ข่าว

"บิ๊กเต่า" เผย เตรียมเชิญแม่นักการเมือง "ส" ให้การ คาดช่วยเหลือ ดิไอคอน กรุ๊ป

"บิ๊กเต่า" เผย เตรียมเชิญแม่นักการเมือง "ส" ให้การ คาดช่วยเหลือ ดิไอคอน กรุ๊ป

11 พ.ย. 2567

"บิ๊กเต่า" ยอมรับ พบเส้นเงินโยงนักการเมือง "ส" จริง รอสรุปความผิด พร้อมเตรียมเชิญแม่เข้าให้การ คาดอาจเคยช่วยเหลือ ดิไอคอน กรุ๊ป

11 พ.ย. 2567 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เปิดเผยว่า วันนี้ประชุม 4 เรื่องหลัก เรื่องแรกการดำเนินคดี น.ส.กฤษอนงค์ นักร้องเรียนหญิง ปมคลิปเสียงเรียกเงิน ในตอนนี้เนื้อหาพยานหลักฐานคืบหน้าไปเยอะแล้ว หลังจากนี้จะมีการสอบปากคำพยานเพิ่มอีก 2 ปาก เพื่อยืนยันหลักฐาน คาดอาทิตย์นี้จะมีความชัดเจน

 

เรื่องที่ 2 กรณีนักการเมือง "ส." ขณะนี้พบเส้นทางการเงินเชื่อมโยงแล้ว แต่ยังรอคำสั่งที่ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐบาล รอไทม์ไลน์ตามหลักฐานเป็นตัวตั้ง แม้ผู้เสียหายไม่อยากดำเนินคดีกับนักการเมืองคนดังกล่าว แต่เจ้าหน้าที่จะดำเนินการอย่างไรคงต้องรอดู เพราะมีคลิปเสียงเป็นหลักฐานที่ค่อนข้างชัดเจน ซึ่งจะเข้าข่ายความผิด ม.148 ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่ หรือ จะเป็นเรื่องกรรโชกทรัพย์ คงต้องคุยกับนักกฎหมายอีกครั้งให้ชัดเจน 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว

เรื่องที่ 3 แม่ของนักการเมือง "ส" จากการตรวจสอบบัญชีย้อนหลังสองปี ปรากฏว่า มีเส้นเงินโอนจากบัญชีบอสพอลเข้ามา 600,000 กว่าบาท กำลังตรวจสอบย้อนหลังอีกหลายปีว่า มียอดตรงไหนเพิ่มขึ้นบ้างหรือไม่ รวมถึงเรื่องราวร้องเรียนที่เกิดขึ้นว่า มีการนัดเคลียร์เจรจากันหรือไม่ เชื่อว่ากลุ่มคนเหล่านี้คงช่วยเหลือบริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป หลังจากนี้จะเรียก แม่ของนักการเมือง "ส" มาให้การ

 

เรื่องที่ 4 กรณีนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ขณะนี้สอบพยานไว้มากพอสมควรแล้ว เบื้องต้นอาจจะเข้าข่ายความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ส่วนพยานเท็จขอประชุมอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ต้องมองในเจตนาเป็นหลัก หลังจากนี้ให้มันจบเป็นเรื่องๆไป 
 

ขณะที่ในส่วนเรื่องนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ที่น้องสาวเอาหลักฐานของประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจาก บริษัท ดิไอคอน กรุ๊ป มาประมาณ 60 กว่าคน มายื่นเป็นหลักฐาน ตั้งแต่วันที่ 1 - 14 ต.ค. 2567 กำลังตรวจสอบความเสียหายจริงว่าผู้เสียหายติดต่อ บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม จริงหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ต้องดูเจตนารมย์เป็นหลักว่า ช่วงที่เรียกเงิน 7.5 ล้านบาทจากบอสพอลนั้น เป็นการเข้ามาขอความช่วยเหลือจากผู้เสียหายเองหรือไม่ หรือเรียกไปอย่างไร และจะต้องดูว่า ผู้เสียหายได้ว่าจ้างให้ทนายตั้มมาช่วยทำคดีหรือไม่ หรือเป็นค่าช่วยเหลือค่าดำเนินการอะไร ซึ่งในวันพุธนี้ (13 พ.ย. 2567) จะมีการประชุมอีกครั้ง 

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยัน ตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ไม่ใช่ชมรมหรือกลุ่มที่ตั้งตนช่วยเหลือ แต่กลับเรียกทรัพย์สินของผู้เสียหาย ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อยากให้ใช้ตำรวจให้เป็นประโยชน์ เพราะตำรวจเข้ามาทำงานให้อยู่แล้ว แต่เพจหรือชมรมต่างๆที่ตั้งใจทำเพื่อส่วนรวมต้องขอขอบคุณจริง ๆ ด้วยเช่นเดียวกัน