ข่าว

รวม 11 ปม มหากาพย์ คดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ฟัน 18 บอส วังวนธุรกิจ “ขายตรง – แชร์ลูกโซ่”

รวม 11 ปม มหากาพย์ คดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ฟัน 18 บอส วังวนธุรกิจ “ขายตรง – แชร์ลูกโซ่”

07 พ.ย. 2567

มัดรวม 11 ปม มหากาพย์ คดี "ดิไอคอน กรุ๊ป" ฟัน 18 บอส วังวนธุรกิจ “ขายตรง – แชร์ลูกโซ่” ถึง คลิปเสียงเทวดา เจ้าหน้าที่ – นักการเมือง ตบทรัพย์

กลายเป็นหนังม้วนยาว สำหรับธุรกิจขายตรง ดิไอคอน กรุ๊ป ที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ มีผู้เสียหายถูกหลอกดูดเงิน ทยอยเข้าแจ้งความฐานฉ้อโกง ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค.2567 เป็นต้นมา จำนวนผู้เสียหายเรือนหมื่น ยอดความเสียหายทั่วประเทศเกือบ 3,000 ล้านบาท

 

สโลแกนสวยหรู ที่ ดิไอคอน กรุ๊ป ชักชวนโน้มน้าวให้ ผู้เสียหายยอมลงทุน เป็นนักธุรกิจ ลงทุนทำธุรกิจร่วมกัน คือ “ขยันผิดที่ สิบปีก็ไม่รวย” โดยมีเหล่าบรรดาบอส เป็นไอดอลให้กับผู้เสียหาย รวมถึงบอสดารา ตลอดจน บอสพระ ที่เป็นแรงดึงดูดเงินจากผู้เสียหายได้อย่างดี

 

ผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความ

 

ผู้เสียหายบางรายถึงขั้นฆ่าตัวตาย เนื่องจากกู้หนี้ยืมสินมาลงทุน แต่สุดท้ายไม่มีกำไรงอกเงย ไม่มีรายได้ แต่ต้องมาใช้หนี้ โดยมีการแฉผ่านรายการโหนกระแส

ย้อนรอย ไทม์ไลน์ ดิไอคอน กรุ๊ป ฉายภาพ แตกประเด็น ออกไปมากมาย จากคดีฉ้อโกง และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ สู่คดีฟอกเงิน และ แชร์ลูกโซ่ รวมถึง การตีแผ่ เปิดโปง การจ่ายส่วยให้กับ เจ้าหน้าที่รัฐ และนักการเมือง รวบรวมคดีและประเด็นร้อน ได้ ดังนี้

 

1. ผู้เสียหายแห่เข้าแจ้งความ โดยพบว่าผู้เสียหายจำนวนมาก ถูกกล่อมให้ร่วมลงทุนทำธุรกิจ แต่ไม่มีกำไร ขายของไม่ได้ สูญเงินหลักหมื่นถึงหลักแสน บางรายทุกข์ทรมานจากการเป็นหนี้ ถึงขั้นคิดสั้นฆ่าตัวตาย โดยตั้งแต่วันที่ 18 ต.ค. 2567 ผู้เสียหายทยอยเข้าแจ้งความ ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) สังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) และสถานีตำรวจทั่วประเทศ จนถึงปัจจุบัน มีจำนวนผู้เสียหายเรือนหมื่น ยอดความเสียหายทั่วประเทศ เกือบ 3,000 ล้านบาท

 

2. คลิปเสียงบอสพอล นักการเมือง ส. เป็นคลิปเสียงที่ นายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล หรือ บอสพอล ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง ดิไอคอน กรุ๊ป พูดคุยกับชาย คนหนึ่ง เนื้อเสียงพ้องกับ นักการเมือง ส. ถึงประเด็น เทวดา สคบ. ชื่อ ป.  ซึ่งต่อมา พ.ต.อ.ประทีป เจริญกัลป์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตรองเลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. ออกมาปฏิเสธว่าไม่ใช่ตัวเอง และตนเองเป็นผู้ตรวจสอบความผิดปกติของดิไอคอน โดยมีการแจ้งความผู้เผยแพร่คลิปและพาดพิงตัวเอง ฐานหมิ่นประมาท

 

ขณะที่ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ยืนกรานปฏิเสธว่า ไม่ใช่เสียงตัวเอง อย่างไรก็ดีต่อมา พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ให้นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช พ้นจากตำแหน่ง รองโฆษก พปชร. เมื่อวันที่ 18 ต.ค. 2567  และจากนั้นวันที่ 25 ต.ค. 2567 นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ยื่นลาออกจาก พรรค พปชร. จากนั้น พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษก พปชร. แถลงถึง อักษรย่อนักการเมืองฟากรัฐบาล ที่ต้องสงสัยว่าเกี่ยวกับ ดิไอคอน กรุ๊ป หลายคน

