เปิดพฤติการณ์ พนง.ธนาคาร บุกแทงผู้หญิงไม่รับรัก ญาติอ้าง ป่วยซึมเศร้า | คมชัดลึก

จากกรณี นายอรุณ (สงวนนามสกุล) อายุ 57 ปี แค้นโดนปฏิเสธรัก บุกแทงนางสมจิตร อายุ 57 ปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนทำร้ายร่างกายของตัวเอง แต่ทนเจ็บไม่ไหว พยายามซิ่งรถเก๋งไปโรงพยาบาล ระหว่างทางชนกวาดรถยนต์ และจักรยานยนต์ของชาวบ้าน รวมไปถึงรั้วบ้าน ได้รับความเสียหาย เหตุเกิดเวลาประมาณ 12.40 น. วันที่ 10 พ.ย. บริเวณท้ายซอยพหลโยธิน 48 แยก 14 ต่อเนื่องถึงบริเวณทางเข้า รพ.สายหยุด แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กทม.

11 พ.ย. 2567 นายรุ่งโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 66 ปี สามีของนางสมจิตร เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน สน.บางเขน พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ผู้ก่อเหตุที่แทงภรรยา อยู่บ้านห่างออกไปประมาณ 100 เมตร ช่วงเดือนก่อน เวลากลางคืน ตนมักเห็นนายอรุณ มาด้อมๆ มองๆ บ้าน ที่ตนเองอาศัยอยู่กับภรรยา และยังมาถามว่า ตนเป็นใคร ทำไมถึงมาอยู่บ้านหลังนี้ จนตนเองเกือบจะทำร้ายร่างกายนายอรุณ
 

หลังจากนั้นตนได้สอบถามภรรยาว่าผู้ชายคนดังกล่าวเป็นใคร เหตุใดจึงถามแบบนี้ ภรรยาจึงอธิบายว่า นายอรุณ เป็นคนสติไม่ดีที่อยู่ในพื้นที่บ้านเรา อย่าไปทำร้ายเขาเลย เดี๋ยวจะพูดคุยทำความเข้าใจกับนายอรุณเอง ก่อนที่นายอรุณจะเดินกลับไป อีกทั้งชาวบ้าน เคยบอกว่านายอรุณ มีอาการป่วยทางจิต อยู่ระหว่างการรักษาตัว ตนเองจึงไม่ได้ติดใจ

แต่การที่เข้ามาทำร้ายภรรยาจนบาดเจ็บสาหัส ตนรับไม่ได้ หลังเกิดเหตุได้พยายามไปสอบถามหานายอรุณที่โรงพยาบาล เพื่อจะทำร้ายร่างกายคืน เนื่องจากโกรธแค้นกับการกระทำกับนายอรุณอย่างมาก แต่ทางโรงพยาบาลไม่ให้ข้อมูล ทั้งนี้ หากนายอรุณ หาหลักฐานมายืนยันว่า เกิดจากอาการป่วยจิตเวช ตนจะไม่ติดใจ แต่ถ้าไม่ป่วยจริง ไม่ยืนยันว่านายอรุณจะปลอดภัยหรือไม่ เนื่องจากอยู่ในพื้นที่เดี่ยวกันมันจึงต้องเจอกันทุกวัน
 

นายรุ่งโรจน์ กล่าวอีกว่า ก่อนเกิดเหตุ นายอรุณพยายามกระชากภรรยาขึ้นรถ แต่ภรรยาปฎิเสธ ก่อนที่กลับบ้านไปเอามีดมาแทงภรรยาบริเวณหน้าบ้าน โดยถูกแทงบริเวณด้านหลัง 5 แผล ทะลุปอดและไต อาการยังน่าเป็นห่วง ต้องอยู่ในการดูแลของแพทย์ไปอีกสักพักใหญ่ ส่วนญาติของนายอรุณ ยังไม่ติดต่อมา ซึ่งตนอยากเจอ เพื่อจะพูดคุยเรื่องค่าใช้จ่า และอยากให้ครอบครัวผู้ก่อเหตุรับผิดชอบ

พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน กล่าวว่า ทราบว่า ผู้ก่อเหตุเป็นพนักงานธนาคาร แต่ไม่ทราบว่าปัจจุบันยังทำงานอยู่ หรือลาออกมาแล้ว จากการสอบสวนพยานเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุมีการเตรียมอาวุธมีดตั้งใจที่จะไปก่อเหตุ โดยเฉพาะ เนื่องจากหึงหวงฝ่ายหญิง และหลังจากทำร้ายร่างกายฝ่ายหญิงอีกแล้ว ผู้ก่อเหตุได้ขับรถชนทรัพย์สินของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย และเมื่อผู้ก่อเหตุทราบว่าได้มีการนำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล ก็ได้มีการพยายามขับรถตามเพื่อที่จะไปก่อเหตุซ้ำ แต่เกิดเสียหลักชนบริเวณหน้าประตูโรงพยาบาลก่อน

เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า รถของผู้ก่อเหตุ มีประกันชั้น 1 ซึ่งขณะนี้รอสอบปากคำทั้งผู้ก่อเหตุและคนเจ็บอีกครั้ง โดยคนเจ็บรักษาตัวอยู่ที่ห้อง icu โรงพยาบาลฯ เนื่องจากถูกแทงบริเวณด้านหลัง และลำตัวประมาณ 5 แผล ส่วนผู้ก่อเหตุรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลภูมิพล โดยก่อนหน้านี้ทางญาติ ระบุว่า ผู้ก่อเหตุมีประวัติป่วยเป็นโรคซึมเศร้า ได้ประประมาณ 1-2 ปี แต่ก็ต้องรอทางญาตินำเอกสารมายืนยันผลว่า มีอาการป่วยจริงหรือไม่

ส่วนความเสียหาย ตอนนี้ให้ผู้เสียหาย ทยอยมาลงบันทึกประจำวันเพื่อรวบรวมว่ามีรถ บ้าน ทรัพย์สิน ใดเสียหายบ้างจำนวนกี่คัน จากนั้นก็จะมีการนัดเข้ามาไกล่เกลี่ยเรื่องค่าเสียหาย ส่วนทางด้านคดี ต้องรอสอบปากคำผู้ก่อเหตุรวมถึงผู้บาดเจ็บก่อนที่จะแจ้งข้อกล่าวหา