“บิ๊กก้อง” ลุยยึดทรัพย์ “ทนายตั้ม” บ้านหรู เงินสด เผยเปิดเซฟว่างเปล่า นาฬิกาหรูหาย | คมชัดลึก

11 พ.ย. 2567 เวลา 11.30 น. ที่อาคารประชาอารักษ์ กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. แถลงความคืบหน้าการดำเนินคดี นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ผู้ต้องหาฉ้อโกง , ฟอกเงิน , ร่วมกันฟอกเงิน โดยมีความผิดมูลฐานมาจากฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ว่า ตอนนี้มีการดำเนินการแจ้งข้อหาทั้งหมด ตามที่มีข่าวก่อนหน้านี้ใน 4 คดี ที่ เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ แจ้งความ คือ เงิน 71 ล้านบาท , คริปโต 39 ล้านบาท , รถเบนซ์ และ ค่าออกแบบ

ส่วนที่มีกระแสข่าวออกมาก่อนหน้านี้ว่า จะมีบุคคลถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งคนนั้น พล.ต.ท.จิรภพ กล่าวว่า อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน หากมีพยานหลักฐานไปถึงใคร ก็จะออกหมายจับเพิ่มเติม แต่คงไม่อธิบายล่วงหน้าก่อน หากดำเนินการแล้วเสร็จ จึงจะมีการแถลงข่าวให้ทราบ โดยยืนยันว่า หากจะมีการออกหมายจับใครเพิ่มเติม ก็จะดำเนินการอย่างตรงไปตรงมา

ส่วนขณะนี้มีข้อมูลเบาะแสเกี่ยวกับ นายนุ และ น.ส.สารินี คนสนิททนายตั้ม เพิ่มเติมหรือไม่นั้น พล.ต.ท.จิรภพ ระบุว่า จากที่ได้รับรายงานเบื้องต้น บุคคลดังกล่าวได้รับข้อมูล ว่า ยังอยู่ในประเทศ

สำหรับการยึดทรัพย์สินของ ทนายตั้ม ที่ตรวจยึดมา ขณะนี้ได้ตรวจยึดเงินในบัญชีจำนวน 28 ล้านบาท และที่ดินเป็นบ้านราคา 43 ล้านบาท ที่มีข้อมูลว่ามาจากเงินที่อยู่ในก้อน 71 ล้านบาท ส่วนทรัพย์สินอื่นๆก็จะมีประเภทรถยนต์ และทรัพย์สินประเภทสิ่งของ ส่วนทรัพย์สินในตู้เซฟ หลังจากเปิดแล้ว ยังไม่พบทรัพย์สินภายในตู้ดังกล่าว รวมถึงนาฬิกาหรูที่ทนายตั้ม เคยใส่ ตอนนี้ตำรวจยังไม่พบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เจ๊อ้อย ได้แจ้งความดำเนินคดี ทนายตั้ม รวม 4 คดี ประกอบด้วย

1. คดีหลอกให้โอนเงิน ลงทุนหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท
2. คดีทนายตั้มขอให้ใช้หนี้ให้ น.ส.สา กับ นายนุ สามี ที่โอนเงินบิตคอยน์เป็นค่าจ้าง เฉินคุน นักแสดงชาวจีน แต่ถูกโกงเอาไป จำนวน 39 ล้านบาท 
3. คดีให้เงินไป 13 ล้านบาท เพื่อซื้อรถเบนต์ แต่จ่ายเงินจริงไม่ถึง ทำให้เสียหาย 1.5 ล้านบาท
4. คดีจ้างออกแบบโรงแรม 9 ล้านบาท แต่มูลค่าจริง 3.5 ล้านบาท