3. ปฏิบัติการ หนุมานถล่มกรุงดิไอคอนกรุ๊ป โดย บิ๊กอ้อ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. กับ บิ๊กก้อง พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. เปิดปฏิบัติการ หนุมานถล่มกรุงดิไอคอนกรุ๊ป ในวันที่ 16 ต.ค. 2567 หลังศาลอนุมัติหมายจับ 18 บอส ฐาน ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ

 

บอสพอล

 

โดย เจ้าหน้าที่ เข้าจับกุม บอสพอล ระหว่างเข้าให้ปากคำ ที่ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เป็นรายแรก ส่วนอีก 17 บอส มีทั้งจับกุม และบางรายเข้ามอบตัวเอง ประกอบด้วย

 

บอสกันต์

 

บอสดารา 3 คน

  1. นายกันต์ กันตถาวร หรือ บอสกันต์
  2. นายยุรนันท์ ภมรมนตรี บอสแซม
  3. น.ส.พีชญา วัฒนามนตรี หรือ บอสมิน

 

บอสมิน พีชญา

 

ส่วนอีก 14 บอส ประกอบด้วย

  1. น.ส.ปัญจรัศม์ กนกรักษ์ธนพร หรือ บอสตัน
  2. นายฐานานนท์ หิรัญไชยวรรณ หรือ บอสหมอเอก
  3. น.ส.นัฐปสรณ์ ฉัตรธนสรณ์ บอสสวย
  4. น.ส.ญาสิกัญจณ์ เอกชิสนุพงศ์ บอสโซดา
  5. นายนันท์ธรัฐ เชาวนปรีชา บอสโอม
  6. นายธวิณทร์ภัส ภูพัฒนรินทร์ บอสวิน
  7. นายหัสยานนท์ เอกชิสนุพงศ์ บอสป๊อบ
  8. นางวิไลลักษณ์ เจ็งสุวรรณ บอสจอย
  9. นายธนะโรจน์ ธิติจริยาวัชร์ หรือ บอสอ๊อฟ
  10. นายจิรวัฒน์ แสงภักดี หรือ โค้ชแล็ป
  11. นายเชษฐ์ณภัฎ อภิพัฒนากานต์ หรือ บอสทอมมี่
  12. น.ส.เสาวภา วงษ์สาขา หรือ บอสอูมมี่
  13. น.ส.กนกธร ปูรณะสุคนธ์ หรือ บอสแม่หญิง
  14. นายกลด เศรษฐนันท์ หรือ บอสปีเตอร์

 

หลังสอบปากคำ ทั้งหมดถูกคัดค้านการประกันตัว และ ส่งตัวเข้าเรือนจำ

 

ทีมบอส

 

4. ปูด นักร้องเรียน ก. ตบทรัพย์ โดย นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความของบอสพอล ปูดถึง นักร้องเรียน ก. ตบทรัพย์ บอสพอล เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2567 โดยระบุว่า มีการก่อเหตุ ตั้งแต่เดือน ก.พ. - พ.ค.2567 จำนวน 10 ล้านบาท โดยบอกว่า รู้กันอยู่แล้ว ไปเช็กก็รู้ว่าใคร รวมทั้งเข้าแจ้งความต่อ กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.)  ในสังกัด บช.ก.

 

พัช กฤษอนงค์

 

ขณะที่ น.ส.กฤษอนงค์ สุวรรณวงศ์ หรือ พัช กฤษอนงค์ เจ้าของเพจกฤษอนงค์ต้านโกง ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เกี่ยวกับธุรกิจออนไลน์ แชร์ลูกโซ่ ออกมาชี้แจงตอบโต้ว่า ไม่ได้ตบทรัพย์ใคร โดยเคยเป็นตัวกลางประสานระหว่างผู้เสียหาย 89 คน กับ ดิไอคอน ในการเรียกร้องค่าเสียหาย รวม 15 ล้านบาท บอสพอลเจรจาขอจ่ายครึ่งหนึ่ง คือ 8 ล้านบาท โดยบอสพอลใส่ซองเป็นเงินสดเอามาให้ ส่วนผู้เสียหายกลุ่มเปราะบาง 5 คน ไม่สามารถมารับเงินเองได้ ดิไอคอนฯ จึงโอนเงินเข้ามาที่บัญชีมูลนิธิฯ 450,000 บาท โดยกฤษอนงค์ และสามี ได้เข้าให้ข้อมูลกับพนังกานสอบสวน บก.ปปป.แล้ว ขณะเดียวกันมีการเปิดโปงคลิปเสียงการสนทนาระหว่าง กฤษอนงค์ กับ บอสพอล

 

