ไฟไหม้โรงงานสารเคมี ยังดับไม่สนิท พบการปะทุใหม่ คาดเย็นนี้ดับสนิท
ไฟไหม้โรงงานสารเคมี พบบางจุดยังดับไม่สนิท ปะทุขึ้นมาใหม่ เจ้าหน้าที่เร่งถมทรายและใช้ผงสารเคมีร่วมด้วย คาดเย็นนี้ดับสนิท
ความคืบหน้าจากเหตุการณ์เพลิงไหม้สารเคมี (คลอรีน) ภายใน บริษัท วอเตอร์ สเปเชียลลิส ซัพพลาย จำกัด (Water Specialist Supply Co.,Ltd) ตั้งอยู่เลขที่ 78/7 หมู่ที่ 4 ตำบลแคราย อำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งประกอบกิจการนำเข้าและจัดจำหน่ายสารเคมีภัณฑ์ทางอุตสาหกรรม เมื่อเวลาประมาณ 13.30 น.ของวันที่ 15 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 09.30 น.ของวันที่ 16 พ.ย. 2567 ซึ่งเวลาผ่านมาเกือบจะ 24 ชั่วโมงแล้วนั้น พบว่า โดยภาพรวมกลุ่มไฟที่ลุกไหม้ในโกดังดับลงแล้ว ส่วนกลุ่มควันสีขาวจำนวนมากที่ลอยออกจากโรงงานเมื่อวานนี้ จนทำให้มีกลิ่นสารเคมี (คลอรีน) ลอยไปตามอากาศ ส่งกลิ่นเหม็นรุนแรงและทำให้ชาวบ้านในพื้นที่เกิดอาการแสบตา แสบจมูกตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุจนถึงเมื่อคืนที่ผ่านมานั้น ได้เบาบางลงแล้ว แต่กลิ่นยังไม่หมดไปซะทีเดียว ส่วนภายในโรงงานยังคงมีประกายไฟในบางจุดที่เกิดการปะทุขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้ทางผู้บัญชาการเหตุการณ์คือ นายสมบูรณ์ สุขผล นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแคราย ที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาให้ควบคุมสั่งการตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมด้วย นายพรพิศุทธ์ บุญศิริ ผู้ช่วยหัวหน้า สนง.ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร จึงได้สั่งให้มีการเคลื่อนย้ายสารเคมีต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณจุดเกิดเหตุออกมาให้หมด ให้คงเหลือเฉพาะจุดที่มีประกายไฟประทุอยู่ จากนั้นนำทรายละเอียดเข้าไปถมดับประกายไฟที่ปะทุขึ้นมาใหม่แทนการน้ำและโฟม อีกทั้งในวันนี้ยังจะมีการใช้สารเคมีดับไฟเข้ามาร่วมด้วย ซึ่งก็จะทำให้ประกายไฟดับลงได้อย่างสนิท
นายสมบูรณ์ สุขผล นายก ทต.แคราย และ นายพรพิศุทธ์ บุญศิริ ผู้ช่วยหัวหน้า สนง.ปภ.จังหวัดสมุทรสาคร ระบุว่า ภาพรวมสถานการณ์ ณ ขณะนี้ดีขึ้น การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่รุดหน้าไปมากกว่า 50 – 60 เปอร์เซ็นต์ ยังคงเหลือในส่วนของประกายไฟที่เกิดการปะทุขึ้นมาใหม่ จากการทำปฏิกิริยาระหว่างสารเคมี กับ ความชื้น ซึ่งสารเคมีชนิดนี้ไม่สามารถใช้น้ำหรือโฟมดับได้ ดังนั้นจึงได้มีการประสานกับโรงงานให้ขนย้ายสารเคมีในส่วนที่ไม่ถูกไฟไหม้ออกมาให้หมด โดยในส่วนของสารคลอรีนขนย้ายออกมาหมดแล้ว คงเหลือแต่จำพวกโซดาไฟและสารอื่นๆ บางชนิด ซึ่งหากตักขึ้นมาก็จะเกิดการฟุ้งและทำปฏิกิริยาออกซิไดซ์ขึ้นมาได้อีก
ดังนั้นจึงปรับแผนมาใช้วิธีการของครูฝึกเจ้าหน้าที่ดับเพลิง คือ การใช้ทรายกลบแทนตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว แต่ด้วยสภาพของเนื้อทรายก็มีความชื้นที่เกิดจากฝนที่ตกลงมาก่อนหน้านี้ จึงทำให้ไม่สามารถดับได้สนิท ทั้งนี้จึงต้องถมทรายให้หนาขึ้นและใช้ทรายแห้งให้มากที่สุด ประกอบกับวันนี้จะมีการใช้ผงสารเคมีจากบริษัทเอกชนฯ เข้ามาร่วมด้วย ซึ่งก็คาดว่าภายในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ถึง 1 ทุ่ม ประกายไฟที่เกิดการปะทุขึ้นมาใหม่นั้นจะดับสนิท
