ผัวเมียเปิดปากหลังจนมุม ปมปาดคอฆ่าโหดเพื่อนคนงานเลี้ยงเป็ด | คมชัดลึก

16 พ.ย. 2567 พ.ต.อ.ยุทธนา ไตรทิพย์ ผกก.สภ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พร้อมชุดสืบสวน จับกุมตัว นายวินิต หรือเชียง อายุ 48 ปี ชาว จ.เพชรบูรณ์ และ น.ส.อพัชรา อายุ 30 ปี ชาว จ.กาญจนบุรี สองผัวเมีย ขณะเดินอยู่ริมถนนสายสตึก-แคนดง ผู้ต้องหาฆ่า นายสมบัติ อายุ 57 ปี ชาว จ.ยโสธร คนงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง เสียชีวิต กลางทุ่งนาที่บ้านโนนยาง หมู่ 8 ตำบลท่าม่วง อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 15 พ.ย.2567 ที่ผ่านมา

สอบสวนนายเชียง รับว่า ก่อเหตุฆ่านายสมบัติ จริง จากนั้นตำรวจได้พาตัวสองผัวเมียไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่เกิดเหตุ โดยระหว่างการทำแผนนายเชียง เผลอพูดว่า เมียเป็นคนยื่นมีดให้ปาดคอ ตำรวจจึงควบคุมตัวภรรยาด้วย

นายเชียง เล่าว่า ตนกับภรรยามาสมัครงานกับเจ้าของเป็ด และเพิ่งมาทำงานเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่งได้ 6 วัน แต่ถูกนายสมบัติ คนเลี้ยงเป็ดก่อนหน้านี้ดูถูกว่ าเลี้ยงเป็ดไม่เป็นทุกวัน ก่อนเกิดเหตุนายสมบัติ เมาสุรามาด่าพ่อแม่และเมีย ประกอบกับเมีย บอกว่า “สั่งสอนมันหน่อย” จึงคว้าเอาค้อนทุบหัว 1 ครั้ง จนนายสมบัติ ล้มลง จากนั้นภรรยาได้ยื่นมีดกรีดยางให้ จึงเอาไปปาดคอ 4 ครั้ง แล้วหนีออกจากที่เกิดเหตุ

เดินเท้าไปที่ อบต.ท่าม่วง อ.สตึก เพื่อขอนอนพัก จนรุ่งเช้าไปแจ้งหน่วยกู้ชีพว่า ไม่มีรถจะไปโรงพยาบาลตามหมอนัดที่ จ.นครราชสีมา จากนั้นหน่วยกู้ชีพจึงพาตัวไปส่งไว้ที่ สภ.สตึก เพื่อให้ตำรวจหาทางช่วยเหลือ พอไปถึงสถานีตำรวจ จึงไปขอเงินเป็นค่ารถต่อมา ตำรวจได้ยื่นเงินให้จำนวน 500 บาท ก่อนที่ตนจะเดินออกไปกะว่าไปหากินข้าว กระทั่งตำรวจตามมาจับกุมดังกล่าว

ด้าน นายจำนงค์ อายุ 54 ปี ชาว จ.พิษณุโลก เจ้าของเป็ดไล่ทุ่ง เล่าว่า ขนเป็ดจำนวน 13,000 ตัว เดินทางจาก จ.พิษณุโลก เพื่อตระเวนเลี้ยงเป็ดตามทุ่งนา จ้างคนเลี้ยง 1 คน แต่ไม่พอ จึงรับสมัครมาอีก 2 คน คือสองสามีภรรยา ที่ก่อเหตุ ส่วนสาเหตุตนไม่ทราบ

แต่สิ่งที่เจ็บช้ำมากที่สุด คือหลังเกิดเหตุ ไม่มีใครดูเป็ด ทำให้เป็ดกว่า 13,000 ตัวหายไปทั้งหมดไม่รู้ว่าไปอยู่ไหนเพราะไม่มีใครต้อน

หลังทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ตำรวจตั้งข้อหา สองผัวเมีย ฐานร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนส่งดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป