เจ้าอาวาสโชว์เบอร์โทร “ทนายตั้ม” ลงท้าย 9999 ติดต่อมานั่งวิปัสสนาจริง | คมชัดลึก

9 พ.ย. 2567 กรณี ตำรวจกองปราบ นำกำลัง จับกุม นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม และนางปทิตตา เบี้ยบังเกิด หรือ เดือน ภรรยาทนายตั้ม ในความผิดฐาน ฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน และสมคบโดยการตกลงกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และได้มีการกระทำความผิดฐานฟอกเงินและเหตุที่ได้มีการสมคบกัน หลังศาลอาญาอนุมัติหมายจับ ที่ จ.5337/2567 ในคดีที่ เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ แจ้งความฐานฉ้อโกงเงิน 71 ล้านบาท เมื่อช่วงเที่ยง วันที่ 7 พ.ย. 2567 ที่ผ่านมา

 

ต่อมา เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2567 เจ้าหน้าที่ตำรวจคุมตัว ทนายตั้ม และ เดือน ภรรยาทนายตั้ม เข้าฝากขังต่อศาลอาญา โดยทนายความได้ยื่นประกันตัวเดือน ภรรยาทนายตั้ม โดยศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เกรงจะยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน ทั้งคู่จึงถูกส่งไปควบคุมที่เรือนจำ

 

ทั้งนี้ มีการตั้งข้อสังเกตว่า ทนายตั้ม ถูกจับกุมขณะเดินทางหลบหนีออกชายแดน จ.สระแก้ว ไม่ได้เดินทางไปนั่งวิปัสสนา ตามที่มีการกล่าวอ้างนั้น

 

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยัง วัดป่าหวายวิปัสสนาญาณ ตำบลทับช้าง อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี หลังจากมีข่าวว่าทนายตั้ม จะเดินทางมาวิปัสสนาวัดแห่งนี้ แต่ถูกจับกุมระหว่างเดินทาง สำหรับวัดป่าแห่งนี้เดิมทีเป็นสำนักสงฆ์ มีนักการเมือง และคนมีชื่อเสียงเดินทางมาวิปัสสนาหลายคน โดยล่าสุด บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผบ.ตร. ก็เคยเดินทางมาเช่นกัน สำนักสงฆ์แห่งนี้ถือว่าเป็นสถานที่สงบ ร่มเย็นเป็นอย่างมาก ปกคลุมไปด้วยต้นไม้ขนาดใหญ่ มีการสร้างกุฏิไว้สำหรับเป็นที่พัก ให้กับญาติโยมที่มาถือศีลปฎิบัติธรรม รวมกว่า 100 หลัง และถูกแบ่งแยกออกเป็นโซนหญิง ชาย และสาวประเภทสอง

บริเวณโดยรอบ มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ให้สักการะกราบไหว้ตลอดทางเดิน คนที่มาส่วนใหญ่ เมื่อมาถึงวัดแล้วก็จะนุ่งขาวห่มขาว จากนั้นเวลา 19.00 น. ก็จะต้องเดินไปรวมตัวกันบริเวณลานธรรม มีลักษณะเป็นเรือนโรงหลังคาสูง ไม่มีพื้น สำหรับพื้นทำเป็นทราย มีเพียงขอบปูนเพื่อแสดงเป็นแนวเขตเท่านั้น กฎของการเข้าลานธรรมแห่งนี้ ต้องถอดรองเท้า ปิดโทรศัพท์ ในระหว่างทำการวิปัสสนากรรมฐาน  

 

 

สอบถาม หลวงปู่พลชัย เจ้าอาวาสวัดป่าหวาย วิปัสสนาญาณ ให้ข้อมูลว่า ทนายตั้ม ได้โทรศัพท์ติดต่อและแจ้งว่าจะเดินทางมาวิปัสสนาที่วัดจริง โดยโทรศัพท์มาเมื่อวันที่ 28 ต.ค. 2567 ที่ผ่านมา เวลา 20.59 น. หลวงปู่พลชัย นำโทรศัพท์มาไล่ดูเบอร์ ที่ ทนายตั้ม โทรมาปรากฏว่ามีอยู่จริง เป็นเบอร์โทรศัพท์ที่ลงท้ายด้วย 9999  ซึ่งหลวงปู่จำได้แม่น

 

 

หลวงปู่ บอกอีกว่า ก่อนหน้านี้ตัว ทนายตั้ม เอง เคยเดินทางมาวิปัสสนาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยมากับภรรยา และ ทนายรณรงค์ ส่วนรถของเขา หลวงปู่ไม่รู้ว่าใช้รถอะไรมา ก่อนหน้านี้ตัว ทนายตั้ม ก็ไม่ได้โทรมาปรึกษาปัญหาส่วนตัว และไม่เคยคุยกันเรื่องส่วนตัวเลย เพียงแต่โทรมาแจ้งว่า จะเดินทางมาเท่านั้น

 

โดยบอกว่า ตอนนี้มีเรื่องวุ่นวาย อยากจะมาปฎิบัติธรรมเพื่อให้สบายใจขึ้น โดยใช้เวลาคุยกันไม่นาน

 

ส่วนการก่อสร้างสิ่งต่างๆภายในวัด ทนายตั้ม ไม่เคยสร้างวัตถุใดๆในวัดเลย

 

หลวงปู่พลชัย กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นนั้นเป็นปัญหาส่วนตัว หลวงปู่เคยสอนไปแล้วว่าให้ทำแต่สิ่งที่ดีงาม ส่วนการคิดดีคิดชั่วนั้น เป็นเรื่องส่วนตัว