เผาแล้ว 2 ชีวิต ผัวรัดคอเมีย ก่อนปลิดชีพตาม ขนลุก! เผา 5 ชั่วโมง ไม่ยอมไหม้ | คมชัดลึก

จากกรณีสามีใช้เชือกรัดคอภรรยา จนเสียชีวิตคาที่นอน ภายในร้านขายของชำกลางหมู่บ้าน ต.บ้านค้อ อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม หลังมีปากเสียงกันเรื่องสามีติดพนันออนไลน์ หวยหุ้น หวยฮานอย มากว่า 20 ปี ก่อนสามีจะหลบหนีไปจบชีวิตใต้ต้นกระท้อน เหตุเกิดเมื่อช่วง 20.00 น. วันที่ 9 พ.ย. ที่ผ่านมา

10 พ.ย. 2567 เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ญาติได้เคลื่อนร่าง น.ส.พูนศักดิ์ และนายสนั่น สองสามีภรรยา ไปประกอบพิธีฌาปนกิจที่ป่าช้าในหมู่บ้าน ห่างจากบ้านพักราว 2 กิโลเมตร หลังจากตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านพักแค่ข้ามคืน โดยไม่ได้นิมนต์พระมาสวดที่บ้านแต่อย่างใด เนื่องจากทั้งคู่เสียชีวิตผิดธรรมชาติ เมื่อถึงป่าช้า ญาติได้นิมนต์พระสงฆ์ 4 รูป มาสวดมาติกาบังสุกุล ท่ามกลางญาติพี่น้องและเพื่อนบ้านไปร่วมงานศพกว่า 50 คน

นางคำจอน อายุ 85 ปี แม่ น.ส.พูนศักดิ์ เปิดเผยว่า ตนมีลูกทั้งหมด 5 คน แบ่งที่ดินที่นาและที่สวนให้ลูกหมดทุกคน โดยเฉพาะ น.ส.พูนศักดิ์ ผู้ตายลูกสาวคนสุดท้อง ได้ทั้งที่นาและที่สวนหลายแปลง แต่ลูกสาวอาจจะนำไปจำนอง ให้สามีหรือไม่ตนก็ไม่ได้สนใจ เพราะญาติและตนพูดไม่ได้เรื่องติดการพนัน ตั้งแต่หลานสาว ซึ่งเป็นลูกสาวคนเดียวของผู้ตายทั้ง 2 คน ยังไม่ลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ จนตอนนี้หลานอายุ 19 ปีแล้ว

เท่าที่ทราบลูกสาวหมดที่นากับสามีซึ่งนำเอาไปจำนองจำนำ มาเล่นการพนันออนไลน์ 2-3 แปลง จนนายสนั่น และลูกสาว มีหนี้สินติดตัว แต่ลูกสาวไม่เคยมาระบายให้ตนฟังเพราะรักสามีมาก หลังลูกสาวและลูกเขย เสียชีวิตทั้งคู่ ตนร้องไห้หนักจนไม่มีน้ำตา และตนเคยบอกกับนายสนั่นบ่อยครั้งว่า ถ้าตายให้ไปตายที่อื่น ไม่ต้องมาตายที่บ้าน ส่วนร้านขายของชำ ตนต้องมาดูแลค้าขาย เพื่อประกอบอาชีพเลี้ยงหลานส่งให้เรียนจนจบชั้นปริญญาตรีให้ได้

ด้าน นายแว๊ก อายุ 57 ปี ญาติผู้เสียชีวิต ที่ดูแลกองฟอน กล่าวว่า ทำพิธีเผาร่างแบบกองฟอนแบบโบราณ พบร่างของ น.ส.พูนศักดิ์ หลังฌาปนกิจไหม้ไฟจนหมด มีเพียงร่างของนายสนั่น ผู้เป็นสามี ร่างเผาไม่ไหม้ พลิกไปพลิกมา 2-3 ครั้งแล้ว ร่างเด้งกลับมาเหมือนเดิม แม้จะมีไม้ค้ำกองฟอนก็ตาม เชื่อว่านายสนั่น ยังห่วงลูกสาวคนเดียวที่รักมาก โดยเผาตั้งแต่ 9 โมงเช้าจนถึงขณะนี้บ่ายโมงแล้ว ตนนึกว่าไหม้หมดแล้ว มาพลิกดูพบว่าศีรษะกับกระดูกคอ ยังติดกัน ไม่ยอมไหม้ จึงกลับบ้านรีบนำถ่านอีก 2 กระสอบมาเติมเชื้อไฟ ตั้งแต่เกิดมากว่า 50 ปี ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้