ด่านชายแดน เฝ้าติดตามหมายจับแก๊งเพื่อนทนายตั้ม ล็อต 2 ปมเงิน 39 ล้าน
ตม.ชายแดน เฝ้าติดตามหมายจับล็อต 2 แก๊งเพื่อนทนายตั้ม โยงปมเงิน 39 ล้าน หากพบตัวรีบประสานขอคำสั่งผู้บังคับบัญชา
8 พ.ย. 2567 กรณี ตำรวจกองปราบ นำกำลัง จับทนายตั้ม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยาทนายตั้ม ในความผิดฐาน ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเหตุที่ได้มีการสมคบกัน หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ที่ จ.5337/2567 ในคดีที่ เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ แจ้งความฐานฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท เมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 7 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา
ล่าสุด รายงานข่าวแจ้งว่า ในการจับกุมทนายตั้มกับภรรยานั้น นอกจากคดีฉ้อโกง 71 ล้านบาทแล้ว ยังมีตัวละครอื่นที่เกี่ยวข้องกับเงินจำนวน 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้ม รับไปดำเนินการจ้าง เฉินคุน ดาราชาวจีน ให้เจ๊อ้อย โดยอ้างว่ามีการโอนในรูปแบบบิทคอยน์
และให้ น.ส.สารินี และนายนุ สามี ซึ่งเป็นคนรู้จักของทนายตั้ม โอนไปให้ แต่มาถูกแก๊งสแกมเมอร์หลอกเอาไป เป็นเหตุให้ เจ๊อ้อย ยอมจ่ายแคชเชียร์เช็คให้กับ น.ส.สารินี จำนวน 39 ล้านบาท นั้น โดย น.ส.สารินี ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน.บางซื่อ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2566 ว่า ถูกดูดเงินบัญชีโอนบิทคอยน์กว่า 2 ล้านบาท
ทำให้มีตัวละครเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเป็นไปได้ว่าคนกลุ่มนี้จะถูกออกหมายจับล็อต 2 นั้น
โดยในวันนี้ ผู้สื่อข่าว เดินทางไปยังด่านพรมแดนนครพนม สะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) เพื่อสอบถามการเข้มงวดตรวจสอบ บุคคลต้องสงสัยในคดีดังกล่าว ซึ่งอาจจะหลบหนีไปยังประเทศเพื่อนบ้าน โดย ร.ต.อ.กฤษฎินทร์ กันไชยา สารวัตรเวรประจำสะพานมิตรภาพฯ เปิดเผยว่า กรณีมีคนไทยประสงค์เดินทางออกนอกราชอาณาจักร ถ้าไม่มีหมายจับถือว่าเขาเป็นผู้บริสุทธิ์ เอกสารสำหรับการเดินทาง เช่น พาสปอร์ตไม่หมดอายุ ก็ต้องอนุญาตให้ออกนอกประเทศได้ ยกเว้นเป็นบุคคลมีหมายจับ จะขึ้นที่หน้าจอเจ้าหน้าที่ทันที เล็ดลอดออกนอกประเทศไม่ได้แน่นอน
ในส่วนคดีดังกล่าว ถ้า ตม.นครพนม พบผู้ต้องสงสัยที่เกี่ยวพันกับเงิน 39 ล้านบาท มีความประสงค์จะเดินทางออกนอกประเทศ ตม.นครพนม ไม่สามารถกักหรือควบคุมตัว เพราะยังไม่มีหมายจับ จะต้องสอบถามไปยังส่วนกลาง ว่ามีคำสั่งเป็นกรณีพิเศษ หรือไม่