ขณะที่ในด้านของโครงสร้างตัวอาคารนั้น จากการตรวจสอบเบื้องต้นไม่พบการชำรุดเสียหาย เพราะไฟไม่ได้ไหม้ขึ้นไปถึงโครงสร้างด้านบนของตัวอาคาร เป็นการไหม้เฉพาะกองสารเคมีเท่านั้น นอกจากนี้ทางด้านของสาเหตุที่เกิดเพลิงไหม้สารเคมีในครั้งนี้ ก็น่าจะมาจากความบกพร่องในช่วงการขนย้ายสารเคมี โดยทางพนักงานสันนิษฐานว่า ก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุนั้น คนงานได้ทำการขนย้ายสารเคมีลงจากตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อนำมาเก็บเรียงไว้ในตัวอาคาร แต่เกิดการตกหล่น ประกอบกับช่วงกลางคืนและวันเกิดเหตุมีฝนตกลงมา จึงทำให้เกิดปฏิกิริยาระหว่างสารเคมีกับความชื้นกลายเป็นไฟลุกไหม้ขึ้น แต่ก็ยังไม่สามารถระบุสาเหตุที่ชัดเจนได้ ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบต่อไป
สำหรับสารเคมี หรือ สารคลอรีน ที่เกิดไฟไหม้ขึ้นนั้น เป็นสารที่ไม่สามารถดับด้วยน้ำหรือโฟมได้ ยิ่งถ้าไปสัมผัสน้ำกับอากาศแล้ว ก็จะทำให้เกิดกลิ่นเหม็นฉุนที่รุนแรง และการฟุ้งกระจายของกลุ่มควัน จึงทำให้ในช่วงที่เกิดเหตุจนถึงเมื่อคืนนี้ ประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ในด้านใต้ลม จะได้กลิ่นเหม็นคลอรีนที่รุนแรง บางคนมีอาการแสบตา แสบจมูก โดยเฉพาะชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 4 กับ หมู่ที่ 5 ตำบลแคราย และหมู่ที่ 6 ต.บางน้ำจืด (พื้นที่ติดต่อ)
ทั้งนี้เมื่อคืน (15 พ.ย.67) ทางเทศบาลฯ ได้ร่วมกับ ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัด สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน และ รพ.สต.แคราย ทำการสำรวจพร้อมกับอพยพประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนออกมาอยู่ที่ศูนย์พักพิงชั่วคราว วัดสุวรรณรัตนาราม (แคราย) ประมาณ 60 – 70 คน แต่พอตอนเช้าวันนี้ ( 16 พ.ย.) ทุกคนมีอาการดีขึ้นและสภาพกลิ่นเหม็นในอากาศก็จางไปแล้วนั้น ก็ทำให้ประชาชนขอกลับไปพักที่บ้านดังเดิม ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ฯ ก็พาส่งกลับบ้านตามความประสงค์ของทุกคน
ด้านนายฐิติวัชร์ วารีรัตน์ภากร สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน กล่าวว่า อาการโดยรวมของผู้ที่ย้ายออกมาจากบ้านประมาณ 60 คนนั้น ปกติดีแล้ว และยังไม่พบผู้ที่มีอาการรุนแรง แต่ก็จะมีการติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงแจ้งให้ประชาชนเฝ้าระวังตนเอง และแนะนำการดูแลปฏิบัติตนหากเกิดอาการผิดปกติ เช่น แสบตา แสบจมูก เวียนหัว เป็นต้น ส่วนผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสารเคมีของโรงงานดังกล่าวให้มาแจ้งเรื่องร้องเรียนที่ได้ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทต.แคราย หรือที่กองบัญชาการเหตุการณ์ฯ นอกจากนี้ยังจะมีการแจกแมสให้กับประชาชนในกลุ่มเสี่ยงอีกด้วย