ระทึก บ้านไม้อายุ 55 ปี ถล่มทับหญิงวัย 64 เชื่อ รอดเพราะสิ่งที่มือกำไว้แน่น
ระทึกกลางดึง บ้านไม้ 2 ชั้น อายุ 55 ปี ถล่มทับ หญิงวัย 64 ปี ถูกหลังคาทับ เล่าเสียงเตือนก่อนบ้านถล่ม เชื่อรอดปลอดภัยได้ เพราะสิ่งที่ไว้ในมือแน่น
6 พ.ย. 2567 เวลา 00.48 น. พ.ต.ท.สุชาติ ช่างทำ สว.สอบสวน สน.วัดพระยาไกร รับแจ้งมีเหตุบ้านทรุดตัว ภายในซอยเจริญกรุง 99 แยกย่อยซอยที่ 10 แล้วภายในที่เกิดเหตุมีผู้หญิงวัย 64 ปี ติดค้างอยู่ภายในซากปรักหักพังของบ้านหลังดังกล่าว จึงรีบรุดจัดกำลังพร้อมประสานอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอุปกรณ์เครื่องตัดถ่าง และอุปกรณ์ส่องแสงสว่างเร่งรัดตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่เกิดเหตุพบที่เกิดเหตุนั้นเป็นลักษณะบ้านไม้สองชั้นได้พังถล่มลงมาแล้วทั้งหลัง และต่อมาจึงทราบว่าบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านหลังหนึ่งในชุมชนบางอุทิศ ซอย เจริญกรุง 99 แยกย่อยซอยที่ 10 ถนน เจริญกรุง แขวง วัดพระยาไกร เขต บางคอแหลม กรุงเทพมหานคร ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวมีรั้วรอบขอบชิด ในเนื้อที่ประมาณ 40 ตารางวา ชุมชนดังกล่าวเป็นซอยแคบรถพยาบาล และรถของอาสาสมัครกู้ภัยไม่สามารถเข้าถึงที่เกิดเหตุได้ อาสาสมัคร และเจ้าหน้าที่พยาบาลต้องนำอุปกรณ์กู้ภัยชนิดต่างๆ รวมทั้งอุปกรณ์ปฐมพยาบาลเดินเท้าเข้าไปเป็นระยะทางกว่า 500 เมตร จึงเข้าไปถึงที่เกิดเหตุได้
เมื่ออาสาสมัครไปถึงก็พบว่าบ้านหลังดังกล่าวซึ่งเป็นลักษณะบ้านไม้สองชั้นได้พังถล่มลงมาทั้งหลังแล้ว และยังได้รับการบอกเล่าของชาวบ้านอีกว่ามีเจ้าของบ้านซึ่งเป็นผู้หญิง อายุ 64 ปี ติดค้างอยู่ด้านในซากปรักหักพังของตัวบ้านหลังดังกล่าว และทราบชื่อผู้ติดค้างภายในต่อมาชื่อนางสาวประคอง บุตรช่วง อายุ 64 ปี เป็นอดีตข้าราชการบำนาญ กระทรวงมหาดไทย ยังไม่ทราบชะตากรรมว่าเป็นอย่างไรบ้าง
อาสาสมัครกู้ภัยจึงเร่งระดมกำลังทำการสำรวจพื้นที่เกิดเหตุโดยรอบจึงได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังออกมาตรงบริเณกลางบ้าน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้าจึงทำการตัดไฟ ก่อนที่หน่วยกู้ภัยจะใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดคานไม้และรื้อหลังคากระเบื้องที่กดทับตัวนางสาว ประคอง ออกอย่างทุลักทุเล ใช้เวลาประมาณ 45 นาที จึงช่วยเหลือนางสาว ประคอง ออกมาได้ โดยได้รับบาดเจ็บแค่หัวไหล่ขวาถลอกเท่านั้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่กู้ชีพจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เพื่อตรวจเช็คร่างกาย
และจากการสอบถาม นาย ปิยะณัฐ ปั้นปรีชา อายุ 31 ปี ชาวบ้านในพื้นที่บอกเล่าว่า ตนได้ยินเสียงดังมาก ตนจึงคิดว่าต้องเกิดเหตุที่บ้านนี้แน่เพราะบ้านที่ลักษณะเอียงอยู่ก่อนแล้ว แต่ตนไม่ได้เห็นตอนถล่ม ได้ยินแต่เสียง บ้านนี้อยู่กัน 2 คน แต่ตอนนี้มีหญิงสูงอายุติดอยู่ภายในตัวบ้าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านใกล้เคียงต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า บ้านที่เกิดเหตุถูกปลวกกินจนทรุดเอียง 45 องศา เจ้าหน้าที่เขตบางคอแหลมเคยมาบอกให้รื้อบ้าน เพราะเกรงจะเป็นอันตรายกับคนในบ้าน แต่ก็ถูกเจ้าของไล่ตะเพิดกลับไป จนกระทั่งมาเกิดเรื่องขึ้นดังกล่าว
จากการสอบถามนางสาว ประคอง บุตรช่วง อายุ 64 ปี เป็นอดีตข้าราชการบำนาญ กระทรวงมหาดไทย เจ้าของบ้านกล่าวว่า บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านแม่ของตน ปกติตนจะอยู่คนเดียว โดยบ้านเริ่มมีอาการเอียงมา 3 วัน สาเหตุน่าจะมาจากฝนตกน้ำท่วมขัง ทำให้เสาบ้านเลื่อนไม่ตรงล๊อคก็อาจจะทำให้บ้านเกิดการทรุดตัวลงมา
ก่อนเกิดเหตุ ตน ได้ยินเสียงดังเปี๊ยะก่อน แล้วก็ถล่มลงมา ในส่วนที่ ตน ติดอยู่ด้านในซากของบ้านเป็นซอกสามเหลี่ยมพอดี ตนก็เลยหลบอยู่ด้านใน แล้ว ตนก็พยายามตะโกนเรียกให้คนมาช่วย ซึ่งก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และจากการตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล ผลออกมาก็ปกติ แต่เป็นห่วงแมว ที่ดูแลอยู่ 10 กว่าตัว ไม่แน่ใจว่าแมวตกใจหนีหายไป หรือติดอยู่ใต้กองไม้ก็ไม่รู้
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเขตบางคอแหลมได้จัดชุดถุงยังชีพ มามอบให้เพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น ส่วนการรื้อถอนเศษซากของบ้านต้องได้รับอณุญาติจากเจ้าของบ้านก่อน ถึงจะดำเนินการรื้อถอนได้