ข่าว

“ทนายเดชา” มีพยานเด็ดคดีทนายตั้ม เห็นข้อความสำคัญ โวคดีส่อพลิกแน่นอน

“ทนายเดชา” มีพยานเด็ดคดีทนายตั้ม เห็นข้อความสำคัญ โวคดีส่อพลิกแน่นอน

11 พ.ย. 2567

“ทนายเดชา” เผยมีพยานปากสำคัญ คดีทนายตั้ม เห็นข้อความที่อาจทำให้คดีพลิก ชี้ทนายตั้มอาจว่าความให้ตัวเอง เพราะไม่ไว้ใจใคร

11 พ.ย. 2567 ที่ สำนักงานทนายคลายทุกข์ ถนนนวมินทร์ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือ ทนายเดชา กล่าวถึงคดีของนายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือ ทนายตั้ม ผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง ฟอกเงิน และร่วมกับฟอกเงิน ที่ น.ส.จตุพร อุบลเลิศ หรือ เจ๊อ้อย แจ้งความดำเนินคดี กรณี ให้เงินไปลงทุนหวยออนไลน์ 71 ล้านบาท แต่ไม่มีการดำเนินการ ว่า  ภายใน 1-2 วันนี้ จะพาพยานสำคัญในคดีทนายตั้ม ไปพบตำรวจ พยานคนดังกล่าวเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง และเป็นคนเห็นข้อความว่า มีการยกเงินให้ทนายตั้ม โดยระบุด้วยว่า หลักฐานดังกล่าวอาจจะทำให้คดีพลิก

ทั้งนี้พยานคนดังกล่าว จะส่งผลกับคดีหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับศาล พยานคนนี้เป็นคนกลาง ที่มีความน่าเชื่อถือและเป็นคนเห็นข้อความว่า "ยกให้ทนายตั้ม"

 

“ทนายเดชา” มีพยานเด็ดคดีทนายตั้ม เห็นข้อความสำคัญ โวคดีส่อพลิกแน่นอน

 

ทนายตั้ม วางแนวทางในการต่อสู้คดีมานานแล้ว ยืนยันว่า แนวทางการต่อสู้คดี ไม่ได้เปลี่ยนแปลง แต่การให้ข่าวอาจจะคลาดเคลื่อน ซึ่งไม่อยู่ในสำนวน ดังนั้น จึงต้องเชื่อคำให้การของทนายตั้มในสำนวน ยืนยันว่าทนายตั้ม ไม่ใช่คนโง่ เป็นคนฉลาด ถ้าหากโง่ก็ไม่มีทรัพย์สินเป็นร้อยล้าน และเป็นไปได้สูงว่า ทนายตั้มจะขึ้นว่าความเอง เพราะทนายตั้มไม่เคยไว้วางใจใคร

 

บอกหลายครั้ง คดีของทนายตั้ม ไม่เคยไปถึงศาลพูดไปหลายครั้งแล้ว ก็ไม่มีใครเชื่อ เชื่อว่าทนายตั้มยังมีหมัดเด็ดอีกเยอะ และจะปล่อยออกมาหลังจากนี้ และข้อหา ฉ้อโกงเป็นปกติธุระถือเป็นคดีแรกในกระบวนการยุติธรรม ถือเป็นบรรทัดฐานใหม่ และอาจเป็นข้อต่อสู้ของทนายตั้มในการต่อสู้คดี เป็นข้อหาแรกในประเทศไทยที่เกิดขึ้น ดังนั้นทนายตั้ม จึงมั่นใจว่าหลุดคดี และอาจจะเป็นไปได้ว่าในคดีนี้จะจบที่ชั้นพนักงานสอบสวนโดยอัยการจะไม่ส่งฟ้อง

“ทนายเดชา” มีพยานเด็ดคดีทนายตั้ม เห็นข้อความสำคัญ โวคดีส่อพลิกแน่นอน

 

ส่วนแนวทางการต่อสู้ของทนายตั้ม จะทำให้คดีเป็นในทำนองลักษณะคดีทางแพ่งเป็นหลัก จึงฝากพนักงานสอบสวนทำให้ดี ส่วนใครจะแพ้ใครจะชนะอยู่ที่ศาลตัดสิน แนวทางต่อสู้คดีไม่ยาก แต่ย้ำว่า ถ้าทนายตั้มไปโกงจริงก็ต้องคืน ส่วนแนวทางได้ประกันถ้าสอบสวนเสร็จแล้วต้องดูว่ามีเหตุอื่นไหม เช่นไปข่มขู่หรือไม่หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานหรือไม่ ดังนั้นเหตุการณ์ที่จะไม่ปล่อยชั่วคราวอาจจะลดน้อยลง

 

นอกจากนี้ ยังระบุด้วยว่า ไม่สนหากถูกมองว่าเป็นโฆษกทนายตั้ม เพราะก่อนหน้านี้ในคดีแตงโมตนก็ถูกมองว่าเป็นโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติมาแล้ว พร้อมยอมรับวิเคราะห์เอียงเข้าทนายตั้ม เพราะเป็นเพื่อนกัน  อย่างไรก็ตามในช่วงนี้จะยังไม่ไปเยี่ยมทนายตั้ม แต่อาจจะพิจารณาไปเยี่ยมในอีก 7-10 วัน หลังจากนี้