สุดเศร้า 4 แรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอลกลับสู่มาตุภูมิแล้ว
รับร่าง 4 แรงงานไทยเสียชีวิตในอิสราเอล ส่งกลับบ้านเกิด เพื่อทำพิธีตามศาสนา ขณะที่ "กระทรวงแรงงาน" ประสานทางการ ต้องทำงานพื้นที่สีเขียวเท่านั้น
จากกรณี 4 แรงงานไทยเสียชีวิตจากเหตุจรวดโจมตีจากเลบานอนไปยังเมืองเมตูลาทางตอนเหนือของอิสราเอล เมื่อ 31 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 2567) เวลา 21.55 น. ตามเวลาท้องถิ่น สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงเทลอาวีฟ ได้ส่งร่างแรงงานไทย ด้วยสายการบินอิสราเอลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ LY 081 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิในวันนี้ (8 พ.ย.67) เวลา 14.05 น.
โดย นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้ นายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงแรงงาน เป็นผู้แทนกระทรวงแรงงานร่วมพิธีรับร่างแรงงานไทยกลับจากรัฐอิสราเอล โดยวางพวงหรีดของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน และปลัดกระทรวงแรงงาน เพื่อแสดงความอาลัย
จากนั้น นางออร์นา ซากิฟ เอกอัครราชทูตรัฐอิสราเอลประจำประเทศไทย ร่วมวางพวงหรีดตามลำดับ โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย ประกอบด้วย นายอรรคพล วรรณไสย นายประหยัด พิลาศรัมย์ นายธนา ติจันทึก และนายกวีศักดิ์ ปาปะนัง จะถูกเคลื่อนย้ายไปยังภูมิลำเนาในจังหวัดนครราชสีมา อุดรธานี และบุรีรัมย์ เพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนาตามขั้นตอนต่อไป
ส่วนการช่วยเหลือเยียวยา ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า จากการตรวจสอบของสำนักงานประกันสังคม พบว่า นายกวีศักดิ์ ปาปะนัง ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้รับสิทธิประโยชน์บำเหน็จชราภาพ เป็นเงิน 35,730.18 บาท นายธนา ติจันทึก ชาวจังหวัดนครราชสีมา ได้รับสิทธิประโยชน์บำเหน็จชราภาพ เป็นเงิน 41,480.87 บาท ส่วนอีก 2 ราย จากการตรวจสอบพบว่า ไม่เป็นผู้ประกันตน
ส่วนเงินสิทธิประโยชน์จากการเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศนั้น แรงงานทั้ง 4 ราย ได้ยื่นขอรับเงินสงเคราะห์กรณีเดินทางกลับประเทศจากภัยสงครามไปแล้วเมื่อปลายปีที่แล้ว รวมทั้งโครงการเยียวยาจากรัฐบาล ทางด้านเงินชดเชยจากสถาบันประกันภัยอิสราเอล กรณีเสียชีวิต ได้แก่ ค่าทำศพ 79,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการทำศพเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 47,000 บาท และเงินช่วยเหลือการเป็นหม้าย กรณีมีภรรยา ประมาณ 57,000 บาท
นอกจากนี้ ยังมีเงินชดเชยรายเดือนและรายปีและอื่นๆ ซึ่งขณะนี้ สถานเอกอัครราชทูตฯ อยู่ระหว่างการประสานงานกับฝ่ายอิสราเอลเรื่องการชดเชยเยียวยาเพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์แก่ครอบครัวของแรงงานไทยทุกราย โดยกระทรวงแรงงาน ให้ความมั่นใจว่าจะดูแลสิทธิประโยชน์ของแรงงานที่เสียชีวิตให้ได้รับสิทธิประโยชน์พึงได้ตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด
ขณะที่ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน รักษาราชการแทน รองปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ในส่วนของแรงงานไทยที่ยังทำงานอยู่ในอิสราเอล ขอให้ร่วมมือกับทางการอิสราเอลอย่างใกล้ชิด โดยเมื่อมีประกาศแจ้งเตือนและอพยพให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เข้าในพื้นที่ปลอดภัย โดยมีเงื่อนไขว่าต้องทำงานในพื้นที่สีเขียวเท่านั้น และขอให้ติดตามข่าวจากสถานทูตและสำนักงานแรงงานไทยอย่างใกล้ชิด กระทรวงแรงงานจะดูแลพี่น้องแรงงานไทยอย่างดีที่สุด
สำหรับแรงงานไทยที่จะเดินทางไปทำงานต่างประเทศ ขอให้แจ้งข้อมูลที่ด่านตรวจคนหางานก่อนเดินทางออกนอกประเทศทุกครั้ง เพื่อกระทรวงแรงงานจะได้ทราบข้อมูล ติดตาม และดูแลสิทธิประโยชน์จากภาครัฐ ทั้งยังเป็นการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ที่ไม่พึงประสงค์เช่นนี้อีก