5. ปูดพยานเท็จเรื่องคริปโต นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจ สายไหมต้องรอด และอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า พบเส้นทางการเงินผิดปกติ ซึ่งเชื่อมโยงกับ  ดิไอคอน มีการโอนเงินกว่า 247,911,936 USDT หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 8,223 ล้านบาท ออกไป โดยเชื่อมโยงกับ โค้ชแล็ป

 

โดยนายเอกภพ ได้นำตัวพยานเข้าให้การกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. ต่อมา บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ระบุว่า พยานคนดังกล่าว เป็นพยานเท็จ และอาจมีการดำเนินคดีกับนายเอกภพ

 

6. พระนักเทศน์ชื่อดัง รับกิจนิมนต์ ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ไลฟ์สด แฉพระนักเทศน์ชื่อดัง รับกิจนิมนต์เทศน์เชียร์ ดิไอคอน กรุ๊ป อาทิ  ถ้าอยากรวยภายในวันเดียว ต้อง ดิไอคอน

 

ต่อมา พระเมธีวชิโรดม หรือ ว.วชิรเมธี ที่ยังอยู่ต่างประเทศ ชี้แจงผ่านเพจเฟซบุ๊กว่า เป็นเพียงหนึ่งในพระสงฆ์ที่ได้รับนิมนต์ ให้ไปเทศน์ ไปสอนใน ดิไอคอน กรุ๊ป เท่านั้น เป็นการสอน เรื่อง “หัวใจเศรษฐี” ขณะที่ นายชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุว่า เป็นเรื่องที่ พศ. ต้องไปตรวจสอบ เนื่องจากเป็นเรื่องของสงฆ์

 

ทนายตั้ม

 

7. ทนายดัง ตบทรัพย์ 7.5 ล้าน นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความ บอสพอล เปิดข้อมูลใหม่ แจ้งความเอาผิดนักตบทรัพย์ ที่เป็นทนายความ โทรเข้ามาขอเงินบอสพอล 7 ล้านบาท ให้เหตุผลจะเอาไปจ่ายให้กับผู้เสียหาย แล้วขู่ว่าถ้าจ่าย เรื่องต่างๆจะไม่ดำเนินคดี แต่ตอนนั้น บอสพอล ไม่ได้จ่าย

 

ต่อมา ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า  ผมไม่มีเบอร์ บอสพอล ไม่เคยอยากโทรหา แต่ถ้าหมายถึงผม บอสพอล เป็นคนโทรมาเอง แล้วผมบอกให้จ่ายผู้เสียหายกลุ่มเปราะบาง เซตแรก 30 คน คนละ 250,000 บาท ยอดไม่ใช่ 7 ล้าน แต่เป็น 7.5 ล้าน ซึ่งประเด็นนี้ บิ๊กเต่า พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผบช.ก. ชี้แจงว่า อยู่ระหว่างสอบสวน

 

8. กล่าวหาตำรวจกองปราบเรียกรับเงิน 9 ล้าน กระแสข่าวว่ามีตำรวจกองปราบ เรียกรับเงินจำนวน 9 ล้านบาท จาก โค้ชแล็ป ต่อมา นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล ยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เนื่องจากถามโค้ชแล็ปแล้ว ยืนยันว่าไม่มีตำรวจคนใดมาเรียกรับผลประโยชน์ รวมถึงทนายความและภรรยาของโค้ชแล็ป ก็ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง

 

9. บอสพอลโอนเงินให้ แม่นักการเมือง ส. กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจสอบพบเส้นทางการเงินว่า บอสพอล โอนเงินให้แม่ของนักการเมือง ส. รวม 2.5 ล้านบาท กรณีนี้ นายวิฑูรย์ เก่งงาน ทนายความบอสพอล ระบุว่า  เป็นเพียงเงินโอนไปร่วมทำบุญทุกเดือน เพราะทั้งสองฝ่ายรู้จักและสนิทกัน

 

10. ปปง. ยึดและอายัดทรัพย์ ยึดอายัดทรัพย์สิน ของดิไอคอน กรุ๊ป รวมถึง เหล่าบอส รวม 4 ครั้ง  มูลค่าประมาณ 320,320,308 บาท

 

11. แจ้งข้อหาแชร์ลูกโซ่ เมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2567 ตำรวจ บก.ปคบ. ส่งสำนวนคดีดิไอคอน ให้กับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) รับดำเนินการต่อ โดยต่อมา ดีเอสไอ มติเป็นเอกฉันท์เห็นชอบ แจ้งข้อกล่าวหา 18 บอส และนิติบุคคล 1 ราย คือ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด (โดยนายวรัตน์พล วรัทย์วรกุล กรรมการผู้มีอำนาจลงนาม) ในความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ. 2527 มาตรา 4,5 (แชร์ลูกโซ่) และ พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรง พ.ศ. 2545 มาตรา 19,20