ผบ.ตร. จ่อตั้ง รอง ผบ.ตร. สอบวินัยร้ายแรง "บิ๊กโจ๊ก" เชื่อ ทันตามกรอบเวลา
ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เตรียมตั้ง รอง ผบ.ตร. สอบวินัยร้ายแรง "บิ๊กโจ๊ก" เชื่อ ทันตามกรอบเวลา ส่วนคำสั่งอุทธรณ์ศาลปกครองสูงสุดขอไม่ก้าวล่วง
พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เปิดเผยถึงกรณีที่ศาลปกครองยกคำร้องการทุเลาคำสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล หรือ บิ๊กโจ๊ก โดยเปิดเผย ว่า เกี่ยวกับกรณีดังกล่าวตัวเองขอให้ความเห็นแบบกว้างๆ ซึ่งที่ผ่านมาก็เคยพูดเรื่องนี้ไว้แล้วว่าเป็นการดำเนินการทางวินัย ซึ่งตำรวจทุกนายต้องปฏิบัติภายใต้กฎ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) เดียวกันหมด
สิ่งนี้เป็นสิ่งที่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของข้อเท็จจริงและกฎหมาย และไม่ว่าจะเป็นตำรวจนายใด ทุกนายก็มีสิทธิ์ที่จะอุทธรณ์เบื้องต้น โดยผ่านองค์ประกอบคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ (ก.พ.ค.ตร.) และถ้าผลวินิจฉัยออกมาเป็นอย่างไรก็สามารถที่จะใช้ช่องทางขอความเป็นธรรมไปที่ศาลปกครองสูงสุดได้
หลังจากนั้นก็จะเป็นดุลพินิจของตุลาการศาลที่จะพิจารณาและมีคำวินิจฉัยอย่างใดอย่างหนึ่ง และไม่ว่าคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร ผู้บังคับบัญชาและสำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ต้องปฏิบัติตาม ส่วนสิ่งที่ต้องอุทธรณ์กันไปมาว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติชอบหรือไม่ชอบก็ถือว่าทุกคนมีสิทธิในการโต้แย้ง ส่วนคำวินิจฉัยจะเป็นอย่างไร ตัวเองขอไม่ก้าวล่วงกับคำวินิจฉัยของตุลาการศาลปกครองสูงสุดเด็ดขาด ส่วนจะเป็นคุณหรือเป็นโทษกับผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องก็เป็นกระบวนการขั้นตอน
ส่วนกระบวนการนี้มีอยู่ 2 ส่วน ส่วนแรกคือการคุ้มครองตามคำสั่งที่มีการเผยแพร่ตามสื่อมวลชน ส่วนที่ 2 คือกรณีที่ตัวเองถูกฟ้อง เป็นการพิจารณาว่าคำสั่งนั้นชอบหรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย ถูกต้องหรือไม่ ก็อยู่ในช่วงพิจารณาของศาลปกครอง ซึ่งในรายละเอียดตัวเองได้ชี้แจงเป็นลายลักษณ์อักษรส่งไปยังศาลปกครองสูงสุดในการพิจารณาเพื่อหักล้างข้อกล่าวหาแล้ว
ส่วนสำนวนคดีอาญาที่ก่อนหน้านี้มี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพาณิชย์ อดีตรอง ผบ.ตร. ที่เกษียณอายุราชการไปแล้วเป็นประธานในการสอบสวน หลังจากนี้จะต้องดำเนินการอย่างไรให้ครบองค์ประกอบ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ ระบุว่าเรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาบุคคลที่จะมาทำหน้าที่แทน เพราะขณะนี้ยังไม่มีประธานในการดำเนินการ รวมถึงยังไม่มีการแต่งตั้ง รอง ผบ.ตร.
ส่วนผลการสอบสวนผู้เกี่ยวข้องดำเนินการไปมากน้อยเพียงใด ตนไม่ทราบ ผู้บังคับบัญชาจะได้รับรายงานก็ต่อเมื่อผลการสอบสวนวินัยร้ายแรงเสร็จสิ้นแล้ว ส่วนจะแล้วเสร็จทันกรอบระยะเวลาหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มีอะไรน่ากังวล ยังอยู่ในกรอบเวลา