หวิดวางมวย ผู้ปกครอง 2 ฝ่ายแค้นฝังหุ่น ฉะกันลั่นหน้าโรงเรียน ผอ.ต้องระงับเหตุ | คมชัดลึก

8 พ.ย. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อบ่ายวันที่ 6 พ.ย. 2567 เกิดเหตุชุลมุน บริเวณหน้าโรงเรียนป่าก้าว ต.ผักตบ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี จนชาวบ้านผ่านไปมาตกใจแตกตื่นว่าเกิดอะไรขึ้น โดยปรากฏคลิปที่ผู้ปกครองมาเจอกันโดยบังเอิญ ด่ากันเดือดลั่นถนน และเห็นผู้ชายคนหนึ่งเดินปรี่เข้ามาหาผู้ปกครองอีกฝ่าย เหมือนจะทำร้ายและท้าทายกันต่างๆนานา จน ผอ.โรงเรียน และ คณะครูต้องพาอีกฝ่ายเข้าไปในโรงเรียน แล้วรีบปิดประตู ก่อนจะแจ้งตำรวจ สภ.หนองหาน เข้าระงับเหตุ

 

ทั้งนี้ผู้ปกครองฝ่ายหนึ่ง คือ น.ส.ตะวัน อายุ 30 ปี แม่ของ ด.ญ.มะปราง อายุ 14 ปี ที่เคยถูกคู่กรณี เป็นพ่อแม่ขาใหญ่พาพวกขึ้นรถกระบะบุกไปทำร้าย ที่บ้านศาลา ต.โพนงาม อ.หนองหาน จ.อุดรธานี เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 19 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา ส่วนอีกฝ่ายเป็นพ่อแม่ของ  น.ส.บีม และ น.ส.กวาง ที่เคยมีกรณีทำตัวเป็นขาใหญ่พากลุ่มผู้ปกครองไปบ้านเด็กหญิง 14  จนมีเรื่องคดีความ จนถึงขณะนี้ตำรวจยังไม่ออกหมายเรียก หรือดำเนินการใด ๆ โดยแจ้งว่า เด็กๆ ที่ถูกทำร้ายต้องรอให้สหวิชาชีพสอบปากคำก่อน โดยนัดวันที่ 11 พ.ย. 2567 ที่จะถึงนี้

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปกับ น.ส.ตะวัน เล่าว่า เหตุการณ์ชุลมุนหน้าโรงเรียนเกิดขึ้น เมื่อวันที่ 7 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา ตนจะไปรับลูกสาวกลับบ้าน ได้เจอนางอ้อ แม่นายบอล ที่ถูกด้ามปืนทุบศีรษะจนแตกเราก็ยืนคุยกันเรื่องคดี จังหวะนั้นเองกลุ่มคู่กรณีที่ไปทำร้ายลูกสาวๆและเพื่อนๆ ขับรถมารับลูกที่โรงเรียนพอดี แม่น้องบอลก็ชี้ให้ตนเอง ว่า กลุ่มนี้แหละที่ทำร้ายลูกสาวและลูกชายเรา

 

ปรากฏว่า น.ส.บีม ที่มารับลูกชายพอดี ขับรถผ่านมาได้ยิน ก็หันหลังกลับมาต่อว่า จนเกิดเหตุการณ์ในคลิป โดยมี ผอ.และครู พาเข้าไปในโรงเรียน แล้วปิดประตูเอาไว้ พอเราจะออกจากโรงเรียน ก็มีกลุ่มวัยรุ่นมาปิดทั้งหน้าประตูโรงเรียนและหลังโรงเรียน พวกเราก็กลัวเพราะเป็นผู้หญิง ตอนนี้คดีความก็ไม่คืบหน้า

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับคู่กรณีอีกฝั่ง น.ส.บีม เปิดเผยว่า หนูมารับลูกชายหลังเลิกเรียน อีกฝั่งจู่ๆ ก็มาด่า หนูก็ถามเขาว่า มาด่าหนูทำไม หนูมารับลูกเฉยๆ จากนั้นเขาก็ดึงกระเป๋าลูกชายหนูเกือบตกรถ ก็ตกใจก็เกิดด่ากันไปมา สามีเห็นเขาดึงกระเป๋าลูกชาย ก็มาปกป้องเมียและลูกเท่านั้น

 

ด้าน นายหนึ่ง บอกว่า ถูกด่าก่อน และหาว่าผมไปทำร้ายเด็ก จึงเดินไปถามว่าแล้วผมไปเกี่ยวอะไร ผมไม่ได้ไปทำร้ายเด็กในวันนั้น ผมก็เดินไปหาเขาต่อว่า โดยเขาเข้ามาดึงกระเป๋าเด็กด้วย ผมก็ถามว่าดึงกระเป๋าเด็กทำไม ถ้าเด็กล้มกลางถนนมีรถสิบล้อมาเหยียบเสียชีวิต ใครจะรับผิดชอบ เถียงกันไปกันมา พอดีมีผู้ใหญ่บ้านออกมาให้เลิกด่ากัน เราก็หยุด ยืนยันว่าพวกผมไม่ได้ไปหาเรื่องเขาก่อน

 

 

ส่วน น.ส.กวาง และ นายเอ คู่กรณีที่ผู้ปกครองและกลุ่มเด็กหญิงวัย 14 อ้างว่า เป็นพ่อแม่ขาใหญ่พาพวกขึ้นรถกระบะเกือบ 20 คน เข้าทำร้าย ชี้แจงว่า ต้นเรื่องเกิดจาก ด.ญ.มะปราง และเพื่อนมาหา ลูกและเพื่อนๆ ก่อน จะมาดักทำร้าย ลูกก็เลยมาฟ้อง จึงขึ้นรถกระบะไปมีผู้หญิง 6-7 คนเพื่อไปบอกให้ตายายพ่อแม่ เขาเตือนลูกหลานเขาด้วย เรามีแต่ผู้หญิงไปเลยขอให้สามีที่เป็นผู้ชายไปด้วย

 

ปรากฏว่า ด.ญ.มะปราง เดินออกมาชี้หน้าด่าหนูเลยว่า ก็ตกใจ สักพักพวกเด็กๆ ผู้หญิงก็ตะลุมบอนกันอย่างชุลมุน ตอนที่ยายแกล้มหนูยังเป็นคนไปอุ้มยายขึ้นมาเลย ยืนยันไม่เป็นความจริง ที่ว่าพวกเราใช้ท้ายด้ามปืนไปทำร้ายแน่นอน และขอแก้ข่าวที่ว่าพวกเราค้ายาเสพติด คดีในโรงพักหนูไม่มีสักเรื่องเลย

 

 

ต่อมา พ.ต.อ.เชี่ยวชาญ มีชัย ผกก.สภ.หนองหาน พร้อมด้วย น.ส.กาญจนาพร คำแพงราช ผอ.โรงเรียนบ้านป่าก้าว ได้เรียกทั้งสองฝั่ง มาพูดคุยกัน พร้อมกับทำข้อตกลงไม่ยุ่งต่อกัน ไม่ด่ากัน ส่วนเรื่องคดีเป็นขั้นตอนตามกฎหมายต่อไป