นาทีสู้ยิบตา! สาวใจเด็ดฮึดสู้คนร้าย จี้ชิงเงินหน้าตู้ ATM หัวขโมยลั่นตกงาน
นาทีสู้ยิบตา! สาวใจเด็ดฮึดสู้คนร้าย จี้ชิงเงินหน้าตู้ ATM ห่างจากโรงพัก 100 ม. ก่อนสยบหัวขโมยสำเร็จ ลั่นตกงานไม่มีเงินใช้
9 พ.ย.2567 เวลา 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสุพรรณบุรี ได้รับแจ้งเหตุจี้ชิงทรัพย์ หน้าธนาคารริมถนนประชาธิปไตย ห่างโรงพักประมาณ 100 เมตร จึงประสานสายตรวจและจราจร เข้าตรวจสอบ เมื่อไปถึงพบว่าคนร้ายถูกชาวบ้านพลเมืองดีคุมตัวเอาไว้ได้แล้ว
ที่เกิดเหตุพบธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท มีรอยฉีกขาด 1 ใบ และมีดปอกผลไม้มีด้าม และปลอกยาวประมาณ 5 นิ้ว ตกอยู่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน และคุมตัวผู้ก่อเหตุและเชิญผู้เสียหายไปสอบปากคำต่อที่ สภ.เมืองสุพรรณบุรี
น.ส.พัชรี (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี ผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองเป็นพนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ก่อนเกิดเหตุ ตนได้นำเงินสดจำนวน 5,000 บาท มาฝากเข้าตู้ฝากเงินสดให้แม่ ขณะกำลังรอรหัส โอทีพี และหมายเลขบัญชีธนาคารจากแม่ โดยตนได้ วีดีโอคอล คุยอยู่ในสายกับแม่ และวางเงินสดไว้บนตู้ ATM ที่กำลังจะฝาก
จู่ๆ ก็มีคนเอาอะไรมาทุบที่หลังตนเสียงดังอึ๊ก จนหัวคะมำจึงหันกลับมาดูก็พบมีผู้หญิงวัยกลางคนร่างท้วม คว้าเงินที่วางบนตู้ และกำลังจะวิ่งหนีตนเห็นเป็นผู้หญิงจึงไม่ยอม ได้คว้าแขนผู้ก่อเหตุเอาไว้ และพยายามกระชากหมวกกันน็อกของคนร้ายออก จนเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากกันออกไปที่บนถนน ระหว่างนั้นตนก็ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน โชคดีที่ระหว่างนั้นมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาเห็นเหตุการณ์ และเข้าช่วยเหลือตนจับตัวคนร้ายเอาไว้ได้
ส่วนเงินของตนได้ตกกระจายอยู่บนพื้นถนน และมีอยู่ 1 ใบ เป็นธนบัตรฉบับละ 1,000 บาท ที่แย่งกับคนร้ายถูกดึงขาดไป 1 ใบ น.ส.พัชรี เล่าต่ออีกว่า วันนี้เป็นเกิดสามีกับลูก ตนตั้งใจว่าหลังจากฝากเงินเข้าบัญชีให้แม่แล้ว ก็จะกลับเข้าที่ทำงาน และหลังเลิกงานก็จะไปซื้อของไปทำกินฉลองวันเกิด ไม่คิดว่าจะมาฉลองแบบนี้
ซึ่งก่อนที่ตนจะเข้าไปฝากเงิน ก็สังเกตดูรอบๆ ตัวแล้ว ว่ามีใครอยู่ด้วยหรือเปล่า แต่ก็ไม่มีใครจึงวางเงินไว้บนตู้ ATM คิดไม่ถึงว่าจะมีคนร้ายกล้ามาก่อเหตุ ซึ่งเป็นเวลากลางวัน และอยู่ใกล้โรงพักแค่ 100 กว่าเมตร จึงอยากฝากเตือนถึงคนที่จะฝากเงิน หรือทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินสดให้ระวังให้มาก มิฉะนั้นจะมีโอกาสโดนชิงทรัพย์แบบตน และอาจไม่โชคดีเหมือนตน
ตนขอขอบคุณพลเมืองดีที่ เข้ามาช่วย สอบสวนผู้ก่อเหตุทราบชื่อ น.ส.นคนนท์ (สงวนนามสกุล) อายุ 48 ปี ให้การว่าตนเคยทำงานเป็นแม่บ้าน ตอนนี้กำลังตกงานมีปัญหาเงื่องเงินไม่รู้จะหาเงินที่ไหนใช้ จึงขี่รถจักรยานยนต์ ไปตามถนนแบบเรื่อยเปื่อย แต่พอเห็นผู้เสียหายยืนอยู่หน้าตู้ ATM เพียงลำพังจึงตัดสินใจก่อเหตุขึ้น ตนไม่คิดทำร้ายผู้เสียหายแต่อย่างใด
ทางด้านแม่ค้าขายฝรั่ง อยู่ฝั่งตรงข้ามที่เกิดเหตุ เล่าว่าขณะกำลังรอลูกค้ามาซื้อผลไม้ ได้ยินเสียงคนตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ จึงหันไปดูก็พบมีการยื้อแย่งสิ่งของกันจากตู้ ATM ออกมากลางถนน ตนกำลังจะวิ่งไปช่วยพอดี มีพลเมืองดีผ่านมา และจอดรถเข้าช่วยไว้ได้ทันเสียก่อน ตนจึงไม่ได้ไปช่วย
ตนรู้สึกตกใจมาก ที่เห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้รับความร่วมมือจากครอบครัว สจ.ภูษิต ซึ่งเปิดร้านขายอุปกรรณ์ก่อเหตุอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ พบมีคนร้ายเข้าไปยื้อแย่งสิ่งของกันจากหน้าตู้ ATM และออกมาที่กลางถนนท่ามกลางรถที่กำลังพลุกพล่าน ระหว่างนั้นมีพลเมืองดีขับรถผ่านมาเห็นได้จอดรถลงไปช่วยจับคนร้ายเอาไว้ได้ ก่อนแจ้งตำรวจเข้าไปรับตัวมาดำเนินคดี
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาน.ส.นคนนท์ ผู้ก่อเหตุในข้อหาชิงทรัพย์ ก่อนควบคุมตัวส่ง พ.ต.ต.นิคม ขุนสะอาดศรี พนักงานสอบสวน เพื่อส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป