ข่าว

"ทนายสายหยุด" เตรียมนำหลักฐาน แจง คดี "ทนายตั้ม" ชี้ อาจเป็นแค่การผิดสัญญา

"ทนายสายหยุด" เตรียมนำหลักฐาน แจง คดี "ทนายตั้ม" ชี้ อาจเป็นแค่การผิดสัญญา

10 พ.ย. 2567

"ทนายสายหยุด" เตรียมพา "ผู้เชี่ยวชาญการโอนเงินระหว่างประเทศ" เข้าเป็นพยานแจงตำรวจ ชี้คดี "ทนายตั้ม" อาจเป็นการผิดสัญญา ต่างจากคดีฉ้อโกงทั่วไป

10 พ.ย. 2567  นายสายหยุด เพ็งบุญชู ทนายความของ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กล่าวว่า ในวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.นี้ จะเข้าเยี่ยมทนายตั้มและภรรยา พร้อมนำอุปกรณ์ของใช้ส่วนตัว และของใช้ที่จำเป็นเข้าไปฝาก ซึ่งทนายตั้มไม่ได้ร้องขออะไรเป็นพิเศษ 

 

 

โดยการเข้าเยี่ยมครั้งนี้เพื่อหารือแนวทางการต่อสู้คดี ทั้งนี้ตนเชื่อว่ายังมีข้อต่อสู้คดี  อีกทั้งเตรียมประสานหาพยานคนกลาง ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ มาให้ปากคำกับตำรวจ ในประเด็นต่างๆ อาทิ การโอนเงินระหว่างประเทศ,และหาผู้เชี่ยวชาญ เรื่องรถเบนซ์  

 

 

โดยจะนำหลักฐานไปชี้แจงว่าข้อกล่าวหาเรื่องฉ้อโกงอาจเป็นเพียงการผิดสัญญา ซึ่งต่างจากกรณีฉ้อโกงทั่วไป

 

ส่วนกรณีที่นายสนธิ ลิ้มทองกุล สื่อมวลชนอาวุโส ออกมาบอกว่า ทนายเดชาช่วยฟอกขาวให้กับทนายตั้มนั้น  ตนมองว่า ทนายเดชาเขาพูดไปในแง่ของกฎหมาย แต่สิ่งที่เขาพูดอาจจะให้คนฟังไม่ถูกใจ มองว่าไปว่าเข้าข้าง แต่ทนายเดชาก็พูดไปตามข้อมกฎหมายในความคิดเห็นของเขา 

 

 

ยืนยันว่าทนายเดชาไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวอะไรในทางคดีทนายตั้ม แต่จะมีแค่มาถามเพราะตนเองก็รู้จักทนายเดชา และคุยกันตั้งแต่ที่ตนจะเข้ามาทำคดีให้กับทนายตั้ม เป็นการให้กำลังใจเท่านั้น 

ขณะที่ พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า ชุดทำงานอยู่ระหว่างการสืบหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม ให้รัดกุมแน่นหนา เพื่อคลี่คลายข้อเท็จจริงทั้งหมด โดยเฉพาะประเด็นเงิน 39 ล้านบาท ที่ขณะนี้อยู่ระหว่างการแสวงหาพยานและตรวจสอบข้อเท็จจริงตามคำให้การของผู้เสียหายและผู้ที่เกี่ยวข้อง 

 

 

โดยจะมีการประชุมติดตามความคืบหน้าเป็นระยะ ทั้งนี้ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ทำงานเต็มที่เป็นไปด้วยการรัดกุม ซึ่งหากพบพยานหลักฐานเกี่ยวข้องกับใครหรือมีใครร่วมกระทำผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอนกฏหมาย 

 

 

ขณะเดียวกันชุดทำงานอยู่ระหว่างการสืบสวนหาทรัพย์สินเพิ่มเติมของ ทนายตั้มและภรรยา ตาม พ.ร.บ.ฟอกเงิน  ซึ่งหากพบทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน เช่นเดียวกับการวิเคราะห์หลักฐานที่ตรวจยึดได้จากสำนักงานกฎหมายษิทรา ลอว์เฟิร์ม ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการเช่นกัน 

ส่วนการที่ทนายความของนายษิทรา จะนำคนกลาง ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการโอนเงินระหว่างประเทศฝรั่งเศสกับไทย ผู้เชี่ยวชาญในการคิดค่าคอมมิชชั่น และ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบก่อสร้างมาให้การนั้น ทางชุดทำงานพร้อมรับฟัง เพราะตำรวจไม่ได้หวังพึ่งพยานหลักฐานใดหลักฐานหนึ่ง ต้องทำให้ครบถ้วนรอบคอบ และส่วนของตำรวจก็มีพยานหลักฐานอยู่แล้วด้วย

 

 

ดังนั้นก็เป็นสิทธิของผู้ต้องหาที่ทำได้ และหากพามาเองได้ก็ควรพามาเองเพื่อความสะดวกรวดเร็ว  ไม่ใช่มาอ้างบุคคลที่ตำรวจไม่สามารถนำมาสอบได้ เพื่อประวิงเวลา และยืนยันว่าตำรวจสอบสวนกลางพร้อมให้ความเป็นธรรมอยู่แล้ว

 

 

ทั้งนี้มีรายงานว่าชุดสืบสวนได้มีสอบถามข้อมูลกับทางนายนุ คนสนิททนายตั้ม และภรรยาของนายนุ แล้ว  หลังปรากฏข้อมูลว่าทั้งสองได้ไปถอนเป็นเงินสดออกมาจากธนาคารที่ห้างสรรพสินค้าย่านห้าแยกลาดพร้าว  ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุดคลี่คลายคดี อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลจีพีเอส รถ Porsche รุ่น Cayenne ของนายษิทรา ให้แน่ชัดว่า ในวันที่ นายนุกับภรรยา ไปถอนเงิน และวันที่ภรรยานายนุไปลงบันทึกประจำวันที่สน.บางซื่อ  นายษิทรา ได้มีการไปพบหาทั้งสองหรือไม่ 

 

 

ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบพยานหลักฐานข้อเท็จจริง นอกจากนี้ชุดทำงานอยู่ระหว่างการรอผลการสอบสวนข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ที่มีพล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) เป็นผู้รับผิดชอบ เพื่อที่ชุดทำงานจะนำไปประกอบว่ามีประเด็นใดที่น่าสนใจ และต่อยอดในการสืบสวนหรือไม่อย่างไร