายในห้องพนักงานสอบสวนของเรือนจำฯ ทั้งในส่วนของผู้ต้องขัง ทนายความของผู้ต้องขัง และพนักงานสอบสวน เพื่อที่จะแจ้งข้อกล่าวหาพร้อมพฤติการณ์ทางคดีและแจ้งสิทธิ์ของผู้ต้องหาว่า สามารถชี้แจงแก้ข้อกล่าวหาได้ 2 ช่องทาง คือ แก้ข้อกล่าวหาด้วยวาจา และแก้ข้อกล่าวหาเป็นลายลักษณ์อักษร