นครบาล วางกำลังคุมเข้ม 6 จุดจัดงานลอยกระทงขนาดใหญ่ คาดคนเข้าร่วมเกินพัน | คมชัดลึก

15 พ.ย. 2567 เวลา 09.30 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. เป็นประธานการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (VDO Conference) เตรียมความพร้อมการปฏิบัติ ห้วงเทศกาลวันลอยกระทง ปี 2567

 

โดยพื้นที่จัดงานประเพณีลอยกระทง ประจำปี 2567 ในพื้นที่ บช.น. ทั้งหมด 133 แห่ง เป็นจุดพื้นที่ขนาดใหญ่ ที่คาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงาน กว่า 1,000 คน ขึ้นไป รวมทั้งสิ้น 6 แห่ง ได้แก่

• พื้นที่บก.น.5 สน.วัดพระยาไกร  Riverfestival 2024 เอเชียทีค จำนวนคนประมาณ 500-1,000 คน
• พื้นที่ บก.น.6 สน.สำราญราษฎร์ วัดสระเกศราชวรมหาวิหาร ตั้งแต่วันที่ 8-17 พ.ย.67 ผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน
• ลานคนเมือง ผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน
• สน.พลับพลาไชย 1 จัดงานมหกรรมสีสันแห่งสายน้ำ คลองผดุงกรุงเกษม พื้นที่ต่อเนื่องจาก พื้นที่ สน.พลับพลาไชย 2 ตั้งแต่วันที่ 13-16 พ.ย.67  ผู้เข้าร่วมงานประมาณ 800-1,000 คน
• พื้นที่ บก.น.8 สน.ปากคลองสาน ห้างไอคอนสยาม ผู้เข้าร่วมงานประมาณ 1,000 คน

 

โดยเจ้าหน้าที่ใช้กำลังตำรวจ จำนวน 1,210 นาย

 

พล.ต.ท.ธิติ สั่งการให้ บก.น.1- 9, จร. , สส. , สปพ. และ กก.ดส. จัดทำแผนและมาตรการในการป้องกันปราบปรามอาชญากรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทงให้สอดคล้องเหมาะสมกับพื้นที่และสถานการณ์มากที่สุด

 

พร้อมจัดทำแผนเผชิญเหตุ และซักซ้อมแผนเพื่อให้ปฏิบัติได้อย่างทันท่วงที เมื่อมีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้น ในพื้นที่จัดงานประเพณีลอยกระทงขนาดใหญ่ หากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กทม. ฝ่ายปกครอง จัดตั้งศูนย์เฉพาะกิจป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยหรือตั้งกองอำนวยการร่วมส่วนหน้าให้หน่วยเข้าประสานการปฏิบัติจัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมปฏิบัติ ในศูนย์เฉพาะกิจหรือกองอำนวยการร่วมดังกล่าว เพื่อดูแลความปลอดภัย และร่วมกันดูแลอำนวยความสะดวก ให้ความช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวในพื้นที่ที่รับผิดชอบทางน้ำ

ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้จัดงานเพื่อร่วมกัน กำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัย ในช่วงการจัดงานประเพณีลอยกระทง เช่น การห้ามปล่อยโคมลอยหรือยิงบั้งไฟในพื้นที่ที่อยู่ในเส้นทางการบินของเครื่องบิน เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง การงดเล่นดอกไม้ เพลิง พลุ ประทัด

 

รวมถึงชี้แจงแก่วัดต่างๆ ถึงการปล่อยโคมลอยเพื่อเป็นพุทธบูชา ขอให้คำนึงถึงถึงความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นอย่างเคร่งครัด โดยให้นำแนวทางการปฏิบัติตามโทรสาร ศปก.ตร.ด่วนที่สุด พี่ 0001(ศปก.ตร.)/0171 ลง 26 ก.พ.56 เกี่ยวกับการรักษาความสงบเรียบร้อยในบริเวณการจัดงานรื่นเริงมาประยุกต์ใช้ตามความเหมาะสม

 

 

ให้สำรวจพื้นที่ที่มีการจัดงานประเพณีลอยกระทงขนาดใหญ่และคาดว่าจะมีประชาชนมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ยังไม่ได้จัดตั้งกองอำนวยการร่วมส่วนหน้า ให้หน่วยจัดตั้ง ศปก.สน. เพื่อบริหารเหตุการณ์ จัดระเบียบพื้นที่ จัดกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจจออกตรวจตรา และปรากฏกายให้เห็นเด่นชัดในพื้นที่จัดงานประเพณีลอยกระทง ตลอดจนสวนสาธาธารณะ สถานที่ที่มียานพาหนะจอดเป็นจำนวนมาก เพื่อลดโอกาสในการกระทำความผิด จัดเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวบสวนกดดัน ติดตามบุคคลเป้าหมาย หรือบุคคลพ้นโทษหรือผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีเกี่ยวกับเพศและทรัพย์ในพื้นที่รับผิดชอบ

 

กวดขัน ตรวจตรา ตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติของสถานบริการและสถานประกอบการทุกแห่งที่จัดงานลอยกระทง รวมถึงสถานบริการและสถานประกอบการที่เปิดให้บริการในลักษณะที่คล้ายกับสถานบริการ สถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ หรือสถานที่อื่นที่มีลักษณะคล้ายกันทุกแห่งให้เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปล่อยปละละเลยหรือลักลอบให้มีเด็กเยาวชนเข้าใช้บริการหรือให้มีการนำอาวุธ ยาเสพติด สิ่งผิดกฎหมายเข้าไปในสถานบริการ

 

รวมทั้ง จัดให้มีการตรวจสอบและสุ่มตรวจการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การกระทำความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์ ยาเสพติด อาวุธปืน การเล่นการพนันทุกชนิด หากพบว่ามีการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย ให้ดำเนินการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด และขยายผลกับผู้เกี่ยวข้องทุกราย

 

ทั้งนี้ ให้ สน. ที่มีพื้นที่รับผิดชอบทางน้ำจัดเรือออกตรวจตรา ตามบริเวณลำน้ำเพื่อป้องกันและช่วยเหลือผู้ประสบเหตุทางน้ำและประสานกับกรมเจ้าท่า ตรวจความเรียบร้อย ความมั่นคงของโป๊ะหรือท่าเทียบเรือ กรณีไม่อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยหรือซ่อมแซมไม่ได้ ให้แจ้งผู้เกี่ยวข้องปิดประกาศ ห้ามใช้ให้เห็นชัดเจน มีเชือกกั้นเขตไม่ให้เข้าไปใช้บริการ และประชาสัมพันธ์ไม่ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวลงไปใช้เกินจำนวนที่กำหนด อันอาจจะใดอุบัติเหตุขึ้นได้ รวมทั้งเตรียมแผนเผชิญเหตุทางน้ำให้ให้ให้ชัดเจน

 

ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ครู อาจารย์ ในสถานศึกษาเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการระมัดระวังป้องกันมีให้เด็กและเยาวชนกระทำผิดหรือตกเป็นเหยื่ออาชญากรรมและอบายมุขรวมทั้งใช้มาตรการทางปกครองของสถานศึกษา เพื่อเป็นการป้องปรามในการกระทำความผิด หากพบว่ามีการกระทำความผิดให้สืบสวนขยายผลดำเนินคดีกับผู้อยู่เบื้องหลังหรือสนับสนุนให้กระทำความผิดด้วยด้วยทุกราย