เปิดพิรุธบันทึกประจำวัน ไขปมร้อนเงิน 39 ล้าน ถูกแฮก หรือ ทนายตั้ม อุปโลกน์ ? | คมชัดลึก

ปมร้อนเงิน 39 ล้านบาท เรื่องจริง หรือฉากละครเรื่องยาว ที่กล่าวหา ทนายตั้ม หรือ นายษิทรา เบี้ยบังเกิด สร้างเรื่องขึ้นเพื่อตบทรัพย์ จาก เจ๊อ้อย จตุพร อุบลเลิศ เศรษฐินีคนดัง ยังคงเป็นคำถามที่รอคำตอบ

 

เงินบัญชีบิทคอยน์ 39 ล้านบาท ที่ทนายตั้ม ขอให้ สา หรือ สารินี กับ นุ แฟนสา โอนเพื่อเป็นค่าจ้าง เฉินคุน ดาราจีน แต่ถูกคนร้ายแฮกเอาไว้ สุดท้าย เจ๊อ้อย จ่ายแคชเชียร์เช็คคืนให้กับ สา

 

สแกมเมอร์ หรือแฮกเกอร์ มีจริงหรือไม่ มีการทำธุรกรรมโอนให้กับ เฉินคุณ จริงหรือไม่ หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตว่า ดาราจีน ไม่รับเงินบิทคอยน์ และดาราจีน มักไม่รับงานแบบนี้

อย่างไรก็ดี พบว่า สารินี ได้ลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สน.บางซื่อ ระบุว่า เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2566 เวลา 12.33 น. น.ส.สารินี อายุ 30 ปี พักอยู่แขวงและเขตดินแดง กทม. มาแจ้งว่า ผู้แจ้งมีกระเป๋าเงินออนไลน์ ชื่อบัญชี xxx.com กล่าวคือ ทางผู้แจ้งได้โอนเงินสกุล btc (Bitcoin) ไปจำนวน 7 ครั้ง

 

• ครั้งแรก 0.0001 btc = 120,000 บาท
• ครั้งสอง 0.1358 btc = 101,600 บาท
• ครั้งสาม 0.1358 btc = 101,600 บาท
• ครั้งสี่ 0.1358 btc = 101,600 บาท
• ครั้งห้า 0.1358 btc = 101,600 บาท
• ครั้งหก 0.9 btc = 875,000 บาท
• ครั้งเจ็ด 0.9 btc = 875,000 บาท

 

ไปให้บุคคลไม่ทราบชื่อสกุล โดยใช้วิธีสแกนคิวอาร์โค้ด ID :xxx

ปรากฏว่าหลังจากนั้นทุกบัญชีที่เชื่อมต่อกับกระเป๋าเงินออนไลน์ รวมไปถึงแอพกระเป๋าเงินออนไลน์ ถูกระงับบัญชี ไม่สามารถเข้าถึงได้อีกเลย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตรวจสอบบัญชีปลายทางว่าเป็นของผู้ใด และเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่อย่างไร

 

ผู้แจ้งจึงมาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ดำเนินการกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุดต่อไป

 

ทั้งนี้ ยอดรวมทั้งหมด อยู่ที่ 2,276,400 บาท

 

หลังจาก สา ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ ผ่านมา 1 ปี 5 เดือนเศษ ยังไม่มีความกระจ่างว่าคนร้ายเป็นใคร ทั้งๆที่ยอดเงินสูงพอสมควร

 

ส่งผลให้ พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. มีคำสั่งให้ พล.ต.ต.พัลลภ แอร่มหล้า รอง ผบช.น. (รับผิดชอบงานจเร) ตรวจสอบข้อเท็จจริง พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ในฐานะหัวหน้าสถานี มีการสืบสวนไปถึงไหนแล้ว

 

 

ขณะที่ พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ ถูกตำรวจกองบังคับการปราบปราม เรียกเข้าให้ข้อมูล

 

ทั้งนี้มีรายงานว่า การประสานงานข้อมูลการสืบสวนสอบสวน ระหว่าง ผู้บังคับบัญชาของกองบัญชาการตำรวจนครบาล กับ กองบังคับการปราบปราม กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พบข้อพิรุธ จากบันทึกประจำวัน ของ สารินี หลายประเด็น

 

1. เหตุเกิดที่ท้องที่ สน.ดินแดง แต่ทำไมถึงมาลงบันทึกประจำวัน ที่ สน.บางซื่อ
2. ยอดเงินมีจำนวนมาก ทำไมถึงปล่อยทิ้งไว้นาน และไม่มีการสืบสวนเพื่อให้เกิดความกระจ่าง
3. ทำไมถึงแจ้งลงบันทึกประจำวัน แค่ในส่วนยอดเงิน 2 ล้านบาทเศษ ทั้งที่ยอดจริงอยู่ที่ 39 ล้านบาท
4. จากการสืบสวนสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในปัจจุบัน พบว่า ไม่มีการโอนเงินบิทคอยน์จำนวนดังกล่าวจริง
5. หากไม่มีการทำธุรกรรมตามที่ลงบันทึกประจำวันเอาไว้ เท่ากับ สารินี แจ้งความเท็จใช่หรือไม่

 

 

กลายเป็นประเด็นร้อนที่ต้องตรวจสอบต่อไป ว่า เงิน 39 ล้านบาท ที่เจ๊อ้อย จ่ายแคชเชียร์เช็กให้ไป ใครได้รับผลประโยชน์บ้าง เค้กก้อนนี้แบ่งให้ใครบ้าง นอกจาก สารินี และ นุ แล้ว ทนายตั้ม ในฐานคนกลาง มีเอี่ยวด้วยหรือไม่ ตลอดจนมีตัวละครใหม่ร่วมวงไพบูลย์ อีกหรือไม่ ?