ไหนบอกให้โดยเสน่หา? ทนายความ “ตั้ม” ยันเอง “เจ๊อ้อย” ให้ลงทุน | คมชัดลึก

9 พ.ย. 2567 จากกรณีที่ ทนายตั้ม และภรรยา โดนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตามรวบตัวกลางถนน ในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา โดยเจ้าตัวอ้างว่า กำลังจะเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ จ.สระแก้ว ก่อนนำตัวมาที่กองปราบฯ

 

 

ขณะที่เมื่อวานนี้ (8 พ.ย. 2567) เวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม พร้อมนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด ภรรยา ขึ้นรถตู้ 1 คัน โดยมีรถตำรวจบก.ป. นำขบวน 1 คัน เพื่อไปทำการฝากขังศาลอาญารัชดาตามขั้นตอนทางกฎหมาย เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวน จะคัดค้านการประกันตัวของผู้ต้องหาทั้งสองราย เนื่องจากมีพฤติการณ์หลบหนี และไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

 

 

 

 

ด้านนายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการโหนกระแส (8 พ.ย. 2567)  ปมเงิน 2 ล้านยูโร หรือประมาณ 71 ล้านบาท ที่เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดีกับทนายตั้ม เรื่องหลอกเงินลงทุน ระบุว่า “เมื่อเปิดแชทดูเท่าที่ตนได้อ่าน เรื่องของการขอเอาเงินไปลงทุน ไม่ทราบว่าทนายตั้มพูดว่าให้ด้วยความเสน่หาได้ยังไงส่วนเรื่องเงินที่จะคืนหรือไม่นั้นตนไม่ทราบ

 

หนุ่ม กรรชัย : แล้วไอ้เรื่องเงิน 71 ล้านนี้ให้ด้วยความเสน่หา หรือเขาเอามาลงทุน?

ทนายสายหยุด : เสน่หาไม่เสน่หา ผมมองว่าเอาเงินให้เขามาลงทุนแน่นอน แล้วทนายษิทรายืนยันชัดเจนว่า โครงการสลากฯ ทำคนเดียว ไม่มีผู้เสียหายหุ้นส่วนด้วย แต่จะต้องคืน หรือไม่ต้องคืน เป็นการยืมกัน หรืออะไรกันตรงนี้ ผมยังดูรายละเอียดไม่แน่ชัด

 

 

ไอ้เรื่องเงิน 71 ล้าน ถ้าผมใช้คำว่า “ให้โดยเสน่หา” ทางผู้เสียหายเถียงแน่ว่าเขาไม่ได้ให้ ถูกไหมครับ เขาเถียงแน่นอนเขาไม่ได้ให้ แต่ที่ผมดูจากการสนทนา เหมือนทนายษิทราขอเงินมาลงทุน เพื่อจะเอาไปสร้างเนื้อสร้างตัว สร้างครอบครัวอะไรก็แล้วแต่ ขอเอามาลงทุน มันก็แชทกันไปแชทกันมาอยู่"

 

หนุ่ม กรรชัย : แต่ที่ทนายตั้มเขาพูด เขาบอกว่าให้โดยเสน่หาเลยนะ?

ทนายสายหยุด : ในรายการพี่ เขาก็พูดไปอย่างงั้นได้ยังไง เขาพูดไปสั้นๆ คำเดียว ผมก็ไม่รู้เขาหรอก แต่ข้อความที่แชทเนี่ย ไม่ยืมเขามาลงทุน เขาก็ให้มาลงทุนก่อน อะไรประมาณอย่างนี้ เท่าที่ผมดูนะ เพราะทนายตั้มยืนยันว่าเขาทำเองคนเดียว ไม่มีพี่อ้อยเป็นหุ้นส่วน อันนี้ 100% ผมอ่านแล้วอ่านอีก

 

หนุ่ม กรรชัย : ตกลงเงินตรงนี้ (71 ล้าน) ให้มาลงทุนแล้ว เปลี่ยนเป็นให้มาลงทุน ฃ

ทนายสายหยุด : ไม่ๆ อันนี้คือความคิดผมนะ ผมไม่ใช่ทนายษิทราครับ เอาเท่าที่ผมดูนะ ตกลงให้โดยเสน่หา แต่ผมดูว่าเป็นการให้มาลงทุน แต่จะต้องคืนกันไหม คืนยังไงอันนี้ผมไม่รู้

 

หนุ่ม กรรชัย : แล้วทำไมไม่คืนละครับ พอมันมีประเด็นมันเกิดปัญหา พอมีการทวงคืนทำไม่ถึงไม่คืนเขาไป?

ทนายสายหยุด : ใช่ครับเป็นหนี้ก็ต้องใช้หนี้

 

หนุ่ม กรรชัย : จะใช้คำว่าเป็นหนี้ไม่ได้ เพราะอันนี้นายษิทราใช้คำว่าให้โดยเสน่หา

ทนายสายหยุด : อันนั้นคำพูดเขา อันนี้ผมดูจากพยานหลักฐาน ที่ความคิดผม ผมไม่ได้อ้างอิงคำพูดเขานะ เดี๋ยวถ้าผมไปเยี่ยม ผมจะไปถามเขาละกัน ผมตอบแทนเขาไม่ได้จริงๆ

ที่มา : โหนกระแส