ข่าว

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมรวบ 2 ญี่ปุ่น แก๊งอุ้มรีด ซ้อมเหยื่อข้ามคืน บังคับกินอุนจิ

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมรวบ 2 ญี่ปุ่น แก๊งอุ้มรีด ซ้อมเหยื่อข้ามคืน บังคับกินอุนจิ

06 พ.ย. 2567

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมบุกรวบ 2 ญี่ปุ่น แก๊งอุ้มรีดเงิน ซ้อมเหยื่อข้ามคืน บังคับกินอุนจิ ปากแข็งปฏิเสธ อ้างหอบเงิน 1 พันล้านเยน มาทำธุรกิจ เพราะชอบไทย

6 พ.ย. 2567 ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์  รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า สืบนครบาล โดย  พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.จักราวุธ คล้ายนิล ผกก.วิเคราะห์ข่าวและเครื่องมือพิเศษ บก.สส.บช.น. พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ (สารวัตรแจ๊ะ) สว.กก.สส.3 บก.สส.บช.น. พร้อมกำลัง จับกุม

 

นายนิกิ อายุ 45 ปี และ นายโทมิกิ อายุ 26 ปี ชาวญี่ปุ่น ผู้ต้องหา ร่วมกันกรรโชกทรัพย์ผู้อื่น โดยจับกุมได้ที่ รีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี พร้อม เงินสด 179,000 บาท อุปกรณ์เสพกัญชา 5 รายการ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ไอแพด 2 เครื่อง สมุดเช็ค 2 เล่ม และกระเป๋าเดินทาง 1 ใบ

นาทีจับกุม

 

หลังจาก ผู้เสียหายชาวญี่ปุ่น เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สน.พญาไท และ สน.โชคชัย ว่า ถูกขบวนการเถื่อน 3 คน ร่วมกันอุ้มรีด พาไปเข้าเซฟเฮ้าส์ลับ ก่อนรีดเงิน 300,000 บาท อ้างว่าเป็นค่าดำเนินการวิ่งเต้นทำวีซ่า ที่ด่านปอยเปต แต่ทางผู้เสียหายมีเงินไม่พอ จึงจ่ายเงินไปเพียง 135,000 บาท

 

แต่ กลุ่มผู้ต้องหายังไม่พอใจ พาผู้เสียหายไปบริเวณทุ่งหญ้าทำ ทีข่มขู่จะฆ่าหมกป่า ก่อนจะพาตัวไปกักขังไว้ที่โรงแรมแห่งหนึ่งย่าน ถ.เกษตรนวมินทร์ ลงมือซ้อมผู้เสียหายตลอดคืน ก่อนบังคับให้ผู้เสียหายกินอุจจาระ เพื่อรีดเงินเพิ่ม

 

ระหว่างนั้น ผู้เสียหายอาศัยจังหวะที่กลุ่มผู้ต้องหาเผลอ ติดต่อไปหาเจ้าหน้าที่สถานทูตญี่ปุ่น จนกระทั่ง เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือไว้ได้

สารวัตรแจ๊ะ นำทีมรวบ 2 ญี่ปุ่น แก๊งอุ้มรีด ซ้อมเหยื่อข้ามคืน บังคับกินอุนจิ

 

หลังเกิดเหตุผู้เสียหายได้แจ้งความที่ สน.โชคชัย และ สน.พญาไท (เหตุต่อเนื่อง) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 คือ นายนิกิ  นายโทมิกิ  สัญชาติญี่ปุ่น และ นายเปา (สงวนชื่อและนามสกุล) อายุ 35 ปี สัญชาติไทย

 

นอกจากนี้ สืบสวนพบว่า กลุ่มคนร้ายอีกว่าเคยก่อเหตุชกต่อยคู่กรณีบนโรงพักกลางวันแสกๆ โดยเจ้าหน้าที่จับกุม นายเปา ได้เป็นคนแรก ส่วน 2 ญี่ปุ่นหลบหนี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. จึงนำทีมสืบนครบาลลงพื้นที่ติดตามไล่ล่า

 

2 ผู้ต้องหาชาวญี่ปุ่น

 

โดยสืบทราบว่า นายนิกิ ชอบเสพกัญชา โดยเฉพาะกัญชาสูตร 3king เป็นการผสมกัญชาตัวท็อป 3 ชนิด ต่อมาทราบว่าผู้ต้องหาทั้ง 2 หนีไปกบดาน ที่ห้องพัก ในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ จ.ชลบุรี ตอนแรกเจ้าหน้าที่หาตัวไม่พบ แต่ต่อมาได้กลิ่นกัญชาโชยขึ้นเตะจมูก จึงนำกำลังเข้าจับกุมได้ในห้องติดกัน ซึ่งเมื่อเข้าไปตรวจสอบก็จึงพบคนร้ายทั้ง 2 คน จึงสามารถควบคุมตัวไว้ได้

 

นอกจากนี้ จากการขยายผลจับกุมพบว่า นายนิกิ มีความสนิทสนมกับนายเปา และเคยให้เงินกับนายเปา ไปแล้วหลายร้อยล้านบาท

 

นาทีบุกจับ

 

ชั้นจับกุม นายนิกิ ให้การปฏิเสธ ว่า ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทั้งสิ้น และยืนยันว่าไม่ได้บังคับให้ผู้เสียหายกินอุจจาระ และไม่ได้เป็นผู้ลงมือทำร้ายร่างกาย ที่หลบหนีเพราะทนาย สั่งให้หลบหนี ตนชอบประเทศไทยมาก เพราะตอนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เคยถูกจับเรื่องกัญชามาแล้วกว่า 4 ครั้ง จึงหอบเงิน 1 พันล้านเยน มาที่ตั้งถิ่นฐานอยู่ในประเทศไทย เพราะอยากเสพกัญชา และคนไทยน่ารัก ปัจจุบันทำธุรกิจกัญชา และธุรกิจขนส่งข้ามประเทศ

 

รู้จักกับนายเปาที่ร้านกัญชาแห่งหนึ่ง แล้วตัดสินใจร่วมลงทุนตามคำแนะนำของนายเปา รวมแล้วได้ให้เงินนายเปาไปทั้งหมด 135 ล้านบาท จนตอนนี้เริ่มจะบางอ้อแล้วว่า น่าจะถูกนายเปา หลอกสูบเลือดสูบเนื้อ ปัจจุบันนายเปาเข้าไปอยู่อาศัยในบ้านของตน ละแวกซอยนวลจันทร์ ส่วนตนเองก็หลบหนีคดีไปอยู่ตามรีสอร์ท ในต่างจังหวัด

 

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า การขยายผลพบว่าชาวญี่ปุ่น 2 รายนี้ มาตั้งถิ่นฐานในประเทศไทยแล้วประกอบอาชีพขายกัญชา และยังทำธุรกิจการขนส่งไปยังประเทศต่างประเทศ มีเงินหมุนเวียนในขบวนการหลายร้อยล้านบาท ทำให้ต้องตั้งข้อสังเกตไปถึงธุรกิจที่ผิดกฎหมาย หลังจากนี้เราจะมีการขยายผลโดยละเอียด ทั้งนี้หลังจับกุมขยายผล ได้นำตัวผู้ต้องหา พร้อมของกลาง ส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดี ต่อไป